จบ “อิ๊งค์-ทักษิณ” กลางศึกเขมร Vs นายกคนนอก?
คู่ขนานระหว่างกลางศึกเขมร-ไทย ปรากฏแรงกระเพื่อมทางการเมืองในประเทศไทย ที่สะท้อนภาพ กลุ่มบุคคลชั้นนำทางความคิดหลายกลุ่ม ที่สอดคล้องไปกับ เนื้อหา ที่มี แกนนำบางราย ปราศรัยบนเวที “ม็อบรวมพลังแผ่นดิน” ที่ชุมนุมใหญ่รอบ 2 ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิเมื่อวันเสาร์(2ส.ค.)
โดยมีประเด็นข้อกังวลต่อ สถานการณ์ศึกเขมร ไม่แต่การศึก “หน้างาน”การปะทะ หากแต่ยังอาจบานปลาย กลายเป็นเปิดช่องให้ “ชาติมหาอำนาจ”เข้ามายุ่งเกี่ยวจนนำไปสู่ความไม่สงบอีกต่อไปของไทย และประเทศอาเซียนในอนาคต อย่างที่ปรากฏผ่าน วงเจรจาหยุดยิงที่มาเลเซีย (28ก.ค.) และเวทีประชุม GBC ไทย-เขมรที่มาเลเซีย (4-7ส.ค.)ที่ปรากฏตัวแทน ทั้งฝ่ายจีน และสหรัฐเข้าร่วมสังเกตการณ์
ที่ทั้งหมดถูกผนวกรวมถึงการสรุปสาเหตุ “ฝ่ายการเมือง”โดยเฉพาะ “รัฐบาลอิ๊งค์”ทำให้สถานการณ์บานปลาย กลายเป็นเรื่อง“ความเชื่อมั่นทางการเมือง”ต่อรัฐบาล เมื่อนำมาผนวกรวมหลายเรื่องสำคัญที่ผ่านมา ไม่แต่ประเด็น “คลิปเสียงฮุนเซน”ที่ถูกมองเป็นอีกตัวจุดชนวนมาสู่”ศึกเขมร”ที่กำลังส่งผลพลิกเกมให้ ทั้ง “ทักษิณ ชินวัตร”และ ลูกสาวอย่าง“นายกอิ๊งค์”อยู่ในสถานการณ์ลำบากยากที่จะรักษา “อำนาจ”ได้ต่อ
โดยเฉพาะในจังหวะ 2 เดือนอันตรายของทั้ง”อิ๊งค์-ทักษิณ” ที่มี “ไทม์ไลน์”ตั้งแต่วันนี้(4ส.ค.) ที่ “ศาลรัฐธรรมนูญ”กำหนดเส้นตายให้ต้องส่งคำชี้แจงคดี “คลิปเสียงฮุนเซน”เพื่อศาลจะพิจารณา
และนัดตัดสิน ถัดไป 22ส.ค. ศาลอาญา นัดตัดสินคดี ม.112 ทักษิณ ตามด้วย 26ส.ค. ที่ศาลจะตัดสินคดี คลิปเสียงฮุนเซน หลังจากนั้น 9ก.ย. ศาลนักการเมือง ก็นัดตัดสินคดี ทักษิณอีกคดีคือ “คนชั้น 14”
ที่สถานการณ์ “นิติสงคราม”คดีของ “ทักษิณ-อิ๊งค์”ข้างต้นก่อนหน้านี้ยังถูกวิเคราะห์ว่า ยังอาจมีลุ้นบ้างอย่างที่ “ทักษิณ”เคยไปวิเคราะห์ไว้บนเวที “ผ่าทางตันการเมืองกับ3บก.เนชั่น” ถึง 3 ทาง ที่จะเกิดขึ้น จากคดีที่ “อิ๊งค์”ถูกศาลสั่งพักงานคดีคลิปเสียงคือ
1.อิ๊งค์ รอดคดี กลับมาทำหน้าที่ต่อ
2. ไม่รอด ตกเก้าอี้ ให้ “ภูมิธรรม” รักษาการ และยุบสภาไปต่อหลังยุบสภา
3. ศาลสอย “อิ๊งค์”แล้ว ไม่ยุบสภา แต่จะนำ “ชัยเกษม นิติศิริ”แคนดิเดตนายกเพื่อไทย มาเป็น นายก แทน
กระทั่งมีสถานการณ์ “ศึกเขมร”ที่ถูก “ฮุนเซน”ต่อความยาวสาวความยืด จนบานปลาย “จบไม่ลง” และยิ่ง “เข้าเนื้อ”ทักษิณ และรัฐบาลเพื่อไทย เมื่อถูก “ย้อนรอย”ไปถึงเรื่อง “ผลประโยชน์พลังงาน” เชื่อมไปถึงMOU44 และเชื่อมถึง “ผลประโยชน์”บริษัททุนข้ามชาติสหรัฐ และ ฝรั่งเศส จน ประเด็นวิกฤติชายแดน กลายเป็น วิกฤติศรัทธารัฐบาล พูดอะไร ทำอะไรก็ถูกระแวงสงสัยไปทุกเรื่อง
กระทั่ง เริ่มมีหลายฝ่ายตั้งคำถาม รัฐบาลจะไปต่อไหวหรือไม่ ในจังหวะใกล้มีการตัดสินคดี ของทั้ง “ทักษิณ-อิ๊งค์”กระทั่งมาสู่ จุดไฟนอลจากวันนี้ถึงวันที่ 24ส.ค. โดยมีการจับตา การตัดสินใจทางการเมืองของ “ทักษิณ”ที่จะมีผลกระทบกับทั้งครอบครัวของเขา และอนาคตทางการเมืองของพรรคเพื่อไทย
ที่สถานการณ์นี้ถูกฝ่ายต่างๆระดับชนชั้นนำมองหา “ทางออกประเทศ”ที่แต่ละฝ่ายจะเห็นร่วมกัน ที่คัดค้านวิธีการการเปลี่ยนแปลงโดยการ“รัฐประหาร”ที่มีบทเรียน ทำให้เสียเวลาไปเกือบ10ปี
แต่ก็มีบางส่วนที่ พูดถึง “นายก มาตรา5”ตามรัฐธรรมนูญ 2560 ที่เลยจากเงื่อนไข 5 ปี หรือ “นายกคนนอก”ว่าสามารถเกิดขึ้นได้หรือไม่ โดยหลายฝ่ายตีความคนละอย่างถึง “สุญญากาศ” ที่จะเกิดขึ้น ว่าควรเกิดขึ้นไปตามกลไกปกติตามกฎหมาย
อย่างที่ “ดร.เจษฎ์ โทณะวณิก” ให้สัมภาษณ์รายการของ “หมาแก่” วันนี้(4ส.ค.)ว่า การได้มาซึ่งนายกตามประเพณี ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมากษัตริย์ทรงเป็นประมุขมี2แบบคือประเพณีที่ดีคือมาโดยการเลือกตั้ง ที่ไม่ดีคือรัฐประหาร การปฏิวัติรัฐประหารไม่มีใครสนับสนุน แม้จะเกิดจากทหารที่ลุแก่อำนาจ หรือเกิดจากทหารที่เห็นว่าบ้านเมืองไปไม่ได้
โดย “อ.เจษฎ์”ฉายภาพสถานการณ์ ว่า หากนักการเมืองทั้งหลายไปดำเนินการในเรื่องงบประมาณ ที่ไปโยกงบแทนที่จะให้ธนาคารรัฐเอาไปแจกเงิน1หมื่น สมมติคนเหล่านั้นโดนหมดตามม.144
ทั้ง ครม.,ส.ส.300กว่าคน สว.ร้อยกว่าคน ก็จะเหลือแค่ส.ส.ฝ่ายค้าน ถ้าพรรคประชาชน(ปชน.) บอกอยากไปเลือกตั้งแต่ไม่มีคนที่จะ “ยุบสภา”ให้ไปเลือกตั้งได้ ไม่มีนายกตัวจริง จะเลือกนายกฯพรรคปชน. ก็ไม่มีแคนดิเดตนายกฯ ดังนั้นถ้า พรรค ปชน.ลาออก ก็จะทำให้ “สภาว่าง” เมื่อ “สภาว่าง” ก็จะเข้าว่า “ไม่มีบทบัญญัติรัฐธรรมนูญบังคับ”ก็เข้า ตามมาตรา 5 คือ เมื่อไม่มีบทบัญญัติ
ของรัฐธรรมนูญบังคับก็ให้ใช้ประเพณีการปกครองตามระบอบประชาธิปไตย ก็คือก็ไปเลือกตั้งกัน
แต่ กกต.ก็ไม่มีบทบัญญัติกฎหมายให้ทำ ก็ต้องไปตามศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งศาลก็ต้องบอกว่า ไปจัดการเลือกตั้งได้ ก็เทียบเท่ากับว่า สภาถูกยุบ กกต.ก็ไปจัดการเลือกตั้งใน45วัน นี่ก็คือการใช้ “มาตรา5” ที่ได้มาซึ่งนายกฯ ซึ่งนายกฯก็ต้องมาจากการเลือกตั้ง แล้วมีการเสนอชื่อก็ต้องเอาชื่อที่มีนำมาโหวต ก็ต้องมาแนวนี้ ไม่ใช่อยู่ดีๆไปขอพระราชทานนายกฯมาได้ โดย “อ.เจษฎ์”ยังมองว่าทั้ง “นายกคนนอก” และ “การรัฐประหาร”ล้วนแต่ไม่ใช่ทางออกของประเทศ แต่ควรจะมาจากวิธีการเลือกตั้ง ให้ได้ตัวแทนประชาชนเข้ามา.
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews