fbpx
Home
|
เศรษฐกิจ

อคส.โชว์ผลงานรอบ 2 ปี ลุยปรับโฉมคลังสินค้า

Featured Image
อคส.โชว์ผลการขับเคลื่อนงานรอบ 2 ปี ลุยปรับโฉมคลังสินค้า เพิ่มรายได้ค่าเช่า ย้ำสะสางการระบายข้าว มัน ข้าวโพด และเร่งดำเนินคดีการทุจริต ติดตามค่าเสียหายคืน

 

 

นายเกรียงศักดิ์ ประทีปวิศรุต ผู้อำนวยการองค์การคลังสินค้า หรือ อคส. เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานของ อคส. ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา หลังจากเข้ามารับตำแหน่งตั้งแต่ช่วงเดือนกันยายน 2563 ว่า การเข้ามาขับเคลื่อน อคส. เป็นช่วงที่เกิดวิกฤตการแพร่ระบาดของโควิด-19 พอดี แต่ก็สามารถผลักดันให้องค์กรมีความก้าวหน้า และเปลี่ยนแปลงได้ในหลายเรื่อง

 

โดยเฉพาะการสร้างรายได้จากทรัพย์สินหลักของ อคส. คือ คลังสินค้า ซึ่งได้มีการปรับปรุงหลังคาคลังสินค้าธนบุรีใหม่ เพื่อให้เพิ่มปริมาณเก็บสินค้าได้เพิ่มขึ้น มีการขุดลอกท่าเทียบเรือ เพื่อให้เรือใหญ่เข้ามาเทียบท่าเพื่อขนส่งสินค้าได้สะดวกขึ้น จนสามารถทำให้ อคส. มีรายได้จากค่าเช่าคลังสินค้าในปี 2565 อยู่ที่ 72.3 ล้านบาท สูงสุดในรอบ 30 ปี และหากรวมรายได้จากโครงการอื่น ๆ ทำให้ อคส.มีกำไรขั้นต้นในปี 2565 ถึง 81.5 ล้านบาท สูงสุดในรอบ 20 ปี แต่ภาพรวมในปี 2565 อคส. ยังขาดทุนอยู่ประมาณ 120 ล้านบาท แต่มั่นใจว่า ภายในปี 2567 น่าจะพลิกกลับมามีกำไรได้ หลังจากที่มีแผนในการสร้างรายได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

 

สำหรับแผนการใช้ประโยชน์จากคลังสินค้า เพื่อเพิ่มรายได้ให้กับ อคส. จะใช้ประโยชน์จากคลังสินค้าที่มีอยู่เพิ่มเติม ได้แก่ คลังสินค้าอุทยานวิทยาศาสตร์วังจันทร์ จ.ระยอง ใช้เป็นโรงงานผลิตสารสกัดจากกระท่อม คลังสินค้าลพบุรี เป็นที่เก็บและแปรรูปข้าวพื้นแข็ง คลังมหาสารคาม ทำเป็นห้องเย็นสำหรับเก็บผลผลิตทางการเกษตร เช่น ปลา เนื้อวัว คลังสุรินทร์ ทำเป็นที่เก็บเนื้อวัวพรีเมียม คลังกระบี่ เก็บเนื้อแพะ และคลังนราธิวาส ใช้เป็นคลังสินค้าเพื่อสนับสนุนการค้าชายแดน และเก็บทุเรียนแช่แข็ง

 

นอกจากนี้ ได้เพิ่มสาขาคลังสินค้าในต่างประเทศที่ทวาย ซึ่งได้ทำบันทึกความเข้าใจ (MOU) กับเมียนมาไปแล้ว มีระยะทางจากไทยถึงคลังสินค้า 180 กิโลเมตร สะดวกในการส่งสินค้าไปจีนและตะวันออกกลาง และจะตั้งที่หนานชา มณฑลกวางตุ้ง ของจีน จะทำเป็นคลังแฝด (ธนบุรี-หนางชา) ซึ่งกำลังรอผู้บริหารชุดใหม่ของท่าเทียบเรือหนางชามีดำเนินการต่อ

 

นายเกรียงศักดิ์ ยังกล่าวถึงงานสะสาง ของ อคส. ว่า ได้ระบายข้าวในสต๊อกรัฐบาลหมด ล็อตสุดท้ายเป็นข้าวนอกบัญชีปี 2548/49 และได้ฟ้องดำเนินคดีผู้กระทำการทุจริตแล้ว 1,179 คดี มูลค่าความเสียหาย 503,590 ล้านบาท ระบายมันสำปะหลังได้หมด และฟ้องดำเนินคดี 166 คดี ความเสียหาย 20,065 ล้านบาท ส่วนข้าวโพด ก็ระบายหมดทุกคลัง ฟ้องร้องดำเนินคดี 4 คดี ความเสียหาย 1,072 ล้านบาท ส่วนโครงการทุจริตถุงมือยาง ได้ดำเนินการอายัดเงิน 2,000 ล้านภายใน 50 วัน และมีการดำเนินการต่อโดยไล่ออกผู้กระทำความผิด และขณะนี้ อยู่ระหว่างการดำเนินการของ ป.ป.ช.

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube