รถไฟฟ้าสายสีชมพู รถไฟฟ้าไร้คนขับ ไปกลับตอนไหนก็สะดวก
รถไฟฟ้าสายสีชมพู เป็นระบบขนส่งมวลชนแบบโมโนเรลสายแรกๆของไทยที่วิ่งให้บริการจริงจัง เป็นรถไฟฟ้ารุ่นใหม่ที่วิ่งบนรางเดี่ยวต่างออกไปจากสายสีเขรยวที่เราใช้กันมานาน และรุ่นนี้สายนี้เขาไม่ใช้บริการคนขับ เพราะมาพร้อมกับระบบรถไฟฟ้าที่ไรการขับโดยขน แต่เป็นการขับไปตามรางเดียวที่มีรอบการเดินทางชัดเจน แถมเรื่องเวลาบอกเลยว่ามาตรงเวลาการเดินทางถึงไวไม่แพ้สายไหนๆอย่างแน่นอน
เส้นทางเดิน รถไฟฟ้าสายสีชมพู ไปไหนได้บ้าง?
- เส้นทางหลัก: แคราย – มีนบุรี
- เริ่มต้นที่ สถานีศูนย์ราชการนนทบุรี (แคราย) จุดเชื่อมต่อสำคัญกับ MRT สายสีม่วง (เตาปูน-คลองบางไผ่)เปิดใหม่ให้บริการทั่วถึงและครอบคลุมมากขึ้น จะเดินทางช่วงเช้าสายบ่ายเย็น บริการรถไฟฟ้าก็เปิดให้บริการเวลาเทียบเท่ากับสายสีเขียว
- รถไฟฟ้าสายสีชมพู วิ่งยาวไปตามถนนติวานนท์ เข้าสู่ ถนนแจ้งวัฒนะ ผ่านเมืองทองธานี, ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ
- รถไฟฟ้าสายสีชมพู เข้าให้บริการผ่านถนนรามอินทรา วิ่งตรงไปเรื่อยๆผ่านไปถึงตลาดมีนบุรีกันเลยทีเดียวบอกเลยว่า หนีรถติดโซนนี้ได้เป็นอย่างดีหากขึ้นมาใช้บริการ รถไฟฟ้าสายสีชมพู
- รถไฟฟ้าสายสีชมพู เหมาะมากสำหรับคนทำงานในย่านศูนย์ราชการ, นักเรียนนักศึกษาแถบแจ้งวัฒนะ-รามอินทรา หรือใครที่ต้องเดินทางข้ามโซนจากนนทบุรีไปมีนบุรีบอกเลยว่าโซนนี้รถติดไม่แพ้ที่อื่นเลย การมี รถไฟฟ้าสายสีชมพู ทำให้การเดินทางง่ายขึ้น
ความสะดวกของ รถไฟฟ้าสายสีชมพู เมื่อเปิดให้บริการ?

- เดินทางในชีวิตประจำวันสำหรับ ทั้งนักเรียน นักศึกษา พนักงานบริษัท หรือข้าราชการที่ต้องเดินทางไปศูนย์ราชการ
- ไปเที่ยวก็ง่ายเพราะตามแนวสถานีมีห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆไม่ว่าจะเป็นเซ็นทรัลแจ้งวัฒนะ, แฟชั่นไอส์แลนด์, พรอมานาด หรือแม้แต่ตลาดมีนบุรี ก็ไปได้สบายๆ
- ไปงานอีเวนต์นี่คือไฮไลต์เพราะมันไปถึงส่วนต่อขยายเข้าอิมแพ็ค เมืองทองธานี จะทำให้การไปร่วมงานต่างๆที่จัดที่นั่นง่ายขึ้นมากๆลดความกังวลเรื่องรถติดและที่จอดรถไปได้เยอะเลย
- เชื่อมต่อการเดินทางอื่นอย่าง MRT สายสีม่วงที่แคราย และรถไฟฟ้าสายสีส้มที่มีนบุรี ทำให้การเดินทางไปปริมณฑลง่ายขึ้นไปอีก
ค่าโดยสารจ่ายเท่าไหร่?

- ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ประมาณ 15 บาท
- ราคาสูงสุดสำหรับการเดินทางตลอดสาย (แคราย-มีนบุรี) จะอยู่ที่ประมาณ 45 บาท
- การจ่ายเงินจ่ายได้ทั้งแบบเหรียญ ธนบัตรที่ตู้จำหน่ายตั๋ว หรือใช้บัตร EMV Contactless แตะเข้า-ออกได้เลยสะดวกสุดๆ
มีกี่ขบวน? และราคาขบวนละเท่าไหร่?
- รถไฟฟ้าสายสีชมพูมีขบวนรถที่ให้บริการอยู่ประมาณ 42 ขบวน แต่ละขบวนมีจำนวนตู้โดยสาร 4 ตู้ ด้วยกันสามารถรองรับผู้โดยสารได้แบบครอบคลุมทุกเวลาการเดินทาง
ข้อดีของรถไฟฟ้าสายสีชมพู
- 1. ประหยัดเวลาในการเดินทาง เพราะไม่ว่าจะเดินทางด้วยรถส่วนตัวหรือว่าเดินทางด้ววยรถสาธารณะ บอกเลยว่ายังไงก็ต้องไปลุ้นกัรถติดอยู่ดี แถมโซนพวกนี้ไม่ค่อยมีทางด่วนมากเท่าไหร่ ต่อให้มีกต้องลุ้นเมื่อลงทางด่วนมาเจอไฟแดงอยู่ การใช้การเดินทางแบบรถไฟฟ้า ทำให้ไม่ต้องเรื่องว่าจะรถติด เพราะคำนวนเวลาการเดินทางได้อย่างชัดเจน ไม่คลาดเคลื่อนเรื่องเวลาแน่นอนไม่ต้องกลัวสายเมื่อมีนัดสำคัญ
- 2. เดินทางไปอิมแพ็ค เมืองทองธานีสะดวกสุดๆอันนี้ไฮไลต์เด็ดสำหรับสายคอนเสิร์ต งานแฟร์ งานประชุมที่อิมแพ็คฯ นี่คือชีวิตเปลี่ยน เพราะมีส่วนต่อขยายแยกเข้าเมืองทองธานีโดยตรง ทำให้เรานั่งรถไฟฟ้าไปลงเกือบหน้างานได้เลย ไม่ต้องวนหาที่จอดรถเป็นชั่วโมง หรือต้องต่อรถหลายต่อให้วุ่นวายอีกต่อไป
- 3. เชื่อมต่อรถไฟฟ้าสายอื่นสายสีชมพูเป็นตัวเชื่อมสำคัญไม่ว่าจะเป็น
- MRT สายสีม่วง ที่สถานีศูนย์ราชการนนทบุรี (แคราย)
- รถไฟฟ้าสายสีส้ม ที่สถานีมีนบุรี
- 4. ค่าโดยสารเป็นมิตร ราคาเริ่มต้นแค่สิบกว่าบาท และสูงสุดไม่เกิน 45 บาทตลอดสาย ถือว่าคุ้มค่ามากๆเลยทำให้คนสามารถเข้าถึงการเดินทางด้วยรถไฟฟ้าได้ง่ายขึ้น
- 5. เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม การที่หันมาใช้ขนส่งสาธารณะอย่างรถไฟฟ้า ก็เป็นการช่วยลดการใช้รถยนต์ส่วนตัวบนท้องถนน ซึ่งส่งผลให้ลดมลพิษทางอากาศ และลดการใช้พลังงานเชื้อเพลิง เป็นการช่วยโลกอีกด้วยนอกจากจะเดินทางไวขึ้นก็ได้เป็นส่วนหนึ่งของการรักษ์โลกเพราะหันมาใช้ขนส่งสาธารณะ
ข้อเสียของ รถไฟฟ้าสายสีชมพู
- 1. เป็นโมโนเรล อาจจะรู้สึกโยกเยกเล็กน้อย ด้วยความที่เป็นรถไฟฟ้ารางเดี่ยว โดยเฉพาะช่วงโค้งหรือตอนที่รถกำลังเร่งความเร็ว ซึ่งเป็นเรื่องปกติของรถไฟฟ้าระบบนี้ แต่ก็ไม่ได้อันตรายอาจจะต้องปรับตัวในช่วงแรกๆที่ใช้บริการ
- 2. สถานีไม่ได้ครอบคลุมพื้นที่ทุกซอกทุกมุม ถึงแม้จะวิ่งยาว แต่สถานีรถไฟฟ้าก็ยังไม่ได้ครอบคลุมทุกจุดหมายปลายทางทำให้บางคนยังต้องต่อรถประเภทอื่นๆเช่น วินมอเตอร์ไซค์ รถเมล์ หรือแท็กซี่ เพื่อเดินทางจากบ้านไปสถานี หรือจากสถานีไปยังจุดหมายปลายทางสุดท้ายที่ต้องการไป
- 4. ความถี่ในการเดินรถอาจไม่เท่าสายหลัก ในช่วงนอกเวลารีบ หรือตอนดึกๆความถี่ในการเดินรถของสายสีชมพูอาจจะไม่ได้ถี่เท่ากับรถไฟฟ้าสายหลักอย่าง BTS หรือ MRT ทำให้อาจจะต้องรอนานขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับสายที่คนเยอะๆ แต่บอกเลยว่าเดินทางตรงเวลาแน่นอน แต่ก็ต้องคำนวนการเดินทางดีๆ เพราะอาจจะมีเรื่องฉุกเฉินที่ไม่คาดคิดมาก่อน
- 5. ค่าเชื่อมต่อ (ถ้ามี) อาจจะแพงขึ้น สำหรับคนที่ต้องเดินทางข้ามสาย เช่น จากสายสีชมพูไปต่อสายสีม่วง หรือจากสายสีชมพูไปต่อสายสีส้ม ถ้าไม่มีระบบบัตรโดยสารร่วมที่ครอบคลุม หรือโปรโมชั่นการเชื่อมต่อที่ดีพอ ค่าใช้จ่ายในการเดินทางอาจจะสูงขึ้นตามจำนวนสายที่ต่อ
สรุป
รถไฟฟ้าสายสีชมพู ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกเฉพาะสำหรับคนในโซนนนทบุรี แจ้งวัฒนะ และรามอินทรา สำหรับใครที่มีที่พักหรือว่าที่ทำงานหรือแม้แต่โรงเรียนที่อยู่โซนนี้ จะมาทำให้การเดินทางเป็นเรื่องง่าย ไม่ต้องห่วงเรื่องไฟแดงทำทางถนน หรือว่าจะต้องมารับลมร้อนจากอากาศเมืองไทย ไม่ต้องห่วงเรื่องว่านัดสำคัญจะไปไม่ทัน สามารถคำนวนค่าเดินทางได้แต่เนื่นๆ ไม่ต้องมองหาฟังก์ชั่นเสริมอย่างวินมอไซต์ในช่วงเวลาที่รีบร้อน รถไฟฟ้าสีชพู คือการเดินทางที่จะมายกระดับชีวิตคนเมืองโซนนี้ให้เจริญขึ้น และบอกเลยว่ายิ่งเดินทางยิ่งคุ้ม ไม่ต้องห่วงอะไรในชีวิต ดึกแค่ไหนสถานีก็พร้อมให้บริการ แต่ต้องดูเวลาสถานีปิดดีๆ แล้วชีวิตการเดินทางของทุกท่านจะเปลี่ยนไปจากเดิมอย่างแน่นอน





