Home
|
ไลฟ์สไตล์

รวม 7 วิธีไล่ฝน ทำให้หยุดตก

Featured Image

          ในช่วงฤดูฝนแบบนี้ สิ่งเดียวที่หลายคนชอบเกี่ยวกับหน้าฝน คงเป็น อากาศเหมาะกับนอนอยู่บ้านที่สุด เพราะไม่ว่าจะออกไปไหน ทำอะไร ในช่วงนี้ก็จะ เฉอะแฉะแล้วก็ลำบากไปหมด แล้วถ้ายิ่งมีงานที่ต้องจัดกลางแจ้ง ยิ่งแล้วใหญ่

ทำให้สมัยโบราณได้เกิดความเชื่อและพิธีไล่ฝนขึ้นมา เพื่อจัดการกับสภาพอากาศที่ไม่เป็นใจ ในวันที่ต้องจัดงานสำคัญขึ้นมา แม้ว่าฟ้าฝนเป็นสิ่งที่กำหนดไม่ได้ แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีวิธีไล่มัน จะมันวิธีไหนไปดูกัน 

ปักตะไคร้

          ขอเปิดด้วยพิธีการไล่ฝน ที่ใช้กันมาแพร่หลายอย่างการ “ปักตะไคร้” แท้จริงแล้วเป็นความเชื่อของ ภาคเหนือ บ้านเรา เชื่อกันว่าเป็นการแก้เคล็ดป้องกันไม่ให้ฝนตก เป็นการขอเทวดาบนฟ้าให้ฝนยังไม่ตกตอนนี้

โดยหากฝนจะตกให้หาหญิงสาว มาทำพิธี ปักตะไคร้  และที่สำคัญต้องเป็น “สาวพรมจรรย์ ”เท่านั้น นั่นก็เป็นเพราะคนสมัยก่อนเชื่อว่า เพศหญิง เปรียบเหมือนดั่งต้นกำเนิดของทุกอย่าง จึงมีพลังศักดิ์สิทธิ์ แล้วยิ่งถ้าเป็น สาวบริสุทธิ์ ยิ่งมีพลังสูงมาก 

ส่วนเรื่องที่ต้องปักตะไคร้กลับหัว เพื่อเป็นการสื่อว่า กำลังฝืนธรรมชาติ แต่ก็ไม่มีใครทราบที่มาแน่ชัดว่ามาจากไหน แต่บ้างก็ว่ามาจากพิธีชาวกะเหรี่ยง บ้างก็ว่าเป็นเพราะความเชื่อจากพราหมณ์ นอกจากนี้ ที่ต้องเป็นตะไคร้ก็เพราะตะไคร้มีกลิ่นฉุนที่เทวดาไม่ชอบ นั่นเอง

 

เผาดินขอ

          พิธีกรรมนี้เป็นคติโบราณของ คนล้านนา เรียกกันว่า “เผาดินขอ” คือการเอากระเบื้องดินเผาที่ใช้แล้วมาเขียนยันต์ใส่บนกระเบื้องเป็นจำนวนหลายแผ่น

ทำการวางไว้บนเตาแล้วจุดไฟเผา ระหว่างที่ทำ ก็ให้สวดคาถาไปเรื่อยๆ โดยคนที่ทำพิธีนี้ ต้องห้ามอาบน้ำและให้สวดไปเอามืออังเตาไปด้วย จนกว่าฝนจะหยุด หากไม่ทำตามฝนจะตกลงมาทันที

โดยเชื่อว่า เป็นการบอกกล่าว หรือ ขอพรจากธรรมชาติให้หยุดตกหรือหยุดพายุ เพื่อความสงบสุข ชาวบ้านเชื่อว่านี้คือการแสดงความเคารพต่อธรรมชาติและเทพเจ้าที่ปกครองฟ้าฝน แบบสุภาพ

 

ตุ๊กตาไล่ฝน

          เป็นไอเท็มไล่ฝนของญี่ปุ่นที่หลายคนคงคุ้นตากันบ้างแล้ว เพราะ “ตุ๊กตาไล่ฝน”มักจะปรากฏอยู่ใน การ์ตูนหรือหนังอยู่เสมอ กลายเป็นอีกหนึ่งเอกลักษณ์ ของประเทศญี่ปุ่นไปแล้ว 

เจ้าสิ่งนี้มีชื่อว่า เทรุเทรุโบซุ (Teru-Teru-Bōzu) เป็นตุ๊กตาสีขาว ที่วาดหน้าตาทำให้น่ารักมากขึ้น ลักษณะเป็นหัวกลม คล้ายกับคนที่โดนผูกคอ 

ในวันที่ฝนตกชาวบ้านมักจะแขวนไว้ หน้าบ้านเพื่อขอให้ฝนหยุด แต่ในทางกลับกันถ้าฝนไม่ตก ก็จะแขวนตุ๊กตาให้กลับหัว เพื่อขอฝน เรียกได้ว่าเป็น ไอเท็มที่ มี 2 ฟังก์ชั่นภายในตัวเดียว

แต่เห็นน่าตาหน้ารักแบบนี้ภูมิหลังตุ๊กตาตัวนี้กลับแสนเศร้า ว่ากันว่า มีพระรูปหนึ่งในอตีดสามารถทำพีธีให้ฝนหยุดได้ ความสามารถของพระรูปนี้ เป็นที่เลื่องลือจนไปถึงหมู่บ้านแห่งหนึ่งที่ประสบกับฝนตกอย่างหนักจนน้ำท่วม 

ชาวบ้านจึงได้เชิญ พระรูปนี้มาที่หมู่บ้านเพื่อช่วยหยุดฝน แต่พบกับความผิดหวังเพราะปรากฏว่าพระรูปนี้กับหยุดฝนไม่ได้ พระรูปนี้จึงถูกฆ่าโดยชาวบ้าน ทั้งยังแขวนคอประจาน จนกลายเป็นลักษณะของตุ๊กตาไล่ฝน จนถึงปัจจุบัน อีกด้วย

 

ครกตำข้าวสารกลับหัว

           ครกหาม หมายถึง ครกตำข้าวสารขนาดใหญ่ ทำมาจากไม้หรือหิน ซึ่งคนเก่าคนแก่เชื่อว่า การกลับหัวครก มันเป็นเหมือนการ สั่งให้ธรรมชาติเปลี่ยนแปลง เพราะเป็นการ ขอร้องต่อฟ้าดินคล้ายกับว่า “เรายอมผิดระเบียบเพื่อขอให้ฟ้าหยุดฝน”

ถ้าเป็นครกตำข้าวสารที่เก่ามากยิ่งดี ห้ามใช้ครกที่แตก แล้วเหตุผลที่กลับครกคว่ำลงพื้น มันถือเป็น การกลับโชคกลับดวงของฝน 

 

จุดธูป 16 ดอก ปักกลางแจ้ง

          การจุดธูป 16 ดอกแล้วปักกลางแจ้ง เป็นความเชื่อพื้นบ้านของไทยที่มีรากมาจาก ศาสนาพุทธผสมพราหมณ์ และไสยศาสตร์ เข้าด้วยกัน ใช้เพื่อขอให้ฝนหยุด

ที่ใช้ 16 ดอก สื่อถือ 16 ชั้นฟ้า ตามความเชื่อของพราหมณ์ที่ไสยศาสตร์ และการจุดธูปพร้อมกันแล้วปักกลางแจ้ง ยังบอกถึง การอัญเชิญเทพที่ปกครองฟ้าฝน ว่าให้โปรดเมตตา ไม่ปล่อยฝนลงมา

ที่สำคัญทำพิธีใกล้ถังขยะ หรือที่สกปรก มันเหมือนเป็นการไม่เคารพ และอาจจะดึดดูดวิณญาณที่ไม่ใช่เทพ คนสมัยก่อนยังเชื่ออีกว่า ฟ้า ดิน เทวดาจะไม่รับรู้คำขอ ถ้าหากเราทำอย่างไม่เคารพอย่างถูกต้อง 

 

ปักมีดกลางลาน

          หนึ่งในพิธีกรรมพื้นบ้านไทยที่มีมานานเจอในภาคกลางและอีสานบางที่ โดยใช้มีด 1 เล่ม ดอกไม้ ธูป 3 หรือ 5 ดอก เลือกจุดที่ต้องการไม่ให้ฝนตก ปักมีดลงพื้นแล้วจุดธูปและอธิษฐาน รอจนธูปหมด ค่อยเก็บมีด

ข้อห้ามคือ ไม่ควรใช้มีดที่ใช้ฆ่าสัตว์ พิธีนี้มีความเชื่อมาจาก คนสมัยก่อน คิดว่า ดิน น้ำ ลม ไฟ มีจิตวิญญาณ หรือเทวดาอยู่ การปักมีดลงดิน คือการสื่อสารกับดินและฟ้าว่าขอให้หยุดฝนไว้ก่อน 

ที่ใช้มีดนั่นเป็นเพราะ มีด คือ สัญลักษณ์ของความคม ที่สามารถ ตัด หรือ สั่งให้ธาตุสงบได้ และ ต้องปักลงดินเชื่อว่า ดินเปรียบเหมือนความมั่นคงจึงหมายถึงการสั่งให้ฝนหยุดนั่นเอง 

 

หันกระจกสะท้อนเมฆ

          วิธีสุดท้ายก็คือ การหันกระจกสะท้อนเมฆเพื่อไล่ฝน เป็นพิธีที่มีความหมายลึกซึ้งทางสัญลักษณ์ โดยใช้กระจกเป็นสื่อกลางแทน

กระจกในความเชื่อคือ เป็นเหมือนกับเครื่องมือที่สะท้อนพลังหรือเจตนา แล้วการหักขึ้นฟ้าก็เหมือนกับการสะท้อนพลังกลับไปยังเมฆฝน 

วิธีนี้ทำได้ง่าย ขอแค่มี กระจกเงาและจิตที่ตั้งมั่นก็ทำได้แล้ว ด้วยการยืนในจุดที่เห็นเมฆหรือทิศที่ฝนกำลังจะมา ถือกระจกให้แสงสะท้อนเมฆ ตั้งจิตให้สงบและอธิฐานในใจ ทำซ้ำ 3 – 5 นาที แล้วถ้าฝนผ่านไปหรือหยุดตก ก็ให้บอกขอบคุณในใจ 

 

           ไหนใครเคยคุ้นหู คุ้นตา พิธีกรรมไหนบ้าง  ความเชื่อไม่ว่าจะทุกยุคทุกสมัยเป็นของคู่กันกับคนเราจริงๆ ความเชื่อที่มนุษย์เรามีต่อสิ่งเหนือธรรมชาติ คือสิ่งที่มีมาตั้งแต่โบราณ ไม่ว่าจะได้ผลหรือไม่ อย่างน้อยมีที่พึ่ง เพื่อความสบายใจ มันก็เป็นเรื่องไม่เสียหายอะไรในการลองนะคะ

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube