Home
|
ข่าว

“ชายแดน-สแกมเมอร์” เดิมพันอนาคต”อนุทิน”ภูมิใจไทย

 

“รัฐบาลอนุทิน” โชว์ผลงานคนละครึ่งพลัส-บัตรสวัสดิการรัฐกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่อีกสองบททดสอบใหญ่ “ชายแดนไทย-แกมเมอร์” ชี้ชะตาความนิยมรัฐบาลภูมิใจไทย

 

ผ่านไป 1 เดือนเต็มๆแล้ว สำหรับการบริหารราชการแผ่นดินของ นายกฯ”อนุทิน ชาญวีรกุล” และรัฐบาลเสียงข้างน้อย ที่มีพรรคภูมิใจไทยเป็นแกนนำ ซึ่งต้องตบมือให้ในความสำเร็จ ที่สามารถ”พูดแล้วทำ”ได้จริงๆ สำหรับ “คนละครึ่งพลัส” และการเติมเงินให้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในชวงปลายปี สามารถเรียกคะแนนนิยม และใช้เป็นพลังในการดูดส.ส. จากพรรคคู่แข่งมาร่วมงานได้เป็นอย่างดี แต่เส้นทางของรัฐบาลภูมิใจไทย ก็ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ หากหวังกลับมาอยู่ต่ออีก 4 ปี ในการเลือกตั้งครั้งหน้า หลังยุบสภาตาม MOA จำเป็นต้องมีผลงานให้เป็นที่ประจักษ์มากกว่านี้

 

2 โจทย์ใหญ่ ที่ท้าทาย รัฐบาลของ”อนุทิน และพรรคภูมิใจไทย” ในเวลานี้ คือเรื่องปัญหาชายแดนไทยกัมพูชา และสแกมเมอร์ รัฐบาลนี้ จะได้ดอกไม้ หรือก้อนอิฐ ก็น่าจะขึ้นอยู่กับ 2 เรื่องนี้เป็นสำคัญ “ชายแดนไทยกัมพูชา” แม้จะมีการลงนามปูทางไปสู่สันติภาพแล้ว ลดความตึงเครียดไปในระดับหนึ่งแล้ว เขมรยอมรับ 4 ข้อตกลง มีประธานาธิบดีสหรัฐฯเป็นพยาน และตามมาด้วยภาพถอนรถถัง 2 คัน ออกจากชายแดน แต่ต้องเตือนความจำกันหน่อยว่า “คำแถลงการณ์ร่วม” ไม่มีผลผูกพันทางกฎหมาย เพราะไม่ใช่ข้อตกลงสันติภาพ ที่มีผลผูกพันต่อคู่สัญญาต้องปฏิบัติตามตาม

 

ดังนั้นสถานการณ์ชายแดน จึงยังไม่น่าไว้วงใจ และเป็นการวัดใจทั้งรัฐบาล และกองทัพ ว่าจะไว้ใจเขมรแค่ไหน และที่สำคัญที่สุด ประชาชนกำลังจับตาประเด็นชายแดนอย่างใกล้ชิด ต้องไม่มีข้อผิดพลาดเลย เพราะก่อนหน้านี้ หลังการลงนาม ก็มีการปล่อยข่าวรัฐบาล เตรียมจะให้เปิดด่านที่ จ.สระแก้ว ก่อนที่กองทัพจะออกมาปฏิเสธ และตามติดมาด้วยคำพูดของ”นายกฯหนู” ที่บอกเขมรมีล้ำพื้นที่ฝ่ายไทย

 

ส่วนฝ่ายไทยก็มีล้ำพื้นที่เขมร” ซึ่งทำให้รัฐบาลมีภาพลักษณ์ติดลบไปเล็กน้อย และการจะกู้คืนมา ก็ต้องโชว์ฝีมือจัดการชายแดนกับเขมรให้ชัดเจนกว่านี้ และเรื่องเปิดด่าน ต้องไม่ทำอะไรที่ขัดใจประชาชน เพราะเสียงชาวบ้านเวลานี้ ยังไม่ต้องการให้เปิดด่าน

 

อีกอีกประเด็น คือเรื่องสแกมเมอร์ ซึ่งก็เกี่ยวข้องกับกัมพูชา เช่นเดิม รัฐบาลได้ยกระดับเป็นวาระแห่งชาติแล้ว ไปบอกกับนานาชาติแล้ว ว่าไทยจะต่อสู้กับอาชญากรรมไซเบอร์แล้ว ฝ่ายนิติบัญญัติของไทย นำเสนอต่อเวลารัฐสภาโลก ผลักดดันปราบสแกมเมอร์ เป็นวาระเร่งด่วนได้สำเร็จ แต่ในทางกลับกัน รัฐบาลของนายกฯอนุทิน กลับยังไม่มีผลงานที่จับต้องได้ แทบจะไม่มีอะไรให้เห็นเป็นที่ประจักษ์เลยว่าดำเนินการปราบสแกมเมอร์อย่างไร นอกจากการตั้งคณะทำงาน ซึ่งต่างจากประเทศเกาหลีใต้ ที่ดำเนินการกับกัมพูชา ได้อย่างรุนแร เพื่อช่วยเหลือประชาชนของตัวเองจากปัญหานี้

 

และยิ่งไปกว่านั้น รัฐมนตรีของ “อนุทิน” ต้องไขก็อก อำลาตำแหน่ง เพราะถูกเชื่อมโยงกับเรื่องนี้ไปแล้ว 1 คน ซึ่งจะกลายเป็นประเด็นที่ฝ่ายค้านเตรียมใช้เวทีของสภาโจมตีทางการเมืองในโอกาสต่อไป ทางเดียวที่รัฐบาลภูมิใจไทย ต้องทำเรื่องสแกมเมอร์ คือต้องจับกุมกวาดล้างเครือข่าย ที่อยู่ในไทย ตามที่อดีตนายตำรวจใหญ่ออกมาแฉตัวอักษรย่อ ช. หรืออยู่ตามแนวชายแดนให้ได้เท่านั้น เพื่อทำผลงาน และสร้างคะแนนนิยมทางการเมือง เพราะหากยังไร้ผลงาน โอกาสที่จะกลับมาอยู่ต่ออีก 4 ปี ก็แทบไม่มีเหลือ

 

ดังนั้น ทั้งประเด็นชายแดนไทย-กัมพูชา และประเด็นปราบปรามสแกมเมอร์ ที่รัฐบาลกำลังเผชิญหน้าอยู่ ถือเป็นด่านวัดใจ วัดฝีมือที่สำคัญของ “รัฐบาลอนุทิน” หากทำได้ดี ประชาชนประทับใจ ก็การันตีโอกาสในการกลับมาใหม่ แต่หากทำไม่ได้ ประชาชนไม่พอใจ 2 เรื่องนี้ หลังยุบสภา ภูมิใจไทย ก็คงต้องปรับกระบวนกันใหม่ หาจุดขายใหม่มานำเสนอกับประชาชน หากยังหวังคว้าชัยชนะในสนามเลือกตั้งที่จะมาถึง


 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube