รีวิว ภาพยนตร์ “ลักกันวันตาย Everybody Loves Me When I’m Dead”
รีวิว ภาพยนตร์ “ลักกันวันตาย Everybody Loves Me When I’m Dead” เมื่อศีลธรรมในจิตใจถูกทดสอบด้วยเงิน 30 ล้านของคนตาย

ข้อมูลเบื้องต้น
ชื่อภาษาไทย : ลักกันวันตาย
ชื่อภาษาอังกฤษ : Everybody Loves Me When I’m Dead
ผู้กำกับ: นิธิวัฒน์ ธราธร
ประเภท: อาชญากรรม, ดราม่า, ระทึกขวัญ
ความยาว: 2 ชั่วโมง 8 นาที
แพลตฟอร์ม : Netflix
วันที่ฉาย: 14 ตุลาคม 2568
นักแสดงนำ : “เคน-ธีรเดช วงศ์พัวพันธ์” , “ริว-วชิรวิชญ์ วัฒนภักดีไพศาล” , “ฮิวโก้-จุลจักร จักรพงษ์” , “เอินเอิน-ฟาติมา เดชะวลีกุล”



เรื่องย่อ
เรื่องราวของ “โต” (เคน ธีรเดช) พนักงานธนาคารที่ทุ่มเทให้กับการทำงาน เขายังมีบทบาทเป็นคุณพ่อผู้ทุ่มเท แต่โตก็ต้องเผชิญกับวิกฤตชีวิต เมื่อต้องหาเงินก้อนมาจ่ายค่าเทอมโรงเรียนนานาชาติให้ลูกสาว ในขณะที่โตกำลังเคร่งเครียดอยู่นั้น รุ่นน้องที่ธนาคารอย่าง “เพชร” (ริว วชิรวิชญ์) ได้บังเอิญพบว่ามีบัญชีธนาคารของลูกค้าที่เสียชีวิตไปแล้ว มีจำนวนเงินฝากสูงถึง 30 ล้านบาท บัญชีไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ และผู้ตายไม่มีทายาท โตและเพชรจึงร่วมมือกันเพื่อแอบนำเงินในบัญชีของคนตายออกมาใช้ โดยที่ไม่รู้ว่าเงินมูลค่ามหาศาลที่ล่อตาล่อใจนั้น จะนำพาพวกเขาไปสู่โลกอาชญากรรมที่อันตรายเหนือควบคุม และต้องเอาชีวิตรอดจากแก๊งอาชญากรที่ตามไล่ล่าทวงเงินจากพวกเขา




ความรู้สึกแรกที่ได้ดูคิดว่าจะเป็นหนังที่ค่อย ๆ เล่าวิธีการที่ “โต” และ “เพชร” จะนำเงินของ “ป้าจิต” ออกมายังไง แต่พอดำเนินเรื่องไปเรื่อย ๆ หนังเริ่มเผยแก่นที่แท้จริงคือเรื่องของศีลธรรม แม้ “โต” จะรู้ว่าผิดแต่ ก็มีข้ออ้างที่ทำก็คือเพื่อลูก ซึ่งในความเป็นจริงจากมุมมองของเราคิดว่า “โต” กับ “จ๋า” ที่เป็นภรรยาดูเหมือนจะทำในสิ่งที่เกินตัวไปมาก ในขณะที่ “เพชร” มีเหตุผลที่จำเป็นต้องทำเพราะว่าต้องหาเงินไปใช้หนี้ และด้วยความที่เป็นพนักงานธนาคารทั้งคู่ทำให้เห็นช่องโหว่ของบัญชีคนตาย
เมื่อถึงจุดถอยหลังกลับไม่ได้ “โต” ก็เผยให้เห็นความฉลาดของตัวเองที่เป็นเหยื่อเฉย ๆ หลอกให้ผู้ล่าฆ่ากันเอง จนท้ายที่สุดก็ได้เงินไป
และ “เข็ม” เป็นตัวแทนของศีลธรรมในเรื่อง ตั้งแต่อยากเอาเงินที่แม่ตัวเองขโมยมาไปคืนเจ้าของ จนในตอนสุดท้ายที่ได้เงินส่วนแบ่งจาก “โต” ก็เอาไปเผาทิ้ง จะเห็นได้ชัดเลยว่าชีวิตความเป็นอยู่ของ “เข็ม” ก็ไม่ได้ดีมาก แต่เธอก็ไม่ได้ใช้สิ่งนี้มาเป็นข้ออ้างในการทำผิดศีลธรรม


หนังสร้างความคาดหวังให้คนดูคิดว่าสองคนนี้จะเอาเงินออกมาใช้ได้สำเร็จซึ่งก็จริงในช่วงแรก และค่อย ๆ ดิ่งพาให้เห็นด้านมืดของคนที่ทำเพื่อตัวเอง ทั้ง “วุฒิ” ผู้จัดการธนาคารที่ดูเหมือนจะเป็นคนดีแต่พอเห็นเงินตรงหน้าก็รีบฉกฉวยไป และ “โต” ที่ยังคงทำเพื่อเงิน แม้จะเห็นความตายอยู่ตรงหน้า กลับกัน “เพชร” ไม่ได้มีศีลธรรมแต่อย่างใด แต่มีความกลัวตายมากกว่า ด้วยสิ่งที่ต้องแบกรับมันแตกต่างกันทำให้อยู่ ๆ “โต” ที่ดูเหมือนจะมีศีลธรรมในตอนแรก กลายเป็นคนที่ทำได้ทุกอย่าง ไม่ว่าใครจะตายก็ช่าง
และหนังยังเผยให้เห็นเส้นทางของเงิน 30 ล้านนั้นว่ามีที่มายังไง และสุดท้าย “โต” ก็ได้เงินนั้นไป แต่ก็ต้องตายเหมือนตัวละครอื่น ๆ และตัวละคร “ป้าจิต” ที่ดุเหมือนจะไม่สำคัญมากแต่กลายเป็นต้นเหตุทั้งหมดที่ทำให้เกิดเรื่องพวกนี้ และสุดท้ายก็ตายอย่างโดดเดี่ยว
ส่วนตัวคิดว่าหนังทำให้เห็นจุดจบของตัวละครแต่ละตัวได้ดีทั้ง “เพชร” และ ”โต” ที่ต้องตายแต่ก็ยังมีส่วนหนึ่งที่ทำให้เห็นว่าสองคนนี้ไม่ได้ดำมืดไปซะทีเดียว คาแรกเตอร์ของตัวละครที่มีความเป็นมนุษย์สูง แม้จะดูเหมือนมีศีลธรรมในตอนแรก แต่เมื่อจนตรอกก็ต้องทำเพื่อตัวเองทั้งนั้น




ทำไมถึงมีหิมะตก?
เป็นที่รู้กันดีว่าในประเทศไทยนั้นหิมะไม่มีทางตกได้อย่างแน่นอน แต่ในบางฉากของ “โต” กลับเห็นหิมะตกอยู่ ตรงนี้คิดว่าเป็นนัยยะสำคัญที่ต้องการสื่อถึงลูกของ “โต” ที่ชื่อ “สโนว์” เหมือนกับว่าหิมะนั้นจะสื่อถึงสิ่งที่ “โต” ทำก็คือเพื่อลูก แม้แต่ในตอนสุดท้ายที่กำลังจะตายก็ยังนึกถึงลูก
สรุป
โดยรวมแล้วไม่น่าเบื่อ เป็นหนังที่สามารถดูได้เพลิน ๆ แต่ไม่ได้ชวนลุ้นตามขนาดนั้นเพราะหลายฉากสามารถคาดเดาได้ว่าต่อไปจะเกิดอะไรขึ้น แต่ก็ถือว่าเป็นภาพยนตร์ไทยอีกเรื่องหนึ่งที่สะท้อนหลายอย่างได้ดีมาก ๆ เล่นกับความโลภและศีลธรรมในจิตใจของคนที่ไม่รู้จักพอ และเมื่อจนตรอกก็ยอมทำทุกอย่างเพื่อให้ได้เงินมา
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews





