Home
|
ข่าว

“แมวดำ” ทีมน้องใหม่ ผู้หักทุกคำพูด พลิกทุกความคาดหมาย

Featured Image
“แมวดำ” ซันเดอร์แลนด์ ทีมน้องใหม่ ผู้หักทุกคำพูด ที่พลิกทุกความคาดหมาย จากชัยชนะเหนือ เชลซี อันน่าเหลือเชื่อ

 

จากฝันเลื่อนชั้น สู่การลุ้นหัวตาราง

เมื่อ 12 เดือนก่อน “แมวดำ” ซันเดอร์แลนด์ ยังแค่ฝันถึงการกลับสู่พรีเมียร์ลีก หลังจากต้องเหนื่อยแบบหืดขึ้นคอ ก่อนเฉือนชนะโคเวนทรีในรอบรองเพลย์ออฟ และพลิกแซงเชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ในนัดชิงด้วยประตูช่วงทดเวลาเจ็บ จาก ทอม วัตสัน เมื่อฤดูกาลก่อน

 

แต่เพียงปีเดียว พวกเขากลับสร้างเรื่องเหลือเชื่ออีกครั้ง เมื่อค่ำคืนวันเสาร์ที่ 25 ตุลาคม 2568 ที่ผ่านมา แมวดำ สามารถชนะ สิงห์บลู เชลซี แชมป์สโมสรโลก ได้สำเร็จ และขยับสู่อันดับ 2 ของตารางพรีเมียร์ลีก มี 17 คะแนนจาก 9 นัด กลายเป็นการออกสตาร์ตที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์สโมสร โดยที่ไม่มีใครคาดคิด ว่าทีมที่เพิ่งกลับขึ้นสู่ลีกสูงสุดในรอบ 8 ปี จะกลายเป็นทีมลุ้นโซนบนของตารางตั้งแต่ปีแรก

 

ทีมน้องใหม่ แต่ใช้เงินอย่างกล้าหาญ

หลังเลื่อนชั้น ซันเดอร์แลนด์ลงทุนครั้งใหญ่ ใช้เงินไปกว่า 161 ล้านปอนด์ ดึงนักเตะใหม่ถึง 15 คน เข้ามาเสริมทัพ มากที่สุดในบรรดาทีมหน้าใหม่ตลอดประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก

 

เพราะเมื่อเทียบกับ 3 ทีมเลื่อนชั้นของฤดูกาลก่อน อย่าง เลสเตอร์, เซาแธมป์ตัน และ อิปสวิช ใช้เงินรวมกันถึง 276.5 ล้านปอนด์ แต่กลับตกชั้นทั้งหมด ทำให้คิดได้ว่าการใช้เงินมากไม่ได้การันตีความสำเร็จ แต่ ซันเดอร์แลนด์ ไม่คิดแบบนั้น พวกเขาเปลี่ยนทีมเกือบทั้งชุด แต่กลับสร้างเคมีภายในทีมจนกลายเป็นทีมที่เล่นเข้าขากันที่สุดทีมหนึ่งในลีก

 

ทรอย ดีนีย์ อดีตกัปตันวัตฟอร์ด ถึงกับกล่าวว่า

“ส่วนใหญ่ทีมที่เพิ่งขึ้นลีกสูงสุดจะยึดตัวเดิมไว้ แต่ซันเดอร์แลนด์กล้าหาญและเด็ดขาดมาก พวกเขาเปลี่ยนแทบทุกตำแหน่ง แล้วตอนนี้อยู่ถึงอันดับสอง จากทีมที่ไม่มีใครคิดว่าจะรอด กลับกลายเป็นทีมที่เริ่มฝันถึงท็อปเท็น”

 

“ร่วมทุกข์ ร่วมสุข” หัวใจแห่งทีมเวิร์ก

เรกีส์ เลอ บรีส์ กุนซือชาวฝรั่งเศส คือผู้อยู่เบื้องหลังความเปลี่ยนแปลงทั้งหมด เขาได้สร้างเอกลักษณ์ของทีมจากคำว่า “ร่วมทุกข์ ร่วมสุข”

 

เรกีส์ เลอ บรีส์ กุนซือแมวดำ กล่าวหลังเกมที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์ ว่า

“เราสร้างเอกลักษณ์ของทีมขึ้นมาตั้งแต่ช่วงปรีซีซัน ความสามัคคี การป้องกันร่วมกัน และการ ‘ร่วมทุกข์ ร่วมสุข’ คือสิ่งที่ทำให้ทีมแข็งแกร่งขึ้น เราอาจมีช่วงที่หาจังหวะครองบอลได้ไม่ดีนัก แต่เราก็กล้าเล่น กล้าบุก และรู้ว่าเมื่อไหร่ควรถอยต่ำ เพราะถ้าปล่อยพื้นที่ตรงกลาง เชลซีจะลงโทษคุณได้แน่”

“ผมภูมิใจในนักเตะและสตาฟฟ์ทุกคน ทั้งตัวจริงและตัวสำรอง เพราะทุกคนมีส่วนสำคัญในชัยชนะครั้งนี้ เราทำงานหนักและเล่นฟุตบอลที่ดีจริง ๆ”

 

คำว่า “ร่วมทุกข์ ร่วมสุข” ของเลอ บรีส์ ถูกสะท้อนออกมาในสถิติการเล่นของทีมอย่างชัดเจน โดย ซันเดอร์แลนด์ ครองบอลเฉลี่ยเพียง 42.5% ต่ำสุดอันดับ 4 ของลีก แต่กลับเป็นทีมที่เสียประตูน้อยที่สุดอันดับ 3 รองจากอาร์เซนอลและแมนฯ ซิตี้ เท่านั้น

 

นั่นเพราะทุกคนเล่นเพื่อกันและกัน ไล่เพส ไล่บี้ไม่หยุด วิ่งไม่ยั้ง ทำให้ทีมมี อัตราชนะการปะทะ 53.3% สูงเป็นอันดับ 2 ของพรีเมียร์ลีก

 

“กรานิต ชาก้า” ผู้นำแห่งแมวดำ

หนึ่งในดีลที่หลายคนไม่เข้าใจในช่วงตลาดการซื้อ คือดีลระดับทองคำของ ซันเดอร์แลนด์ การเซ็นสัญญา กรานิต ชาก้า อดีตกัปตันอาร์เซนอล วัย 33 ปี จากไบเออร์ เลเวอร์คูเซน มาอย่างน่าตกใจ ซึ่งหลายคนมองว่าเขาเลยช่วงพีคไปแล้ว แต่ชาก้ากลับตอบคำถามทั้งหมดในสนาม

 

เขาเป็นผู้นำในทุกสถิติสำคัญของทีม:

  • แอสซิสต์ 3 ครั้ง
  • สร้างโอกาสยิง 11 ครั้ง
  • ผ่านบอลสำเร็จ 397 ครั้ง
  • ผ่านบอลเข้าพื้นที่สุดท้าย 49 ครั้ง
  • ชนะการปะทะ 56 ครั้ง
  • แย่งบอลคืน 43 ครั้ง

พร้อมยังเป็นวุฒิภาวะของผู้นำในห้องแต่งตัว ที่ช่วยหล่อหลอมทัพ แมวดำ ให้กลายเป็นทีมที่เชื่อมั่นในตัวเอง

 

จากทีมที่เคยต้องดิ้นรนในลีกรอง สู่ทีมที่ต่อกรกับยักษ์ใหญ่อย่าง เชลซี และ อาร์เซนอล อย่างสนุกสนาน โดยใช้เวลาแค่ปีเดียว ซันเดอร์แลนด์ กำลังเขียน “หน้าประวัติศาสตร์บทใหม่” ของฟุตบอลอังกฤษ และไม่ว่าตอนจบของนิยายเรื่องจะเป็นอย่างไร แต่สิ่งหนึ่งที่ แมวดำ แสดงให้เราเห็นคือ การไม่ยอมแพ้ และวิ่งสู้ฟัดกับทุกทีมที่เจอ ด้วยหัวใจของทีมรองบ่อน

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube