ฟิล์ม รัฐภูมิ ขึ้นศาลคดีฟ้อง DJ แมน กล่าวหาเรียกรับเงิน 14 ล้าน
“ฟิล์ม รัฐภูมิ” ขึ้นศาล คดีฟ้องหมิ่น “ดีเจแมน กล่าวหาเรียกรับเงิน เจ้าตัวยินดีไกล่เกลี่ย หากคู่กรณีพูดความจริง ย้ำ ไม่เคยทำตามที่ถูกกล่าวหา
วันนี้ ( 16 มิ.ย 68) ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดไต่สวนมูลฟ้องโจทก์คดีดำอ.1023 /68 ที่นายรัฐภูมิ โตคงทรัพย์ นักแสดงชื่อดัง เป็นโจทก์ฟ้องนายพัฒนพล กุญชร หรือ ดีเจแมน เป็นจำเลยฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณาฯ จากกรณีกล่าวหา ว่า ฟิล์ม รัฐภูมิ เรียกเงิน14 ล้านบาทเพื่อช่วยเหลือคดีแชร์ Forex – 3D
นายเตชะสิทธิ์ ทนายความของฟิล์ม รัฐภูมิ เปิดเผยว่า วันนี้ เดินทางมาศาลจากกรณีที่ ฟิล์มฟ้องหมิ่นประมาท ดีเจแมน กรณีให้สัมภาษณ์ในรายการโทรทัศน์ดัง 2 ช่อง กล่าวพาดพิง ฟิล์ม รัฐภูมิ ทำให้คนเข้าใจผิดว่าไปเรียกรับเงิน วันนี้จึงมาใช้สิทธิ์ยื่นฟ้องในข้อหาหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา เพราะทำให้ประชาชนเกิดความสับสน จำเป็นต้องใช้สิทธิ์ในทางศาล เพราะจริงๆ ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับฟิล์ม เลย ซึ่งวันนี้เป็นนัดไต่สวนมูลฟ้องโจทก์ และได้นำ เป็นคลิปที่ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ทั้ง 2 ช่องเอามาแสดงต่อศาล รวมถึงคอมเมนต์ที่ประชาชนเข้าใจผิดเกี่ยวกับฟิล์มดัวย
ส่วนกรณีที่ ดีเจแมน ไปแจ้งความฟิล์ม ที่กองปราบนั้น ตอนนี้ยังไม่ทราบรายละเอียด จึงยังตอบ ตอนนี้ไม่ได้ เพราะว่าข้อกล่าวหาที่เขาตั้งมา จะเห็นได้ก็ต่อเมื่อ เราไปรับทราบข้อกล่าวหา วันนี้ก็เป็นเพียงแค่เขาออกมาให้สัมภาษณ์เท่านั้น ส่วนรายละเอียดที่เกี่ยวข้องจะบอกอีกครั้ง
ขณะที่ฟิล์ม รัฐภูมิ ยืนยันว่าสิ่งที่เขาดีเจแมนพูดไม่เป็นความจริง และไม่เคยไปทำอะไรแบบที่ถูกกล่าวหา ซึ่งจริงๆ แล้ววันนี้ต้องบอกว่า ตนเองก็มาเปิดโอกาสให้เขา ถ้าเขาพูดความจริงกับประชาชนและไม่โกหกต่อไป ผมก็ยินดีที่จะให้อภัย ก็เอาเป็นว่าเดี๋ยวขอรู้ก่อนว่ามาในแบบไหนยังไง โอเค ถ้าเขาโอเค ผมก็ไม่ได้ให้ข้อมูลต่อ แต่ถ้าเกิดว่าไม่โอเคยังไง เดี๋ยวค่อยว่ากัน เดี๋ยวจะมาให้ข้อมูลกับสื่ออีกครั้งส่วนตอนนี้ไม่รู้สึกเครียดอะไรเลย เพราะคนพูดไม่จริง มันก็คือไม่จริงอยู่แล้ว เพราะสิ่งที่เขาพูดมาทั้งหมดจนถึงวันนี้ไม่ตรงกันสักเรื่อง แม้กระทั่งคนในครอบครัวของเขาก็ออกมาพูด ไม่ตรงกับเขา แล้วอย่างนี้สังคมจะวิเคราะห์ยังไง มองว่าไม่เป็นไร คนเราผิดพลาดกันได้ ผมพร้อมจะให้อภัย วันนี้ผมไม่ได้มาที่จะตั้งแง่หรือมาเรียกร้องอะไรเลย ขอให้เขาพูดความจริงกับประชาชนก็พอแล้ว
เพราะ จริงๆ แล้วผมเชื่อว่าคนที่เชื่อมั่นในตัวผมและคนที่ติดตามข่าว ไม่มีใครเชื่อ แต่ถ้าคนที่อาจจะอ่านแค่หัวข้อหรือโดนสื่อที่ปลุกปั่น เชื่อว่าก็อาจจะมีคล้อยตาม แต่ความจริงอยู่ที่ปากของเขาอยู่แล้ว วันหนึ่งเขาออกมาพูดว่า ทำไมไม่มีใครมาตรวจเส้นทางการเงินของผม และเขาบอกว่าของเขาถูกทั้งหมด จริงๆ แล้วก็ไม่ใช่ แสดงว่าเขาด่าเจ้าหน้าที่รัฐหรือไม่ ว่าเจ้าหน้าที่รัฐตรวจสอบเขามาผิดหมด หลักฐานก็มีทุกอย่าง ของผมก็โดนตรวจสอบเหมือนกัน ผมไม่ได้เกี่ยวโยงไม่ได้อะไร ของผมดีแคร์ตัวเองได้หมด และอีกวันก็ออกมาพูดว่า ผมเป็นคนไปทำแบบนั้นแบบนี้ และทั้งๆ ที่ภรรยาของเขาก็ออกมา บอกว่าผมไม่ได้เกี่ยวข้องอะไร
ส่วนกรณีที่ ดีเจแมน ไปให้สัมภาษณ์ที่กองปราบบอกว่าคนแบบนี้ปล่อยไว้ไม่ได้ ฟิล์ม รัฐภูมิ ระบุว่าคำนี้ จริงๆก็ไม่ชอบ เพราะไม่ควรมาพิพากษาใคร และไม่ควรจะเหยียบย่ำใคร เพื่อให้ตัวเองได้งาน ไม่ควร ไปรับบทน่าสงสารเพื่อให้ตัวเองได้มีงานทำต่อโดยการที่ว่าร้ายคนอื่น แบบนี้ ตนก็ไม่ชอบ และมองว่ามันไม่ถูกต้อง เอาเป็นว่ายังมีอะไรอีกเยอะ ที่ผมต้องดูวันนี้ก่อนว่าเขายังไง แต่ว่าวันนี้ผมก็เปิดโอกาสให้เขาก็แล้วกัน
และกรณีใบเตย ก็ได้มีการพูดคุยกัน น้องบอกไม่รู้ว่า ไม่รู้จะบอกกันยังไง และต้องบอกว่าครอบครัวนี้น่ารักมาก ทั้งคุณพ่อ คุณแม่ ของน้องเขาก็บอกว่าไปพูดให้หมดเพราะทุกคนก็งงว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ส่วนตัวเองขอพูดด้วยหลักความจริงว่า น้องช่วยงานผมตลอด ผมกับน้องสนิทกันตลอด เมื่อน้องออกมาก็มาไลฟ์ช่วยขายของ เราก็ยังทำงานด้วยกันตลอด แล้วคนแบบนี้ อยู่ๆ มาหาว่าผมไปทำร้ายครอบครัวเขา ผมไปทำร้ายอะไร ผมยังนึกอะไรไม่ออกเลย
ทั้งนี้ หากมีการไกล่เกลี่ยกัน ฟิล์ม รัฐภูมิ ยืนยัน ก็พร้อมจะเจรจา จริง ๆ ก็เปิดโอกาสก็แล้วแต่เขาว่าเขาจะเอามาพูดอะไร แค่ว่าเขายอมรับความจริงที่ออกมาพูด ให้ทุกคนฟังผมก็ไม่ติดใจอะไร เพราะมองว่าแบบนี้เป็นการทำให้เขาเห็นมากกว่าว่า นี่แหละคนที่ไม่เคยเอาอะไรของจริง แม้แต่ว่าผมมีสิทธิ์แต่ผมก็ไม่ทำ ไม่รู้ว่าจะทำไปทำไม ก็แล้วแต่เขาแล้วกัน ตอนนี้ยังพูดอะไรไม่ได้แต่พร้อมให้อภัยได้ทุกอย่างไม่ได้ติดอะไร ทำให้สังคมได้เห็นว่ามากล่าวหาว่าผมไปตบทรัพย์ เรียกรับสินบน จะทำให้เขาเห็นเลยว่าคนอย่างผมไม่เคยเรียกรับเงินจากใคร
ฟิล์ม รัฐภูมิ ยังกล่าวย้ำว่า สำหรับสิ่งที่เกิดขึ้น ทำให้ตนเองได้รับผลกระทบเยอะมาก คือเวลาจะไปขายงานหรือไปทำงาน บริษัททัวร์ก็ถูกแคนเซินเยอะมาก เพราะทุกคนไม่ได้ไม่มั่นใจในตัวผม แต่บอกว่าขอให้เรื่องเงียบก่อน ส่วนบริษัทโรงงานทำผลิตภัณฑ์ความงามอีกมากมายที่ได้รับผลกระทบ เพราะทำให้คน รู้สึกว่าไม่อยากเข้ามายุ่งกับปัญหาต่าง ๆ เหล่านี้ที่เกิดขึ้น ตนเองก็ได้แต่อดทน
และพูดอีกคำว่าผมไม่เคยพูดอะไร แล้วทำไมมาหาว่าผมกระทำ ผมไม่เคยทำอะไรใคร ผมอยู่เงียบ ๆ เฉยๆ แต่ว่าวันนี้ ผมออกมารักษาสิทธิ์ตัวเอง เพราะเขาทำเกินไป ตนเองจะมีธงของ เพราะเขาหาว่าตนไปฟ้องมั่ว ไม่จริงเลย ตนเองไม่เคยไปฟ้องใคร แต่คนที่ล้ำเส้นต่างหากที่ต้องถูกดำเนินคดี มาดาพ่อล่อแม่ยุ่งกับบุพการี และทำหลายครั้ง ไม่รู้จักสำนึก โกหกหลายรอบ ไม่มีจิตใต้สำนึก คนแบบนี้ ถึงจะต้องถูกฟ้อง
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
