Home
|
คลิปข่าวทั่วไป

เขมรไว้ใจไม่ได้! ยังละเมิดหยุดยิง สั่งระงับช่วยเหลือทุกด้าน

 

พล.อ.ณัฐพล สั่งผู้บัญชาการการเหล่าทัพ จัดทำแผนในการจัดหายุทโธปกรณ์ทดแทน หลังจากได้มีการสู้รบบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา เสริมความพร้อมรบ และให้ระงับความช่วยเหลือกัมพูชาในทุกด้าน ขณะ ศบ.ทก.ยันหากถูกละเมิดต่ออธิปไตย ไทยก็มีความจำเป็นจะต้องดำเนินการเด็ดขาดและเหมาะสม เพื่อปกป้องอธิปไตย และความปลอดภัยของประชาชน

 

สำหรับความเคลื่อนไหวของฝ่ายความมั่นคงในวันนี้ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ ในฐานะรักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุมสภากลาโหม นัดแรก หลังเกิดสถานการณ์ความไม่สงบบริเวณชายแดนระหว่างไทย-กัมพูชา โดยมีผู้บัญชาการเหล่าทัพ เข้าร่วม

 

ซึ่งได้เน้นย้ำและสั่งการในที่ประชุมเรื่องสำคัญหลายเรื่อง โดยให้ผู้บัญชาการสูงสุด จัดทำแผนในการจัดหายุทโธปกรณ์ทดแทน หลังจากได้มีการสู้รบมาแล้ว ที่รัฐบาลพร้อมสนับสนุน และเพิ่มการเสริมสร้างความพร้อมรบให้สูงขึ้น เนื่องจากจากการสู้รบที่ผ่านมายุทโธปกรณ์ที่จัดหาเป็นยุทโธปกรณ์เชิงรับ ซึ่งต่อไปเราต้องมียุทโธปกรณ์เชิงรุกด้วย พร้อมสั่งการในสภากลาโหม ให้ระงับความช่วยเหลือกัมพูชา ในทุกด้าน และให้กรมพระธรรมนูญ สนับสนุนด้านกฎหมายในการปฎิบัติภารกิจ

 

ขณะที่ศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) นำโดย พล.ร.ต.สุรสันต์ คงสิริ โฆษกกระทรวงกลาโหม และนางมาระตี นะลิตา อันดาโม รองอธิบดีกรมสารนิเทศ และรองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงถึงท่าทีประประเทศไทยหลังเจรจาหยุดยิง แต่ฝ่ายกัมพูชามีการละเมิดข้อตกลง โดยย้ำว่า ไทยยังคงเน้นย้ำในเรื่องของการอดทน อดกลั้น เชื่อมั่นในการดำเนินการโดยเสรีภาพและตามมนุษยธรรม

 

แต่หากถูกละเมิดต่ออธิปไตย ไทยก็มีความจำเป็นจะต้องดำเนินการ เด็ดขาดและเหมาะสม เพื่อปกป้องอธิปไตยและความปลอดภัยของประชาชน นี่คือจุดยืนที่เราแสดงตั้งแต่ต้น และขอชื่นชมผู้กล้าและสดุดีวีรชนทั้งหลายที่อยู่ในแนวหน้า ตั้งแต่วันแรกของการปะทะ รวมทั้งทหาร ตำรวจตระเวนชายแดน เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงอื่นๆ ที่มีส่วนร่วม ทำให้การปฎิบัติประสบความสำเร็จ รวมทั้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุข อสม. จิตอาสา และภาคเอกชนที่ส่งกำลังใจ สิ่งของอุปกรณ์ต่างๆ ให้แนวหน้า

 

ส่วนการหารือระหว่างฝ่ายไทยและกัมพูชาในการประชุมจีบีซี วันที่ 4 ส.ค. เรายังรอฝั่งกัมพูชาส่งหนังสือเชิญเข้าประชุม จีบีซี ตามที่ตกลงไว้ ฝ่ายไทยพร้อมเจรจา ส่วนการพูดคุยเมื่อวาน (29 ก.ค.) ระดับผู้นำภูมิภาค แม่ทัพภาค ได้ข้อตกลงและแนวทางปฎิบัติร่วมกันของหน่วยทหารในพื้นที่ทั้งสองฝ่าย เพื่อนำไปสู่สันติภาพระหว่างประเทศ

 

ด้านกองทัพบก ได้รับรายงานจากหน่วยในพื้นที่ว่า ในวันที่ 29-30 กรกฎาคม 2568 กองทัพกัมพูชาได้กระทำการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงอีกครั้ง ที่พื้นที่ช่องคานม้า พื้นที่เขาพระวิหาร บริเวณภูมะเขือ และห้วยตามาเรีย จังหวัดศรีสะเกษ ที่กัมพูชา มีการใช้อาวุธปืนเล็กยิงอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับใช้อาวุธยิงสนับสนุนประเภทเครื่องยิงลูกระเบิด ฝ่ายไทยจึงจำเป็นต้องใช้ สิทธิตามหลักสากลในการตอบโต้เพื่อป้องกันตนเอง การยิงจากฝ่ายกัมพูชายังคงเกิดขึ้นเป็นระยะจนถึงช่วงเช้าวันนี้

 

นอกจากนี้ ยังมีพื้นที่ผามออีแดง จังหวัดศรีสะเกษ โดยตรวจพบการยิงเครื่องยิงลูกระเบิดจากฝั่งกัมพูชา เข้ามาในเขตแดนประเทศไทยอย่างชัดเจน

 

ซึ่งการกระทำของกองทัพกัมพูชาในครั้งนี้ ถือเป็นการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงอย่างร้ายแรง นับเป็นครั้งที่สองภายหลังจากที่ข้อตกลงมีผลบังคับใช้ และสะท้อนถึงพฤติกรรมที่ไม่เคารพ ต่อพันธกรณีระหว่างประเทศ ตลอดจนเป็นการบ่อนทำลายความพยายามในการคลี่คลายสถานการณ์ด้วยสันติวิธี อีกทั้งยังส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพและความไว้วางใจที่ควรมีระหว่างสองประเทศ

 

กองทัพบก ขอประณามการกระทำอันไม่รับผิดชอบของกองทัพกัมพูชาอย่างถึงที่สุด

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube