GBCพรุ่งนี้จบ – เขมรหยุดยิงมั้ย?

 

การประชุม คณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทยกัมพูชา หรือGBC ที่มาเลเซียพรุ่งนี้ (7ส.ค.) ถูกจับตาจากหลายฝ่ายทั้งในประเทศและต่างประเทศ ว่า จะนำมาสู่ข้อสรุปจบสถานการณ์ การหยุดยิงระหว่างไทย-เขมร ได้สะเด็ดน้ำได้หรือไม่ หลังจากมีการประชุมมาตั้งแต่วันที่ 4 ส.ค.

 

จนถึงช่วงเช้าวันนี้(6ส.ค.) ในระดับเลขาที่ “ทีมงาน”ทั้งเขมรและไทยต้องรายงานผลสรุปให้รัฐบาล โดยฝ่ายไทยมีการรายงานกลับมาเข้าสู่ที่ประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.)ที่มี “รักษาการ นายกอ้วน ภูมิธรรม เวชยชัย”นั่งหัวโต๊ะช่วงเย็นวันนี้ ซึ่ง ข้อสรุปในที่ประชุม สมช.วันนี้ จะเป็นตัวชี้วัดการประชุมGBC ที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมทั้ง 2 ประเทศจะหารือกัน โดยประเด็นการยื่นฟ้องเขมรต่อองค์กรระหว่างประเทศที่มีข้อสั่งการในครม.จาก “ภูมิธรรม”เมื่อวาน ถูกระบุว่าส่วนหนึ่งเป็นแรงกดดันไปสู่วงประชุมระดับเลขาวันนี้

 

ทั้งนี้มีรายงานข้อหารือในช่วงในช่วง3วันที่ผ่านมา มีเงื่อนไข 8 ประเด็น ที่ถูกนำเข้าสู่การหารือ ไล่เรียงตั้งแต่

1.ให้ไทย-กัมพูชา หยุดยิงเด็ดขาด

2.คุ้มครองประชาชน เน้นย้ำมาตรการคุ้มครองพลเรือน และจะไม่ยิงโจมตี ที่เป็นอันตรายต่อชีวิต และทรัพย์สินของประชาชนในพื้นที่ชายแดน
3.งดการเสริมกำลัง ห้ามไม่ให้มีการนำกำลังทหาร หรือยุทโธปกรณ์เพิ่มเติม เข้าไปในพื้นที่พิพาท
4.ห้ามเคลื่อนย้ายกำลังพล ภายในพื้นที่ชายแดน

5.การอำนวยความสะดวกการส่งกลับ โดยทั้งสองฝ่ายจะให้ความร่วมมือ และอำนวยความสะดวกส่งกลับผู้บาดเจ็บ และผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ปะทะ

6.การจัดตั้งชุดประสานงานเฉพาะกิจ ฝ่ายละ 4 นาย ทำหน้าที่สื่อสาร และแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า

7.การปรับกำลังทหาร เพื่อลดการเผชิญหน้าของกำลัง 2 ฝ่ายซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งประเด็นหลักสำคัญ นอกเหนือจากการหยุดยิง

8.หากไทย-กัมพูชาเห็นพ้องต้องกัน อาจนำไปสู่การลงนามเป็นข้อตกลง และให้มีผลบังคับใช้ในระดับนโยบายของทั้ง 2 ประเทศ

 

อย่างไรก็ตามใน 8 ประเด็นดังกล่าว มีรายงานเมื่อวานว่าฝ่ายเขมรไม่อาจตัดสินใจได้ ในประเด็นข้อท้าย ๆ อย่างที่”พล.ท. ณัฐพงษ์ เพราแก้ว” เจ้ากรมกิจการชายแดนทหาร ในฐานะเลขานุการ GBC ฝ่ายไทย สรุปบรรยากาศการหารือ เมื่อวาน ว่า ฝ่ายไทยมีผู้แทน 30 คน ขณะที่ฝ่ายกัมพูชามีผู้แทน 13 คน การหารือให้ความสำคัญกับรายละเอียดของข้อตกลงหยุดยิง

 

เนื่องจากผู้แทนทั้ง 2 ฝ่าย ยังมีข้อเสนอเพิ่มเติมบางประการ ฝ่ายกัมพูชาขอนำประเด็น จากที่ประชุมกลับไปหารือกับรัฐบาล ขณะที่ “โมฮาหมัด ฮาซัน” รัฐมนตรีต่างประเทศมาเลเซีย ระบุว่า การประชุมให้ความสำคัญกับการจัดทำขอบเขตของข้อตกลงหยุดยิงของทั้ง 2 ประเทศ นอกจากนี้ยังพูดถึง การจัดตั้งคณะทำงานอาเซียนเพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบการปฏิบัติตามข้อตกลง เพื่อเปิดโอกาสให้สองประเทศสามารถกลับมาร่วมมือกันอีก

 

ส่วน “พล.อ.โมฮัมหมัด นิซาม จาฟฟาร์” ผู้บัญชาการทหารสูงสุดมาเลเซีย ระบุว่า ทั้ง 2 ฝ่าย มีความมุ่งมั่นอย่างแข็งขันเพื่อปูทางไปสู่การสร้างสันติภาพ นอกจากนี้ที่ประชุมจะกำหนดขอบเขต
และรายละเอียดของคณะทำงานอาเซียนเพื่อลงพื้นที่สังเกตการณ์การบังคับใช้ข้อตกลงหยุดยิงในอนาคต ทั้งนี้ “พล.ท. ณัฐพงษ์”ยังระบุว่า สาระสำคัญคงหนีไม่พ้นจาก 7 ข้อตกลงจากระดับแม่ทัพภาค ที่การหารือระดับ RBC ได้ข้อสรุปเพื่อคลี่คลายสถานการณ์แนวชายแดน ซึ่งครอบคลุมประเด็นหลักที่ทั้ง 2 ฝ่ายตกลงร่วมกันทั้งหมด 7 ข้อ

 

กระนั้นจากเนื้อหาที่ปรากฎใน8ข้อที่มุ่งไปที่เนื้อหาการขยายกประเด็นการเจรจาหยุดยิง จากวันที่ 28ก.ค.แม้ “บิ๊กเล็ก” “พล.อ.ณัฐพล”รมช.กลาโหมจะยืนยันว่าไม่ทำให้ไทยเสียเปรียบ แต่ก็ยังวิจารณ์จากหลายฝ่าย รวมถึงบรรดานักสังเกตการณ์ด้านความมั่นคงในไทยหลายคน ทำนอง เหมือนไทยยังพินอบพิเทากับฝ่ายเขมร และมองว่าวงGBCพรุ่งนี้ ถึงเวลาอาจแค่เป็นการหยุดชั่วคราว ที่ “พล.อ.ณัฐพล”ก็ยอมรับว่า ช่วงที่ผ่านมาถูกนักวิชาการ และนักวิจารณ์บางคนมองในเรื่องความสามารถ

 

ซึ่งโดยส่วนตัวมั่นใจ เพราะมีประสบการณ์หลายด้าน รวมทั้งเป็นเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติด้วย แต่จะไม่พูดในลักษณะเป็นการยกตน จึงได้ย้ำว่ามั่นใจทีมงาน พร้อมทั้งตั้งใจจะทำให้ดีที่สุด

 

ขณะที่สื่อสิงคโปร์รายงานความเห็นของ“วิเวียน บาลาคริชนาน”รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ผ่านเวทีการประชุม Asean and Asia Forum ครั้งที่ 17ที่สิงคโปร์ เมื่อวาน(5ส.ค.)ว่า ปมเขมรไทยเป็นการถอยหลังครั้งใหญ่ของอาเซียน ไม่ต้องปกปิดอะไรทั้งนั้น ปัญหาไทย-กัมพูชา คือความเสื่อมถอยครั้งใหญ่ ไม่ใช่แค่สันติภาพและเสถียรภาพ แต่ยังรวมถึงความน่าเชื่อถือของอาเซียน
เพียงแค่คุณมีพื้นที่ที่ยังไม่ได้แบ่งเขตแดนชัดเจน ไม่ได้หมายความว่า สถานการณ์นี้ ต้องนำไปสู่ความรุนแรง

 

ซึ่งก็เป็นความจริงที่ว่า ความรุนแรงดังกล่าวคือความล้มเหลวของการทูต และภาวะผู้นำกำลังถึงทางตัน แนวทางการแก้ปัญหาวิกฤตคือ ต้องเริ่มจากการจัดการภายในประเทศก่อน เพราะการต่างประเทศที่ดีเริ่มจากการจัดการภายในของแต่ละประเทศ.

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews