fbpx
Home
|
ไลฟ์สไตล์

5 วิธีหยุดอาการแพนิคที่โจมตีเรา

Featured Image

          อาการตื่นตระหนก หรือ แพนิค (Panic) นั้นสามารถเกิดขึ้นได้ แล้วเราจะทำยังไงดีหากอาการตื่นตระหนกนั้นเกิดขึ้นอย่างกระทันหัน เราจะรับมืออย่างไรเมื่อความตื่นตระหนกเข้ามาโจมตีเรา วันนี้มี 5 วิธีหยุดอาการแพนิค ที่รู้ไว้เป็นประโยชน์กับตัวเองและคนรอบข้างแน่นอน 

          ก่อนอื่นมาพูดถึงอาการ แพนิค กันเล็กน้อย แพนิค นั้นเราอาจจะคุ้นชินกันเวลาอ่านข่าวแล้วรู้สึกแพนิค รู้สึกกลัว แต่รู้ไหมว่ามีบางคนที่เวลาเกิดเรื่องอะไรกระทันหันก็จะเสียขวัญ โดนอาการแพนิคโจมตีอย่างรุนแรง บางคนมีอาการหายใจลำบาก  เหงื่อจะออก รู้สึกกลัว หากเราหรือคนรอบตัวเจออาการแบบนี้ลองทำตามวิธีนี้ดู 

          1.หายใจลึกๆ 

          เมื่อเกิดอาการแพนิค ให้หายใจเข้าลึกๆ จะช่วยลดอาการตื่นตระหนกได้ พยายามตั้งสติ โฟกัสไปที่การหายใจเข้า-ออก แบบช้าๆ ค่อยๆ ทำแบบนี้จะช่วยให้เรารู้ตัวเองว่ากำลังเกิดอาการตื่นตระหนกและช่วยให้เราควบคุมมันได้มากขึ้น

          2.หลับตา

          อาจจะเป็นไปได้ว่าเราเห็นอะไรบางอย่างแล้วมันทำให้เกิดอาการแพนิค หากเจอแบบนี้ให้หลับตา เพื่อป้องกันและลดการรับรู้ต่อสิ่งที่ทำให้เกิดอาการแพนิคได้อีกด้วย 

          3.มองโฟกัสไปทีละอย่าง

          หากหลับตาแล้วกลัวคิดอะไรมากกว่าเดิม ลองจ้องไปที่วัตถุหรืออะไรสักอย่าง อาจจะมองคนที่อยู่ตรงหน้าเราก็ได้ สายตาที่โฟกัสอะไรบางอย่างจะช่วยให้เรามีสติมากขึ้น 

          4.ดมกลิ่น

          ยาดมหรือน้ำมันหอมระเหยเป็นสิ่งที่ควรมีติดกระเป๋าไว้ เมื่อเกิดอาการตื่นตกใจ การดมกลิ่น เช่น กลิ่นลาเวนเดอร์ นั้นจะช่วยให้ร่างกายรู้สึกผ่อนคลายมากยิ่งขึ้น ยังมีกลิ่นหอมของดอกไม้ต่างๆที่สามารถช่วยทำให้คุณผ่อนคลายได้อีกด้วย ว่าแต่จะมีดอกไม้แบบไหนบ้าง ไปอ่านได้เลยที่นี่ กลิ่นของดอกไม้ที่ทำให้คุณผ่อนคลาย

          5.พูดอะไรซ้ำๆ

          การบอกตัวเองว่า ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร ซ้ำๆจะช่วยให้เราสงบสติอารมณ์ได้ เช่นเดียวกับการ สวดมนต์ซ้ำๆ ก็ช่วยให้เราได้สติเช่นกัน 

          เวลาเกิดอาการแพนิค สิ่งสำคัญที่สุดคือเรียกสติตัวเองกลับมา ใครมีวิธีเรียกสติยังไงกันบ้าง บอกกันไว้หน่อยเพื่อเป็นประโยชน์กับคนที่เข้ามาอ่าน หากชอบก็อย่าลืมติดตามบทความแบบนี้ได้ที่ INN Lifestyle

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

ขอขอบคุณข้อมูล

healthline 

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube