ชื่อไม่มี แต่มีอํานาจ “กัน จอมพลัง” เข้าข่ายฉ้อโกงประชาชนหรือไม่
กลายเป็นประเด็นร้อนสําหรับ “มูลนิธิกันจอมพลังช่วยสู้” ภายหลังจากมีการตรวจสอบพบว่ามูลนิธิดังกล่าวไม่มีชื่อของ นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ “กัน จอมพลัง” เป็นประธานหรือคณะกรรมการในมูลนิธิฯ
จนเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์จำนวนมาก ซึ่งในโลกออนไลน์บางส่วนยังคงให้การสนับสนุน “กัน จอมพลัง” เพราะเชื่อว่ากันคือคนที่ลงมือทำในสิ่งที่รัฐไม่ทำ ขณะที่อีกฝ่ายกลับมองว่าความช่วยเหลือที่แท้จริงต้องอยู่ภายใต้ กรอบกฎหมายและความโปร่งใส ไม่ใช่เพียงอาศัยความศรัทธาในตัวบุคคลเท่านั้น
ล่าสุดทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ได้ออกมาให้ความรู้ด้านกฎหมายพร้อมตั้งข้อสงสัยถึงความโปร่งใสการจัดตั้งมูลนิธิและการรับบริจาคโดยระบุว่าปัจจุบันการจัดตั้งมูลนิธิตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ต้องดําเนินการ
โดยกรรมการที่มีชื่อไม่ใช่ดําเนินการโดยบุคคลภายนอกเข้าไปครอบงํา ซึ่งกรณีดังกล่าวที่ผ่านมาเคยมีการยุบมูลนิธิและนําทรัพย์สินทั้งหมดตกเป็นของแผ่นดิน นอกจากนี้ทนายเดชาได้ตั้งคําถามว่ากรรมการ 3 คน ที่ปรากฏชื่อนั้น เป็นนอมินีหรือไม่ เนื่องจากคนที่ขับเคลื่อนมูลนิธิคือ “กัน จอมพลัง” ทั้งที่ไม่มีชื่อหรือเกี่ยวข้องในมูลนิธิฯและไม่มีสิทธิไปสั่งการทําถนนหรือซื้อบังเกอร์
แต่สิ่งที่น่าตกใจคือ “กัน จอมพลัง” ให้สัมภาษณ์ว่าจะสั่งให้มีการแก้ไขข้อบังคับหากเลิกมูลนิธิกันจอมพลังช่วยสู้แล้วจะโอนไปมูลนิธิอื่นแทนมูลนิธิธรรมนัสพรหมเผ่า ซึ่งการกระทําดังกล่าวเห็นได้ชัดเจนว่ามีการครอบงํามูลนิธิฯหรือไม่ เรื่องนี้ทางนายทะเบียนซึ่งก็คือปลัดกระทรวงมหาดไทยมีอํานาจเรียกคณะกรรมการทั้ง 3 คน เข้ามาชี้แจงได้เพราะมีการระดมเงินบริจาคของประชาชนหลักร้อยล้านบาท
ส่วนการที่ไม่มีชื่อ “กัน จอมพลัง” อยู่ในมูลนิธิฯ ทนายเดชาบอกไม่ทราบถึงเจตนาแต่จากการสอบถามมูลรู้มาว่าหากเกิดเรื่องใดๆขึ้นก็ไม่ต้องรับผิดทางคดีเพราะไม่มีชื่ออยู่ในมูลนิธิ
เมื่อถามถึงกรณีที่ “กัน จอมพลัง” มีการเปิดรับบริจาคผ่านมูลนิธิฯตลอดเวลาที่ผ่านมาซึ่งประชาชนหลายคนก็เพิ่งทราบว่า ”กัน จอมพลัง“ เองไม่ได้เป็นเจ้าของหรือมีส่วนเกี่ยวข้องใดๆในมูลนิธิกันจอมพลังช่วยสู้แบบนี้จะมีความผิดตามกฎหมายหรือไม่
นอกจากนี้ทนายเดชายังเปิดเผยอีกว่ามีคนสนิทให้ข้อมูลว่า “กัน จอมพลัง” มีรถหรูหลายคันแต่ไม่ทราบว่ามีการเสียภาษีถูกต้องหรือไม่รวมไปถึงคนในวงการลอตเตอรี่ฝากถามถึงเรื่องโควต้าสลากกินแบ่งรัฐบาลจำนวน 2 แสนฉบับ รายได้ 2-3 ล้านบาทต่อเดือนด้วยว่าได้มาอย่างถูกต้องหรือไม่
ทั้งนี้ทนายเดชาได้ฝากถึงสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ปลัดกระทรวงมหาดไทยรวมถึงนายกรัฐมนตรี ให้ช่วยตรวจสอบเรื่องนี้อย่างจริงจังเพื่อที่ “กัน จอมพลัง” จะได้หมดสิ้นข้อเคลือบแคลงใจจากสังคมและเดินหน้าทํางานเพื่อช่วยเหลือประชาชนต่อไป
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews





