DSI สางปมคุก VIP พบเส้นทางเงินโยง “กลุ่มจีน-อดีต ผบ.เรือนจำ-ทนายดัง”
ความคืบหน้าการตรวจสอบกรณี คุกวีไอพี เอื้อผู้ต้องขังจีนเทา ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร หลังจาก เมื่อวันที่ 24 พ.ย. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ กองคดีความมั่นคง คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงของกรมราชทัณฑ์ ได้ร่วมกันเข้าไปด้านในเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร
โดยเฉพาะบริเวณอาคารสำนักงานผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร เพื่อสอบสวนปากคำข้อมูลกับ เจ้าหน้าที่เรือนจำ รวบรวมเก็บพยานเอกสารและพยานวัตถุ ก่อนเตรียมรับผลรายงานจากการตรวจพิสูจน์สารพันธุกรรม (DNA) ของสถาบันนิติวิทยาศาสตร์
เพื่อใช้ประกอบภายในสำนวนการสืบสวนขบวนการทุจริต ภายในเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ขณะที่ปลัดกระทรวงยุติธรรม ได้มีการเซ็นคำสั่งให้ข้าราชการเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร จำนวนรวม 6 ราย ออกจากราชการไว้ก่อน
ล่าสุด มี รายงานจาก กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ DSI เปิดเผยว่า ระหว่างสัปดาห์นี้ พนักงานสืบสวนดีเอสไอได้ดำเนินการสอบปากคำพยาน ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ไปแล้วมากกว่า 20 ราย ส่วนเจ้าหน้าที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ที่มีรายชื่อถูกย้ายไปปฏิบัติหน้าที่ยังเรือนจำต่างจังหวัดนั้น ได้มีการสอบปากคำพยานเข้าสู่สำนวนไว้บางส่วนแล้ว
ยอมรับว่ามีบางส่วนให้การเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง ทำให้เห็นถึงบทบาทการเเบ่งหน้าที่กันทำของกลุ่มคน ส่วนการตรวจสอบ เส้นทางการเงิน ดีเอสไอไล่ดูทั้งคนในและคนนอก โดยเฉพาะกรณีเป็นคนใกล้ชิดกับอดีต ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ซึ่งพบเส้นทางการเงินเชื่อมโยงกันจริงระหว่างกลุ่มคนจีนและเจ้าหน้าที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร
รวมถึงทนายความชื่อดังจากจังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งพนักงานสืบสวนอยู่ระหว่างเรียกสอบปากคำ ดังนั้น การวิเคราะห์เส้นทางการเงินทั้งหมดของตัวละครในเรื่องนี้ จะฉายภาพให้เห็นถึงความเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกันว่าสนับสนุน การทำอะไรกันบ้าง และเรื่องนี้จะถูกสรุปสำนวนสืบสวนส่งให้เจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. ไต่สวนข้อเท็จจริงต่อไป เพราะพบการกระทำผิดของเจ้าหน้าที่รัฐ และมีพลเรือนช่วยสนับสนุนการกระทำผิดของเจ้าหน้าที่รัฐ
ดีเอสไอ ยังให้ข้อมูล อีกว่า สำหรับพฤติการณ์ของทนายความชื่อดังในจังหวัดสมุทรปราการ ดีเอสไอสืบสวนพบข้อมูลว่า เจ้าตัวมีความเชื่อมโยงกับการประสานคดีความของผู้ต้องหาชาวจีนในเรือนจำจำนวนมาก
เช่น อยู่ในทะเบียนประวัติการเยี่ยมญาติของผู้ต้องขังชาวจีนมากหน้าหลายตา รวมถึงผู้ต้องขังชาวไทยปะปนเล็กน้อย ซึ่งเป็นเรื่องที่ถูกตั้งข้อสังเกตว่าเหตุใดจึงต้องเป็นทนายความรายนี้ ที่ถูกเลือก ให้เป็นผู้ประสานงานทางคดีความของผู้ต้องขังชาวจีนตลอด เสมือนรับหน้าที่เป็นตัวกลางประสานเรื่องคดีความให้ผู้ต้องขังชาวจีนโดยไม่ซ้ำราย
รายงานภายในกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) เผยต่อว่า สำหรับการตรวจสอบข้อมูลการเดินทางเข้า-ออกราชอาณาจักรไทยของอดีต ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร พบว่า ใน 1 ปี เดินทางไปเที่ยวยังประเทศหนึ่งบ่อยครั้ง บ่อยผิดปกติ และไม่มีการแจ้งลาปลัดกระทรวงยุติธรรม
อีกทั้งเป็นพฤติกรรมที่ชื่นชอบเดินทางตั้งแต่ก่อนมาดำรงตำแหน่ง ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ซึ่งข้อมูลส่วนนี้จะช่วยใช้สนับสนุนการสอบสวนประเด็น เกี่ยวกับธุรกรรมการเงินได้ และเมื่อมีความคืบหน้าสำคัญ ดีเอสไอจะรายงานไปยังผู้บังคับบัญชารับทราบเพื่อนำเสนอข้อมูลสู่สาธารณะต่อไป เนื่องจากเป็นเรื่องที่อยู่ในความสนใจของประชาชน
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews





