Home
|
คลิปข่าวทั่วไป

กองทัพ ยึดปราสาทตาควายคืนไม่ได้100% หมดเวลาสู้รบ

 

กองทัพบกไทย ชี้แจงปมทหารไทยยึดปราสาทตาควายได้ไม่100% ไม่ใช่ตัวชี้วัดแพ้ชนะ แต่ยืนยัน ได้พื้นที่มากกว่าก่อนเกิดเหตุปะทะ ส่วนที่ยึดเนิน 350 จุดสูงข่มไม่ได้ เพราะเจอสนามทุ่นระเบิด และBM-21 จ่อยิงหากเคลื่อนกำลังไปตัวปราสาท ขณะที่ โฆษก ทบ. ก็ไม่ได้รับการประสานจากรัฐบาลก่อนเจรจาหยุดยิงถึงสถานการณ์หน้างาน

 

จากกรณีที่มีรายงานข่าวว่าไทยได้เสียพื้นที่ภายในปราสาทตาควาย จ.สุรินทร์ ให้กับกัมพูชาไปแล้ว ทำให้รัฐบาลไทย โดยนายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ชี้แจงว่า หากพูดถึงในแง่การยุทธ์ การยึดคืนในพื้นที่ต่างๆ ถือว่าเราประสบความสำเร็จ แต่ขณะนี้ไม่อยากพูดในรายละเอียด เนื่องจากอาจส่งผลต่อการเจรจา แต่เอาเป็นว่าสบายใจและพอใจ ในสิ่งที่ทำไป ว่าเราได้ตอบโต้และรักษาอธิปไตยได้เป็นอย่างดี

 

ด้านพล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมกลาโหม ระบุถึงประเด็นนี้เช่นเดียวกันว่า ทางกองทัพบอกว่าควบคุมได้ ก็ต้องฟังหน่วยงาน ที่รายงานมาก่อน เพราะข่าวที่ออกมา บิดเบือนกันไป บิดเบือนกันมา ตลอด

 

ในขณะที่ พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า สำหรับพื้นที่การปฏิบัติการทางทหารทั้งหมดมีเพียงปราสาทตาควายที่เดียว มีข้อจำกัด แต่เราสามารถควบคุมพื้นที่ได้ตามแผน ตามเป้าหมายทางการทหาร โดยพื้นที่ประสาทตาควาย ถือเป็นความพยายามสุดท้ายของทั้งฝ่ายไทยและฝ่ายกัมพูชา ก่อนถึงเวลาหยุดยิง

 

ยอมรับว่า ปัจจุบันเราไม่สามารถควบคุมพื้นที่ได้ 100% เพียงแต่เราได้พื้นที่ควบคุมเพิ่มมากขึ้นก่อนที่จะมีการปะทะ ซึ่งลักษณะการวางกำลังบริเวณปราสาทตาควาย จะอยู่ในพื้นที่ส่วนกลาง และพื้นที่ที่ เป็นจุดสำคัญทางการทหารไม่ใช่ตัวประสาทตาควาย เพราะเป็นพื้นที่ต่ำ แต่เดิมหากเราวางกำลังประจำอยู่ที่ปราสาทตาควาย จะเป็นความไม่ปลอดภัยในเรื่องของการใช้อาวุธ จากฝ่ายตรงข้าม เราจึงให้ความสำคัญกับเรื่องของการคุมพื้นที่ สำหรับห้วงสุดท้ายสำหรับการใช้กำลัง เราพยายามกระทำต่อเป้าหมายจุดสูงข่ม คือ เนิน 350 ซึ่งอาจจะมองว่าอยู่ในฝั่งของประเทศเพื่อนบ้าน แต่เป็นจุดสำคัญที่มีผลกระทบต่อการปฏิบัติทางทหาร

 

จึงเป็นความสำคัญสูงสุดที่เราจะต้องยึดที่หมายนี้ให้ได้ แต่เวลามีให้เราไม่เพียงพอ ซึ่งอย่างน้อยเราก็สามารถควบคุมพื้นที่ส่วนรวม

 

โดยเนิน 350 เป็นพื้นที่วางกำลังของทหารกัมพูชา ซึ่งใช้อาวุธหนักยิงเข้ามาที่ปราสาทตาควายทำให้เราไม่สามารถวางกำลังประจำภายในปราสาทตาควายได้ เพราะจะกลายเป็นเป้านิ่ง และมีความอ่อนแอ

 

หากเราเคลื่อนกำลังแบบผลีผล่ามจะโดนอาวุธยิงสนับสนุน คือ BM-21 ที่พร้อมจู่โจม และในห้วงเวลาสุดท้าย ที่เราพยายามเข้าสู่ 2 ที่หมาย แต่ไม่คาดคิดว่าจะเจอกับสนามทุ่นระเบิด ที่ กัมพูชาวางไว้ ทำให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก แต่สาหัส จำนวน 1 นาย ที่ยอมรับว่า การบาดเจ็บจากสนามทุ่นระเบิดนั้น รั้งหน่วงในการที่จะลุกคืบ ซึ่งต้องพยายามสร้างสมดุลภารกิจสุดท้ายกับขวัญกำลังใจของทหาร และความปลอดภัย ควบคู่กันไป และเมื่อถึงเวลาหยุดยิง เราสามารถควบคุมพื้นที่มากกว่าเดิม เพียงแต่เราไม่มีกำลังประจำที่ปราสาทตาควาย

 

ส่วนที่มีทหารกัมพูชาอยู่ในตัวปราสาทไปอยู่ในขั้นตอนของการหยุดยิง แต่ไม่ได้หมายความว่า ใครที่เดินอยู่ภายในปราสาทตาควาย จะเป็นผู้แพ้ชนะ

 

อย่างไรก็ตาม เราได้เก็บรวบรวมหลักฐานกรณีทหารกัมพูชาวางทุ่นระเบิดบริเวณโดยรอบปราสาทตาควาย เพราะละเมิดอนุสัญญาออตตาวา ซึ่งมีหลักฐานเชิงประจักษ์ เพราะเรามีผู้บาดเจ็บ จากสื่อสังคมออนไลน์จะเห็นว่ามีชาวกัมพูชาที่อยู่บนปราสาทตาเมืองธมและมีวัตถุระเบิด PMN-2 วางอยู่ ซึ่งไม่ใช่ชิ้นเดียว เป็นสิ่งบอกเหตุ และ ถือเป็นข้อมูลและองค์ประกอบหนึ่ง

 

เมื่อถามว่าก่อนเจรจาหยุดยิงรัฐบาลได้ประสานงานมากับกองทัพในฐานะที่รับผิดชอบในหน้างานว่าสามารถควบคุมพื้นที่ได้หรือไม่ ก่อนที่จะไปเจรจานั้น ในส่วนของโฆษกกองทัพบก ไม่ได้รับข้อมูล

โดยรับผิดชอบเฉพาะการปฏิบัติการทางทหารของหน่วยในพื้นที่ และยืนยันว่า การปฏิบัติการในช่วงห้วงสุดท้ายเราได้ทำอย่างดีที่สุด พร้อมยืนยันว่า ทหารไม่มีความกดดันในการปฏิบัติในหน้างาน ซึ่งในภาพรวมเราสามารถบรรลุเป้าหมายได้ 99%

 

ส่วนสาเหตุการเสียปราสาทตาควาย เพราะเรายืดเวลาหยุดยิงออกไป ที่เราอยากยุติการหยุดยิงในเวลา 18:00 น แต่ทางกัมพูชา ขอให้หยุดยิงในเวลา 24:00 น. ทำให้เราไม่สามารถเสริมกำลังไปที่ปราสาทตาควายได้ พล.ต.วินธัย กล่าวว่า ตรงนี้ตนไม่มีข้อมูล และรายละเอียดที่ชัดเจนแบบนั้น

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube