“คนละครึ่งพลัส” แทบเต็ม — ย้อนดู 5 เฟสก่อนรัฐอัดงบกว่า 2 แสนล้าน!
คนละครึ่งพลัส เปิดให้ลงทะเบียนวันแรก คนกดสิทธิกันแน่นแอปฯ เป๋าตัง ฉะนั้น วันนี้เราเลยพาย้อนดูว่าตลอด 5 เฟสที่ผ่านมา โครงการคนละครึ่งเคยช่วยคนไทยได้มากแค่ไหน
สำหรับโครงการคนละครึ่งพลัส ที่มีการเปิดให้ประชาชนกดรับสิทธิเข้าร่วมผ่านแอปพลิเคชัน เป๋าตัง แล้ว ในวันนี้ (20ต.ค.68) ตั้งแต่เวลา 06.00 น. โดยก่อนเวลา 08.00 น. มีผู้ลงทะเบียนรับสิทธิได้แล้ว กว่า 13 ล้านสิทธิ จากทั้งหมด 20 ล้านสิทธิ
ซึ่งกรณีได้รับสิทธิ “คนละครึ่งพลัส” จะขึ้นข้อความ 3 แบบดังนี้ ผู้ที่ไม่อยู่ในระบบภาษี (2,000 บาท / คน) จะขึ้นข้อความว่า : “คุณได้รับสิทธิคนละครึ่งพลัสแล้ว จำนวนเงิน 2,000 บาท เริ่มใช้สิทธิได้วันที่ 29 ต.ค. 68”
ผู้ที่อยู่ในระบบภาษี (2,400 บาท / คน) จะขึ้นข้อความว่า : “คุณได้รับสิทธิคนละครึ่งพลัสแล้ว
“ผู้ที่ไม่เคยรับสิทธิ” โครงการคนละครึ่งเฟส 5 (ปี 2565) ถ้าลงทะเบียนได้ จะขึ้นข้อความ แจ้งผลการลงทะเบียนผ่านการแจ้งเตือนบนแอปฯ “เป๋าตัง” และ SMS (ภายใน 3 วัน)
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ลงทะเบียนไป ประชาชนส่วนใหญ่มีคำถาม และออกมาโพสต์ในโซเชียลกันจำนวนมาก
ซึ่งล่าสุด นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ออกมาเปิดเผยว่า “รัฐบาลปลื้มประชาชนให้ความสนใจลงทะเบียนรับสิทธิ “คนละครึ่งพลัส”อย่างล้นหลาม เพียง 2 ชั่วโมงแรก ข้อมูลจากธนาคารกรุงไทย ระบุว่า ประชาชนลงทะเบียน ผ่านแอปฯ เป๋าตัง สำเร็จแล้วกว่า 13 ล้านสิทธิ จากจำนวนสิทธิทั้งหมด 20 ล้านสิทธิ”
และ เน้นย้ำว่า “กรณีประชาชน ที่ไม่เคยเข้าร่วมโครงการคนละครึ่งเฟส 5 (ปี 2565) เมื่อลงทะเบียนแล้ว ระบบขึ้นแจ้งว่า “กำลังรอผลการลงทะเบียน ระบบจะแจ้งผลผ่านการแจ้งเตือนของแอปฯ เป๋าตัง หรือ SMS ภายใน 3 วัน” ขอประชาชนอย่าเป็นกังวล
โดยรัฐบาลได้มีการจองสิทธิไว้ให้ท่านแล้วในระบบ และขอให้รอผลการแจ้งในระยะเวลา 3 วัน ไม่ต้องลงทะเบียนซ้ำ”
ทีนี้เรามาย้อนดู5 เฟสที่ผ่านมากันค่ะ ตั้งแต่ปี 2563 ในสมัยรัฐบาล พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา มีโครงการ “คนละครึ่ง” เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระประชาชน จากวิกฤติ ณ เวลานั้น อย่าง Covid-19 โดยวิธีการของโครงการนี้คือ รัฐช่วย50 ประชาชนออก50หรือเข้าใจได้ง่าย ๆ ว่า ตนละครึ่งตามชื่อ
ซึ่งตลอดทั้ง 5 เฟส ที่ผ่านมานั้นรัฐบาลใช้งบประมาณสนับสนุนรวมทั้งสิ้น 208,400 ล้านบาท ย้อนดูโครงการ “คนละครึ่ง” ทั้ง 5 เฟส (ปี 2563–2565)
เฟส 1 (ต.ค.–ธ.ค. 63)
เริ่มโครงการครั้งแรก ช่วยลดภาระค่าครองชีพช่วงโควิด ให้ประชาชนอายุ 18 ปีขึ้นไป 9.98 ล้านคน
รัฐช่วยออกครึ่งหนึ่ง ใช้ได้สูงสุด 3,000 บาท ใช้งบประมาณ 29,600 ล้านบาท
เฟส 2 (ม.ค.–มี.ค. 64)
ขยายเพิ่มอีก 5 ล้านสิทธิ ผู้ร่วมเฟส 1 ได้เงินเพิ่มอีก 500 บาท รวม 3,500 บาทต่อคน
เน้นร้านค้ารายย่อย ใช้งบประมาณ 20,300 ล้านบาท มีผู้ใช้สิทธิ์รวม 14.79 ล้านคน
เฟส 3 (ก.ค.–ธ.ค. 64)
เพิ่มวงเงินรวมเป็น 4,500 บาทต่อคน ขยายถึงบริการแท็กซี่ มอเตอร์ไซค์รับจ้าง นวด สปา และฟู้ดเดลิเวอรี
ใช้งบมากที่สุด 110,000 ล้านบาท มีผู้ใช้สิทธิ์ 26.34 ล้านคน
เฟส 4 (ก.พ.–พ.ค. 65)
ต่อเนื่องช่วยพยุงกำลังซื้อช่วงต้นปี วงเงิน 1,200 บาทต่อคน ใช้งบ 30,300 ล้านบาท
ผู้ใช้สิทธิ์ 26.27 ล้านคน
เฟส 5 (ก.ค.–ต.ค. 65)
เฟสสุดท้ายก่อน “คนละครึ่งพลัส” วงเงิน 800 บาทต่อคน ใช้งบ 18,200 ล้านบาท
ผู้ใช้สิทธิ์ 24.02 ล้านคน
สุดท้ายยนี้ อย่าลืม สำหรับใครที่ได้สิทธิ์แล้ว เริ่มใช้วันแรก 29 ต.ค. 68 จนถึงวันที่ 31 ธ.ค. 68 และ ซื้อได้เกือบทุกอย่างค่ะ ทั้งของอุปโภค บริโภท แต่ก็จะมีที่ซื้อไม่ได้ เช่น สลากกินแบ่งรัฐบาล เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ผลิตภัณฑ์ยาสูบ บัตรกำนัล เงินสด หรือ บริการรูปแบบอื่นๆ ที่เป็นการชำระค่าสินค้าหรือบริการล่วงหน้า
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews





