Home
|
ข่าว

“อนุสรณ์” ย้อนให้ภาพเล่าเรื่อง “อนุทิน” ทำไมถึงปราบสแกมเมอร์ไม่ได้

Featured Image
“อนุสรณ์” จับโป๊ะ “อนุทิน” ปมภาพหลุดร่วมเฟรม “เบน สมิธ” ย้อนให้ภาพเล่าเรื่อง ทำไมถึงปราบสแกมเมอร์ไม่ได้ ขณะ จี้ นายกฯ ไม่ควรเอาเรื่องแก้ รธน. มาเป็นตัวประกัน อย่ายุบสภาหนีการตรวจสอบ

 

นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี ภาพหลุด นายอนุทิน ชาญวีรกุล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ร่วมเฟรม กับนายเบน สมิธ เป็นสาเหตุที่รัฐบาลไม่กล้าปราบปรามหรือไม่ ว่า เมื่อครั้งที่นายอนุทิน ดูดสส. จากพรรคฝ่ายค้าน ไปเปิดตัวกับพรรคภูมิใจไทย ใช้การอธิบายว่า ให้ภาพเล่าเรื่อง

 

แต่ พอมีภาพหลุดร่วมเฟรมกับนายเบน สมิธ นายอนุทิน จะไม่ยอมเล่าอะไรเลยไม่ได้ ประชาชนอยากรู้ว่าใครเป็นคนปล่อยภาพหลุด และมีเป้าประสงค์อย่างไร เพราะนายอนุทินบอกเองว่า รู้ว่าใครเป็นคนปล่อยภาพหลุดนี้ การยอมรับว่ารับเคยเจอนายเบน สมิธ 5-6 ครั้งนั้น ประชาชนสงสัยว่านายอนุทิน พบนายเบน สมิธ ครั้งหลังสุดเมื่อไหร่ กินข้าวกันครั้งล่าสุดวันไหน

 

ถ้าเพิ่งพบกันในระยะใกล้ๆนี้ ประชาชนจะได้รู้ชะตากรรมของตัวเอง เพราะปัญหาสแกมเมอร์ ดูเหมือนรัฐบาลเสียงข้างน้อยจะไม่ได้ขยับอะไรเลย เกรงใจใครหรือไม่ รวมถึงปมสินบน งดปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์เดือนละ 40 ล้านบาท ซึ่งประชาชนเฝ้ารอฟังผลสอบว่าจะออกมากี่โมง และใครเป็นคนเสนอสินบนงดปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ดังกล่าว

 

“นายอนุทิน ต้อง ระมัดระวังให้มากในการตอบคำถาม กรณีภาพหลุดร่วมเฟรมกับนายเบนสมิธ เพราะหากมีภาพหลุดออกมาเพิ่มอีก แล้วย้อนแย้งกับสิ่งที่นายอนุทินพูด จะเป็นดิจิทัลฟุตพริ้นท์ที่ทิ่มแทง ทำให้นายอนุทินดิ้นไม่หลุด และเผชิญกับสถานการณ์ที่ยากลำบาก”

 

ขณะเดียวกัน ยังกล่าวถึงกรณีนายกรัฐมนตรี อกมาระบุ ได้คาดเข็มขัดนิรภัย พร้อมเผชิญอุบัติเหตุทางการเมืองทุกสถานการณ์ ว่า ไม่เหนือความคาดหมาย เพราะนายอนุทิน ส่งสัญญาณพร้อมยุบสภา หนีการตรวจสอบ ตลอดเวลาอยู่แล้ว

 

แต่สิ่งที่นายอนุทินต้องระวังคือ เข็มขัดสั้น คาดไม่ถึง ความเชื่อมั่นจมหาย ไปกับเหตุการณ์น้ำท่วม จนคนในรัฐบาลยอมรับเองว่าเป็นรัฐล้มเหลว แม้จะรัดเข็ดขัดแต่อาจไม่สามารถรอดพ้นจากแรงกระแทกอันรุนแรงจากพายุความผิดพลาด มือไม่ถึง ที่ถาโถมเข้าใส่อย่างไม่คาดคิด

 

รัฐบาลเสียงข้างน้อยอยู่มา 2 เดือนยังสั่นคลอนถึงเพียงนี้ หากต้องบริหารราชการแผ่นดินยาวนานถึง 4 ปี ประเทศชาติจะต้องเผชิญกับสถานการณ์ความไม่แน่นอนเพียงใด ความหวาดกลัวต่อการตรวจสอบ ของรัฐบาลเสียงข้างน้อย ยิ่งทำให้ความชอบธรรมของรัฐบาลถดถอยลงไปทุกขณะ รัฐบาลเสียงข้างน้อย และตัวนายอนุทินในฐานะหัวหน้ารัฐบาล จะต้องแยกแยะ

 

การแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นภารกิจที่คนไทยจับตามอง ในการฟื้นฟูหลักประชาธิปไตยให้กลับมาอยู่ในครรลองที่ถูกต้อง ยึดโยงกับประชาชน กับการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ซึ่งเป็นหน้าที่ของฝ่ายค้าน ในการตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐตามกลไกของระบบรัฐสภา ไม่ควรนำ 2 เรื่องนี้มาผูกโยงเป็นตัวประกัน หรือใช้เป็นข้ออ้างเพื่อสร้างเงื่อนไขในการยุบสภาหนีการตรวจสอบ

 

เมื่อพรรคเพื่อไทยได้ยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจแล้ว สภาก็ยังสามารถเดินหน้ากระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญไปได้ควบคู่กัน ไม่มีความจำเป็นต้องตีตนไปก่อนไข้ หรือสร้างภาพว่าฝ่ายค้านกำลัง ตัดตอน คว่ำไม่ให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ

 

ข้ออ้างที่ว่า เป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย ต่อให้ตอบคำถามได้ดีเพียงใด ก็จะถูกคว่ำกลางสภา เพราะเสียงสนับสนุนไม่พอนั้น ไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง เพราะรัฐบาลเสียงข้างน้อยชุดนี้ ยังมีพรรคฝ่ายค้ำ ที่ประกาศตน แสดงตัวอย่างชัดเจนตาม MOA

 

พร้อมให้การค้ำ และเคยสนับสนุนนายอนุทินขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีแบบยกพรรคมาแล้ว ดังนั้นข้อกังวลเรื่องถูกคว่ำในสภา จึงเป็นเพียงการสร้างวาทกรรมทางการเมืองเพื่อเบี่ยงเบนประเด็น ยุบสภาหนีการตรวจสอบ เท่านั้น

 

สำหรับประเด็นเนื้อหาที่ฝ่ายค้านจะหยิบยกขึ้นอภิปรายนั้น นอกจากคดี สแกมเมอร์ ทุนเทา เขากระโดง ฮั๊วสว. ในช่วงเวลาเพียง 2 เดือน เกิดเหตุการณ์ที่สะเทือนศรัทธาประชาชนเป็นจำนวนมาก และเพียงพอที่จะตั้งคำถามต่อความสามารถและความโปร่งใสของรัฐบาลชุดนี้ ไม่ว่าจะเป็นงบประมาณจัด Moto GP 4,000 ล้านบาท ข้อตกลง MOU แร่แรร์เอิร์ธระหว่าง สหรัฐฯ–ไทย ท่ามกลางศึกชิงทรัพยากรระดับมหาอำนาจ

 

วิกฤตน้ำท่วมที่คนในรัฐบาลเสียงข้างน้อยเองยังยอมรับว่าเป็นบทพิสูจน์ความล้มเหลวของรัฐ ตลอดจนกรณีภาพถ่ายและภาพหลุดต่างๆ ที่สั่นคลอนความน่าเชื่อถือของผู้นำรัฐบาลอย่างรุนแรง จนแม้แต่นักการเมืองในรัฐบาลยังไม่รู้จะชี้แจงประชาชนอย่างไร

 

“รัฐบาลเสียงข้างน้อยของนายอนุทินไม่ควรยุบสภา หนีการตรวจสอบ และไม่ควรนำประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาใช้เป็นตัวประกันทางการเมือง”

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube