จับ หมอฟันเถื่อน ปลอมใบอนุญาต รักษาคนไข้กลางคลินิกย่านสาทร!
ตำรวจ ร่วม ทันตแพทยสภา รวบหมอฟันเถื่อน ปลอมใบประกอบวิชาชีพตีเนียนเข้าคลินิก ทำผิดซ้ำ โดนจับรอบสอง
วันนี้ (8 ต.ค 68) กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ร่วมกับ ทพ.กันตพงศ์ ดีชัยยะ กรรมการทันตแพทยสภา ได้ร่วมกันจับกุมหมอฟันเถื่อนให้การรักษาประชาชนโดยไม่มีใบประกอบวิชาชีพทันตกกรม
พฤติการณ์ สืบเนื่องจากจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการ 4 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค ได้รับการประสานจากทันตแพทยสภา ให้ตรวจสอบบุคคลที่ไม่ใช่บุคลากรทางการแพทย์หรือยังไม่ได้รับใบอนุญาตจากทันตแพทยสภา แต่กลับทำการรักษาให้ประชาชนทั่วไปในคลินิกทันตกรรม
จึงได้ดำเนินการสืบสวนจนทราบว่า ผู้ต้องหารายนี้ทำทันตกรรมให้การรักษาประชาชนทั่วไปในคลินิกทันตกรรมแห่งหนึ่ง ย่านสาธร กรุงเทพมหานคร

โดยในวันที่ 6 ตุลาคม 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ปคบ. ร่วมกับเจ้าหน้าที่ทันตแพทยสภา เข้าตรวจสอบคลินิกทันตกรรมดังกล่าว พบ น.ส.บี (สงวนชื่อนามสกุลจริง) อายุ 26 ปี ผู้ต้องหา กำลังให้บริการทำหัตการขูดหินปูนให้กับประชาชนผู้มาใช้บริการ จากการตรวจสอบพบว่าผู้ต้องหาไม่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพทันตกรรม
โดยรับว่าจบการศึกษาคณะทันตแพทยศาสตร์ภายในประเทศ แต่ยังไม่ได้สอบใบประกอบวิชาชีพ ยังไม่สามารถประกอบวิชาชีพทันตกรรมได้ จึงใช้วิธีการปลอมแปลงใบประกอบวิชาชีพทันตแพทย์รายอื่น เพื่อแสดงว่าตนมีใบประกอบวิชาชีพเพิ่มความน่าเชื่อถือ และสมัครเป็นทัตนแพทย์และให้การรักษาผู้ป่วยตามคลินิกต่างๆ โดยทำมาแล้วประมาณ 2 ปี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงร่วมกันจับกุม น.ส.บีฯ ส่งพนักงานสอบสวน กก.4 บก.ปคบ. ดำเนินคดี
จากการสืบสวนเพิ่มเติมพบว่าผู้ต้องหารายนี้เคยถูกจับกุมในความผิดฐานเดียวกันมาก่อนเมื่อเดือนสิงหาคม 2567 แต่ไม่เข็ดหลาบ เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของการที่ผู้ไม่ได้รับใบอนุญาตแต่เข้ามาทำการรักษาคนไข้ เข้าลักษณะของหมอเถื่อน ซึ่งเป็นภัยต่อประชาชน
เนื่องจากไม่มีการรับรองความรู้ความสามารถ หากรักษาแล้วอาจไม่ได้ผลการรักษาหรือเกิดการติดเชื้อได้และเป็นอันตรายต่อผู้มาใช้บริการได้ ซึ่งใบประกอบวิชาชีพโดยเฉพาะอาชีพแพทย์นั้นมีความสำคัญ เนื่องจากเป็นเครื่องยืนยันว่าบุคคลผู้นั้นมีความรู้ความสามารถ และทักษะตามที่กำหนดไว้

มิใช่แค่จบการศึกษาเพียงอย่างเดียว แต่ต้องเข้าใจและสามารถปฏิบัติงานได้จริงตามมาตฐาน
การกระทำดังกล่าวเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.วิชาชีพทันตกรรม พ.ศ.2537 ฐาน “ประกอบวิชาชีพทันตกรรมโดยมิได้ขึ้นทะเบียนและรับอนุญาต” ระวางโทษจำคุก ไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 6 หมื่นบาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ
กรณีของสถานพยาบาล ตามกฎหมายพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. 2541 กรณีผู้นำดำเนินการสถานพยาบาลไม่ควบคุมดูแลปล่อยให้บุคคลที่มิใช่ผู้ประกอบวิชาชีพมาทำการรักษาตามมาตรา34 (1) มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปีหรือปรับไม่เกิน 40,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ โดยคลินิกอื่นๆ ที่มีข่าวว่าผู้ต้องหารายนี้ไปทำการรักษานั้น จะมีการตรวจสอบ ทั้งนี้ความผิดที่เกิดขึ้นก็จะต้องพฤติกรรมและความผิดในแต่ละคลินิกต่อไป
รศ.ดร.ทพ.ไชยรัตน์ เฉลิมรัตนโรจน์ นายกทันตแพทยสภา ขอเน้นย้ำกับประชาชนว่า ก่อนเข้ารับบริการทันตกรรม ควรตรวจสอบว่าผู้ให้บริการเป็นทันตแพทย์ที่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพถูกต้องและยังไม่หมดอายุหรือไม่ โดยสังเกตป้ายชื่อทันตแพทย์ผู้ให้บริการในคลินิก และสามารถตรวจสอบสถานะใบอนุญาตและสาขาความเชี่ยวชาญของทันตแพทย์ได้ที่เว็บไซต์ทันตแพทยสภา
ในขณะเดียวกันคลินิกทันตกรรมทุกแห่งที่ต้องการรับทันตแพทย์เข้าปฏิบัติงาน ก็ควรตรวจสอบให้แน่ชัดว่าทันตแพทย์ท่านนั้นเป็นผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพที่อยู่ในสถานะปกติเพื่อป้องกันปัญหาทางกฎหมายและคุ้มครองผู้รับบริการอย่างถูกต้อง ส่วนหลายคนที่จบการศึกษาทัตนแพทย์แล้ว
แต่ยังมิได้รับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพทันตกรรม ทั้งจบในไทยและต่างประเทศ รวมไปถึงบุคคลอื่นที่ไม่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพต้องไม่ทำการประกอบวิชาชีพรักษาผู้ป่วยเพราะเป็นสิ่งผิดกฎหมาย
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews





