fbpx
Home
|
ไลฟ์สไตล์

5 วิธีระงับระเบิดอารมณ์

Featured Image

          ความโกรธ มีหลายระดับ แน่นอนว่าหากไม่มากเราอาจจะควบคุมอารมณ์ตัวเองได้ แต่พอถึงจุดหนึ่ง จุดที่อารมณ์โกรธกำลังระเบิดออกมา เรียกได้ว่าสถานการณ์อันตรายแน่ๆ เราจะมีวิธีระงับระเบิดลูกนี้อย่างไรเพื่อไม่ให้ทำร้ายเราและคนรอบตัว วันนี้ทีม INN มีวิธีตัดชนวนระเบิดได้แบบทันทีมาฝากกัน 

          1.ก้มหัวลงเล็กน้อย เอาลิ้นแตะเพดานปาก 

          หากรู้ตัวว่ากำลังจะระเบิดลองก้มหัวลงเล็กน้อย ใช้ลิ้นแตะที่เพดานปากบนหน้าที่ติดกับฟันหลายๆครั้งแบบเบาๆ หากจะดูแปลกไปสักนิด แต่วิธีนี้จะช่วยผ่อนคลาย ลดความตึงบริเวณคอ ทำให้อารมณ์เย็นลงได้

          2.หายใจออกนานๆ

          อีกหนึ่งวิธีที่เราเคยได้ยินและคงเห็นกันบ่อยที่สุดคือเวลาโกรธให้หายใจเข้าหายใจออกช้าๆ ลองเพิ่มเทคนิคไปอีกสักนิดโดยเวลาหายใจเข้าให้นับ 1 ถึง 4 เวลาหายใจออกให้นับ 1 ถึง 6 ค่อยๆทำแบบช้าๆ วิธีนี้จะช่วยให้เราสงบสติอารมณ์ได้ง่ายขึ้น ความเดือดของอารมณ์ก็จะลดน้อยลง 

          3.จุ่มน้ำเย็น

          หากอยู่ที่บ้านแล้วรู้สึกว่าอารมณ์โกรธของตัวเองกำลังจะระเบิด ลองเอาอะไรมาใส่น้ำเย็น แล้วจุ่มหน้าลงไปเลย (จุ่มลงไปและกลั้นหายใจไว้นะ แต่ไม่ต้องนานมาก) แล้วเงยหน้าขึ้นมา วิธีนี้เป็นวิธีบำบัดแบบ Dialectical Behavior Therapy หรือ DBT การบำบัดที่ช่วยให้เราใจเย็นลง

          4.ทำสิ่งที่ตรงกันข้ามกับอารมณ์

          เป็นอีกหนึ่งวิธีที่น่าสนใจ หากรู้ตัวว่ากำลังโมโหหงุดหงิด ลองทำสิ่งที่ตรงกันข้ามกับความรู้สึกดู ง่ายสุดหยิบมือถือขึ้นมาเปิด facebook หรือ Instagram แล้วลองกดหัวใจให้ใครสักคน การทำงานที่ตรงกันข้ามนี้จะช่วยให้เรารู้สึกใจเย็นลงได้ 

          5.อธิษฐาน

          เป็นหนึ่งสิ่งที่หลายคนทำกัน เมื่อเวลาโกรธหลายคนมักจะอธิษฐานตามความเชื่อของศาสนาแต่ละบุคคล เพื่อหวังว่าให้เรื่องที่เกิดขึ้นผ่านไปได้ด้วยดี ได้รับเมตตาจากพระผู้เป็นเจ้า 

          ความโกรธเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้กับทุกคน แม้แต่หิวข้าวก็อาจทำให้โมโหได้ แต่สำคัญที่สุดคือการควบคุมตัวเองเพื่อไม่ให้ส่งผลเสียทั้งตัวเองและคนรอบข้าง ใครมีวิธีควบคุมอารมณ์ยังไงกันบ้างบอกกันไว้หน่อย สำหรับใครที่ไม่อยากพลาดทุกเรื่องอินเทรนด์ สามารถติดตาม ข่าวหรือ ไลฟ์สไตล์ต่างๆได้ที่ INN Lifestyle

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

ขอขอบคุณข้อมูล 

psychologytoday

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube