ศบ.ทก.มหาดไทย เร่งเยียวยาผู้ประสบภัย ชายแดนไทย–กัมพูชา

ศบ.ทก. มหาดไทยเร่งเยียวยาผู้ประสบภัยชายแดนไทย–กัมพูชา พร้อมระดมกำลังฝ่ายปกครอง กว่า 10,000 นาย ดูแลความปลอดภัย และเปิดช่องทางบริจาคผ่านศาลาว่าการทุกจังหวัด
นายชำนาญวิทย์ เตรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่างถึงการช่วยเหลือเยียวยา ผู้อพยพและผู้ประสบภัยในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า สถานการณ์แนวชายแดนไทย-กัมพูชา ทั้ง 7 จังหวัดในภาพรวมปกติ โดยมีอัตรากำลังของฝ่ายปกครอง กว่า 10,000 คน เข้าไปดูแลประชาชนในพื้นที่ ทั้งจุดตรวจ จุดสกัด การรักษาทรัพย์สิน ของประชาชนที่อพยพไปอยู่ที่ศูนย์พักพิง พร้อมทั้งสำรวจข้อมูลหลักฐานร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติในการเก็บหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ รวมถึงความเสียหายที่เกิดขึ้น
โดยข้อมูล ณ วันที่ 30 กรกฎาคม 2568 มีครัวเรือนที่ได้รับความเสียหาย จำนวน 278,906 ครัวเรือน ประชาชนได้รับผลกระทบ รวม 839,935 คน ผู้เสียชีวิต 16 ราย ผู้บาดเจ็บ 38 ราย โดยมีการประกาศพื้นที่ภัยพิบัติ 7 จังหวัด 36 อำเภอ 238 ตำบล 2702 หมู่บ้าน
ซึ่งขณะนี้มีจำนวนศูนย์พักพิง ทั้งหมด 733 ศูนย์ และมีผู้อาศัยอยู่ในศูนย์พักพิง จำนวน 187,974 คน ทั้งนี้ มีประชาชนบางส่วนต้องการเดินทางกลับไปเข้าไปยังพื้นที่ จึงได้มอบหมายให้ ผู้ว่าราชการจังหวัดประสานงานกับหน่วยความมั่นคงในพื้นที่พิจารณาถึงความเหมาะสม โดยเน้นเรื่องความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนเป็นหลัก
ขณะที่ การช่วยเหลือเยียวยาประชาชน รัฐบาลเร่งรัดให้ทั้ง 7 จังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา เบิกจ่ายงบประมาณส่วนเงินทดรองราชการ ให้กับครอบครัวผู้เสียชีวิต ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บโดยเร็วทันที พร้อมทั้ง สั่งการให้ทุกจังหวัด เร่งสำรวจดำเนินการสำรวจความเสียหาย และเบิกจ่ายเงินชดเชยเยียวยาประชาชนตามระเบียบโดยเร็ว นอกจากนี้ ภาครัฐได้มีการกำหนดพื้นที่บริจาค โดยสามารถบริจาคเงิน ผ่านสำนักนายกรัฐมนตรี หากเป็นสิ่งของสามารถบริจาคได้ที่ศาลาว่าการจังหวัดทุกจังหวัด ทั้งนี้ ทางกระทรวงมหาดไทยได้สนับสนุนเครื่องจักรกล อาทิ รถประกอบอาหาร รถผลิตน้ำ จำนวน 112 คัน
รองปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า หากประชาชนท่านใด ยังไม่ได้รับการเยียวยาช่วยเหลือ หรือตกหล่น สามารถติดต่อไปยังจังหวัด หรือศูนย์ดำรงธรรม 1567 เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปดูแลได้ทันท่วงที
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews