8 ปีแห่งการต่อสู้คดี “น้องเมย ภคพงศ์” นตท.ปี 1 เสียชีวิต ใน รร.เตรียมทหาร
คดีสะเทือนใจสังคมไทย กรณีการเสียชีวิตของ “น้องเมย” นายภคพงศ์ ตัญกาญจน์ นักเรียนเตรียมทหารชั้นปีที่ 1 เมื่อปี 2560 ซึ่งถูกลงโทษธำรงวินัยจนเสียชีวิต
ล่าสุด เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2568 คดีเดินทางถึงบทสรุปในชั้นศาลฎีกา ศาลมณฑลทหารบกที่ 12 จ.ปราจีนบุรี พิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์ ว่าจำเลยมีความผิดฐานทำร้ายร่างกายและลงโทษฝ่าฝืนคำสั่งของโรงเรียนเตรียมทหาร
แม้ศาลจะเห็นว่าจำเลยมีความผิด แต่ด้วยเหตุผลว่าไม่เคยต้องโทษ และอายุยังน้อย ศาลจึงมีคำสั่ง จำคุก 4 เดือน 16 วัน ปรับ 15,000 บาท แต่ให้รอลงอาญา 2 ปี เพื่อเปิดโอกาสให้จำเลยกลับตัวและรับใช้ชาติในอนาคต
วันนี้ทางสำนักข่าวไอ.เอ็น.เอ็น. ขอพาทุกคนมาย้อนมหากาพย์คดีน้องเมย ตลอด 8 ปี ที่ผ่านมา เกิดอะไรขึ้นบ้าง

จุดเริ่มต้นในรั้วเตรียมทหาร ก่อนโศกนาฏกรรม
- เมษายน 2560 : “น้องเมย” ภคพงศ์ ตัญกาญจน์ เข้าศึกษาเป็นนักเรียนเตรียมทหารชั้นปีที่ 1
- 18 พฤษภาคม : เขียนบันทึกลงในสมุดไว้ว่า “อยู่ในรั้วจักรดาวครบ 4 สัปดาห์”
- 21 พฤษภาคม : น้องเมยได้บันทึกข้อความว่า “อบรมกันแต่เช้า วันนี้มีเวรโดนพุ่งหลังไป 300 ยก”
**พุ่งหลัง คือการทิ้งตัวกระแทกพื้นด้วยแผ่นหลัง 300 ครั้ง อันตรายต่อศีรษะและกระดูกสันหลัง - 26 พฤษภาคม : ตอนเช้าโดนต่อยท้องจนจุกหนัก ตอนกลางคืนยังถูก “ลงนรก” อีก
**ลงนรก หมายถึงการซ่อมโหด - 23 สิงหาคม : กลางดึกถูกรุ่นพี่สั่ง “ปักหัว” ลงพื้นห้องน้ำ
- 24 สิงหาคม : ถูกหามส่งโรงพยาบาล พร้อมกับร้องไห้บอกพ่อว่าตน “เจ็บหัว”
- 25 สิงหาคม : กลับเข้าโรงเรียน และถูกซ่อมซ้ำอีกครั้ง
ช่วงเวลาเกิดเหตุ
- 15 ตุลาคม 2560 : น้องเมยถูกลงโทษจนหมดสติ ต้องหามส่งกองพยาบาลเพื่อให้น้ำเกลือ
- 17 ตุลาคม 2560 : เวลา 17.00 น. กองพยาบาลแจ้งให้ครอบครัวรีบไปโรงพยาบาล เวลา 20.00 น. น้องเมยเสียชีวิต แพทย์ลงความเห็นว่า “หัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน”
กระบวนการเรียกร้องความเป็นธรรม
- 20 ตุลาคม 2560 : ครอบครัวรับศพจากโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า เตรียมนำไปบำเพ็ญกุศล
แต่เมื่อทำพิธีล้างศพ พบรอยฟกช้ำทั่วร่างกาย จึงตัดสินใจส่งกลับเพื่อชันสูตรซ้ำ - 17 พฤศจิกายน : ผลชันสูตรรอบสองจากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ชี้ชัด
- ซี่โครงหัก
- กกหูช้ำ
- เลือดคั่งในช่องท้อง
- และที่สำคัญ อวัยวะภายในหลายส่วนหายไป เช่น สมอง หัวใจ กระเพาะอาหาร ลำไส้
สิ่งเหล่านี้ ขัดแย้งกับผลชันสูตรรอบแรก และกลายเป็นจุดเริ่มต้นของการต่อสู้เพื่อความจริง
- พฤศจิกายน 2560 : กระแสสังคมเริ่มตั้งคำถามอย่างรุนแรงต่อกระบวนการลงโทษภายในโรงเรียนเตรียมทหาร หลังจากกรณีการเสียชีวิตของ “น้องเมย” กลายเป็นข่าวใหญ่ จนกระทั่งผู้บัญชาการทหารสูงสุดออกมายอมรับว่า เมยถูกลงโทษโดยรุ่นพี่และครูฝึก
ขณะเดียวกัน ครอบครัวของน้องเมยยื่นเรื่องต่อ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ขอให้รับเป็นคดีพิเศษ และคดีได้เข้าสู่กระบวนการสอบสวนของตำรวจในเวลาต่อมา
มี.ค. 2562 จุดเริ่มของการฟ้องร้องในชั้นศาล
- อัยการสั่งฟ้อง นักเรียนเตรียมทหาร 2 ราย ในข้อหา ทำร้ายร่างกายเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย
- ครูฝึกอีก 1 ราย ถูกฟ้องในข้อหา กระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย
- คดีอยู่ในเขตอำนาจของ ศาลมณฑลทหารบกที่ 12 จ.ปราจีนบุรี
ต่อมา ศาลชั้นต้นพิพากษาให้รอการกำหนดโทษ แก่นักเรียนเตรียมทหาร ส่วนคดีแพ่ง ที่ครอบครัวฟ้องเรียกร้องค่าเสียหายจากกระทรวงกลาโหม และกองทัพไทย ศาลอุทธรณ์ได้มีคำพิพากษายืนให้ชดใช้ค่าเสียหายบางส่วน ซึ่งครอบครัวปฏิเสธที่จะรับ และยืนยันว่าจะต่อสู้เพื่อหาความจริงต่อไป
แม้เวลาจะผ่านไปเกือบ 8 ปีเต็ม แต่ครอบครัวของ “น้องเมย” ก็ยังไม่ยอมแพ้ เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2568 นางสุกัญญา ตัญกาญจน์ มารดาของน้องเมย เปิดเผยกับสื่อว่า “ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ครอบครัวได้รับเพียง ‘ค่าทำศพ 100,000 บาท’ และยังไม่ได้นำมาใช้ พร้อมยืนยันชัดเจนว่า “เราไม่เคยได้รับเงินชดเชย 30-40 ล้านบาทตามข่าวลือ”
นางสุกัญญา ตัญกาญจน์ อธิบายเพิ่มเติมว่า ในศาลทหาร พลเรือน เธอไม่สามารถแต่งตั้งทนายความเองได้ อัยการต้องเป็นผู้ดูแลคดี แต่ฝ่ายจำเลยที่เป็นทหารกลับมีสิทธิ์ตั้งทนายของตัวเอง
ทั้งนี้นางสุกัญญา ยังเปิดเผยถึงประเด็นที่ครอบครัวยังติดใจอย่างมาก คือการที่อวัยวะสำคัญของลูกชาย เช่น สมอง หัวใจ และกระเพาะอาหาร ไม่ได้ถูกส่งคืน “เราแจ้งความกับตำรวจเกี่ยวกับแพทย์ที่ผ่าตัดศพคนแรก เพราะเขาไม่คืนอวัยวะ แต่แม้จะถูกออกหมายเรียกถึง 2 ครั้ง ตำรวจก็ยังไม่ออกหมายจับ ทั้งที่เขาไม่ไปพบพนักงานสอบสวนเลย”
หลังจากนั้นครอบครัวประสานขออวัยวะจากโรงพยาบาลพระมงกุฎฯ ก่อนนำไปตรวจดีเอ็นเอที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ และทราบผลจากผู้อำนวยการโรงพยาบาลว่า ดีเอ็นเอเข้ากันไม่ได้ ครอบครัวจึงไม่ได้นำอวัยวะกลับ เพราะไม่ทราบว่าเป็นอวัยวะของใคร
ล่าสุด วันที่ 22 กรกฎาคม 2568 ศาลมณฑลทหารบกที่ 12 นัดอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา ในคดีอาญาหลักที่เกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของน้องเมย ศาลฎีกา พิพากษายืนตามศาลชั้นอุทธรณ์ จำเลยมีความผิดทำร้ายร่างกาย ทำโทษโดยฝ่าฝืนคำสั่งกลุ่มนักเรียนโรงเรียนเตรียมทหาร ส่วนที่โจทก์ขอให้ลงโทษจำเลยทันทีนั้น ศาลเห็นว่าด้วยอายุจำเลยไม่เคยได้รับโทษ
การจะลงโทษจำเลยไปก็ไม่เป็นประโยชน์ ให้จำเลยปรับปรุงตัวรับราชการรับใช้ชาติต่อไปจะเป็นประโยชน์มากกว่า จึงให้ลงโทษจำคุก 4 เดือน 16 วัน ปรับ 15,000 บาท และให้รอลงอาญา 2 ปี
เป็นอันสิ้นสุด 8 ปีแห่งการตามหาความยุติธรรมของข้อสงสัยเดิม พร้อมๆกับเป็นการเริ่มต้นของข้อสงสัยใหม่ของคนไทยทั้งประเทศ
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews





