คู่มือรับมือน้ำท่วมรถ

            จากสถานการณ์น้ำท่วมที่เกิดขึ้น หนึ่งในปัญหาที่หลายคนต้องเผชิญ คือเรื่องของ “น้ำท่วมรถ” เนื่องจากไม่สามารถเคลื่อนย้ายรถได้ทัน ซึ่งทำให้เกิดความเสียหายต่อระบบรถ และสภาพรถโดยรวม ยิ่งถ้าหากว่าไม่รู้ว่าต้องปฏิบัติตัวยังไง ก็อาจจะทำให้รถเสียหายกว่าเดิมได้ ในวันนี้จึงจะพามาเปิดคู่มือรับมือน้ำท่วมรถเบื้องต้น เพื่อให้สามารถรับมือกับปัญหานี้ได้อย่างเหมาะสม

วิธีเช็กระดับน้ำท่วมรถ

            วิธีเช็กระดับน้ำท่วมรถ เป็นการประเมินเบื้องต้น เพื่อให้สามารถประเมินปัญหาและความเสียหายได้ในเบื้องต้น ดังนี้

• น้ำท่วมถึงพื้นรถยนต์: มีโอกาสสร้างความเสียหายต่อระบบเบรก ผ้าเบรก พรมในห้องโดยสาร และอุปกรณ์บางส่วนที่อยู่ต่ำ เช่น ไดสตาร์ทหรือสายพาน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับระดับน้ำภายนอกและระยะเวลาที่รถแช่น้ำ
• น้ำท่วมถึงเบาะที่นั่ง: ระดับนี้เริ่มกระทบหลายระบบมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นชุดไฟฟ้า กล่อง ECU แบตเตอรี่ พัดลมระบายความร้อน รวมถึงมีความเสี่ยงที่น้ำจะรั่วซึมเข้าไปในระบบเครื่องยนต์หรือระบบเกียร์ ขึ้นอยู่กับรุ่นรถและการออกแบบ
• น้ำท่วมถึงคอนโซลหน้า: กรณีที่น้ำท่วมถึงคอนโซลหน้า จะเป็นระดับที่ร้ายแรงที่สุด เพราะจะส่งผลกระทบแทบจะทุกระบบ ทั้งเครื่องยนต์ และไฟฟ้า หลังจากน้ำลดแล้ว ควรส่งต่อให้ช่างทันที 

ข้อปฏิบัติเมื่อน้ำท่วมรถ

            สำหรับข้อปฏิบัติที่แนะนำให้ทำในเบื้องต้น เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายมากกว่าเดิม มีดังนี้

• ถอดแบตเตอรี่ออก: ในกรณีที่รู้แล้วว่าไม่สามารถย้ายรถออกจากตำแหน่งที่น้ำท่วมได้ ควรถอดแบตเตอรี่ออก เพื่อป้องกันไม่ให้แบตเตอรี่จมน้ำ แล้วเกิดไฟฟ้าลัดวงจร ซึ่งจะก่อให้เกิดความเสียหายใหญ่ตามมาได้
• ไม่สตาร์ทรถ: ไม่ควรสตาร์ทรถทันที เพราะอาจทำให้น้ำที่ซึมอยู่ในเครื่องยนต์ทำให้กลไกภายในเครื่องเสียหายได้
• ตรวจสอบเบื้องต้น: แนะนำให้เช็กด้วยตัวเองเบื้องต้น โดยเฉพาะบริเวณที่น้ำอาจขังอยู่ เช่น ใต้พรมปูพื้น ช่องเก็บของ และช่องเครื่องยนต์
• ส่งรถเข้าศูนย์ทันที: ในขั้นตอนการซ่อม แนะนำให้ส่งต่อให้ช่างที่เชี่ยวชาญทำ เพื่อให้ได้รับการตรวจสอบและซ่อมแซมที่ถูกต้อง ครบถ้วน 
• เฝ้าระวังปัญหา: หลังจากซ่อมเสร็จแล้ว ควรสังเกตอาการผิดปกติของรถอย่างใกล้ชิด ในกรณีที่พบความผิดปกติใด ๆ ควรแจ้งช่าง หรือนำรถเข้าตรวจสอบอีกครั้งทันที

 

              ปัญหาน้ำท่วมรถ เป็นหนึ่งในปัญหาที่เลี่ยงไม่ได้​เมื่อเกิดน้ำท่วม แนะนำให้ปฏิบัติตามข้อแนะนำเบื้องต้น และเมื่อน้ำลดให้รีบนำไปให้ช่างตรวจสอบทันที เพื่อลดความเสียหายให้มากที่สุด

             อย่างไรก็ตาม ปฏิเสธไม่ได้ว่าแม้ว่าจะซ่อมทั้งหมดแล้ว แต่รถก็อาจจะไม่กลับมาเป็นปกติ 100% ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องเข้าใจ ควรติดตามและเช็กสภาพรถอย่างต่อเนื่อง ขอให้ทุกคนเข้มแข็ง และผ่านวิกฤตครั้งนี้ไปให้ได้ครับ

 

ขอขอบคุณข้อมูลจาก

thairath

viriyah

peautotrade

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews