Home
|
Video

“คนละครึ่ง” กับสิ่งที่ “อนุทิน-ภูมิใจไทย” เคยหาเสียงไว้ …”พูดแล้วทำ”

 

รัฐบาลใหม่ นายกฯ”อนุทิน ชาญวีรกุล” ค่อยๆ เปิดตัวว่าที่รัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ ที่เป็นคนนอกทีละคน 2 คน สร้างความหวังให้กับประชาชนได้ไม่น้อย หลายคนร้องว้าวกับหน้าตา นับว่าสร้างความเชื่อมั่นได้แล้วในระดับหนึ่ง

 

รวมถึงการส่งสัญญาณ นำ”คนละครึ่ง” ที่เคยประสบความสำเร็จ ในการกระตุ้นเศรษฐกิจ สมัยรัฐบาล “ลุงตู่- พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” กลับมาทำใหม่อีกครั้ง และอาจเพิ่มเป็น 60:40 ก็ยิ่งตอกย้ำให้รัฐบาลใหม่ภายใต้การนำของ”พรรคภูมิใจไทย” มีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น เวลาที่มี 4 เดือน หรือ 120 วันเป็นอย่างน้อย ก่อนจะยุบสภาตาม MOA จะทำนโยบายอะไรบ้าง

 

ปัญหาเร่งด่วนชายแดนไทยกัมพูชา เศรษฐกิจปากท้อง และประเด็นการเมือง ซึ่งความชัดเจนในเรื่องเหล่านี้ น่าจะต้องรอดูตอนแถลงนโยบายต่อรัฐสภา หลังมีคณะรัฐมนตรีชุดใหม่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

 

หลายคนกำลังดีใจ ที่”รัฐบาลอนุทิน” จะนำ “คนละครึ่ง”กลับมาทำใหม่ แต่ก็คงมีอีกหลายคนกำลังสงสัยว่า นโยบายที่พรรคภูมิใจไทย เคยหาเสียงไว้ในการเลือกตั้ง เมื่อปี 2566 และมีสโลแกนว่า “พูดแล้วทำ” จะมีอะไรถูกหยิบยกขึ้นมาทำบ้าง ในช่วง 4 เดือนนี้ หรือมีการต่อยอด จากที่เคยผลักดันไว้แบบครึ่ง ๆ กลาง ๆ ตอนเป็นพรรคร่วมรัฐบาล ยุค”เศรษฐา ทวีสิน” และ “แพทองธาร ชินวัตร”

 

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “นโยบายกัญชา” ที่มีทั้งคนสนับสนุน และต่อต้านเป็นวงกว้าง รวมถึงนโยบาย หรือโครงการของรัฐบาลก่อน จะผลักดันต่อยอดอะไรต่อบ้าง รถไฟฟ้า 20 บาท, บ้านเพื่อคนไทย,ซอฟฟ์พาวเวอร์ จะได้ไปต่อมั้ย อาจเป็นคำถามที่หลาย ๆ คนคาใจ

 

นโยบาย”กัญชาเสรี” ที่ผลักดันมาตั้งแต่สมัย “รัฐบาลลุงตู่” และพยายามธงต่อในการหาเสียงเมื่อ 2 ปีก่อน และมีการต่อยอดในยุค”เศรษฐา” แต่ยังทำไม่สำเร็จแบบ 100% จนท้ายที่สุดก็ถูกตัดตอน หลังถอนตัวจากพรรร่วมรัฐบาล และถูกโจมตีอย่างหนักจาก “สมศักดิ์ เทพสุทิน” รัฐมนตรีสาธารณสุข ส่วนนโยบายอื่น ๆ ที่”อนุทิน”นำทัพหาเสียงไว้คือ “พักหนี้ 3 ปี หยุดต้น ปลอดดอกเบี้ยคนละไม่เกิน 1 ล้าน,

 

หารายได้เพิ่ม 3 กะ ด้วยการเปิดพื้นที่ค้าขายตลอดวัน เพื่อสร้างงานและกระจายรายได้ให้กับคนกรุงเทพฯ, เพิ่มจํานวนนักท่องเที่ยวสู่ 80 ล้านคน เพิ่มรายได้จากการท่องเที่ยว สู่ 6 ล้านล้านบาท,
สร้างงาน 10 ล้านตําแหน่ง,ฟรี โซล่าเซลล์ หลังคาบ้าน, ลดค่าไฟฟ้า หลังคาเรือนละ 450 บาทต่อเดือน, ติดตั้งเครื่องฉายรังสีรักษามะเร็ง ให้โรงพยาบาลทุกจังหวัด อย่างน้อยจังหวัดละ 1 เครื่อง
และต้องรักษาฟรี เพื่อให้ผู้ป่วยทุกคนได้รับการรักษาอย่างรวดเร็ว, ฟอกไตฟรีทุกอำเภอ

 

เพื่อให้ผู้ป่วยโรคไตทุกคน เข้าถึงการรักษาได้เร็วและทั่วถึง และนโยบายสุดท้าย เกษตรร่ำรวย ด้วยContract Farming กับพืช 4 ชนิด ข้าว ยางพารา มันสำปะหลัง และ ปาล์มน้ำมัน เพื่อให้เกษตรกรทุกราย มีสัญญาซื้อขายผลผลิตล่วงหน้าเป็นหลักประกันว่าจะมีรายได้เท่าใด”

 

จะเห็นได้ว่า หลายนโยบาย ที่พรรคภูมิใจไทย นำเสนอไว้นั้น และมีสโลแกนกำกับไว้ว่า “พูดแล้วทำ” ในการหาเสียงเมื่อ 2 ปีก่อน ย่อมต้องถือว่าเป็นคำมั่นสัญญา เมื่อพรรคภูมิใจไทยเป็นแกนนำรัฐบาล เมื่อ “อนุทิน” เป็นนายกรัฐมนตรี นโยบายเหล่านี้ของภูมิใจไทย ก็ถึงเวลาที่จะต้องทำอย่างจริงจัง และผลักดันให้เห็นผลเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น กว่าช่วงที่เป็นพรรคร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทย

 

จะทำแต่”คนละครึ่ง” เพื่อกระต้นเศรษฐกิจ ที่เป็นแนวคิดของพรรคอื่นเพียงอย่างเดียวไม่ได้ ต้องทำของตัวเองด้วย เพราะถ้าไม่ทำก็จะกลายเป็น “ผิดคำพูด” แต่ด้วยระยะเวลาเพียงแค่ 4 เดือน
ต้องยุบสภาตาม MOA จึงน่าสนใจว่า “อนุทิน” จะขับเคลื่อนนโยบายอะไรที่เคยหาเสียงไว้ เพื่อตักตวงคะแนนนิยม เพื่อต่อยอดในการหาเสียงเลือกตั้งครั้งหน้า ปูทางให้กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีสมัยที่ 2 ต่อไป…

 

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

 

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube