“พิชัย” รับลูกนายกฯเดินหน้า 7 มาตรการเร่งส่งออกผลไม้ไทยไปทั่วโลก
“พิชัย” รับลูกนายกฯ เดินหน้า 7 มาตรการ 25 แผนงาน เร่งส่งออกผลไม้ไทยไปทั่วโลก-ดัน FTA ไทย-ยุโรป เพิ่มยอดส่งออกพุ่งสูงต่อเนื่อง-ปรับโฉมร้าน Thai Select-ลุยแก้สินค้าสวมสิทธิ์ สกัดธุรกิจนอมินี
นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ตนได้สั่งการให้กระทรวงพาณิชย์เร่งขับเคลื่อนนโยบายตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ในที่ประชุมหัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวงหรือเทียบเท่า ครั้งที่ 4/2568 ที่กระทรวงพาณิชย์ ซึ่งท่านนายกฯ ได้กำชับให้ส่งเสริมและผลักดันสินค้าเกษตรไทย เพื่อแก้ไขปัญหาสินค้าล้นตลาด และเพื่อให้เกษตรกรขายได้ราคาสูงสุด รวมถึง การหาคู่ค้าหรือตลาดใหม่ๆ ที่มีศักยภาพ การส่งเสริมให้ผู้ประกอบการไทยใช้ประโยชน์จากข้อตกลงการค้าเสรี (FTA) ที่ไทยมีอยู่กับประเทศต่างๆ ให้ได้มากที่สุด
กระทรวงพาณิชย์ได้ร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ จัดทำ 7 มาตรการ 25 แผนงานล่วงหน้า ครอบคลุมตั้งแต่การผลิต การตลาด การส่งออก ไปจนถึงการแปรรูปและอำนวยความสะดวกทางการค้าเพื่อระบายผลไม้ 950,000 ตัน ไปยังตลาดทั้งในและต่างประเทศ ควบคู่กับการรณรงค์ส่งเสริมการบริโภคผลไม้ภายในประเทศอย่างเข้มข้น ได้กำชับไปยังกรมการค้าภายในให้ดำเนินมาตรการเชิงรุก จัดกิจกรรมรณรงค์บริโภคผลไม้ร่วมกับห้างค้าปลีกชั้นนำตั้งแต่ช่วงต้นฤดูกาล อาทิ ศูนย์การค้าสยามพารากอน เซ็นทรัล เดอะมอลล์ ห้างในเครือซีพีแอ็กซ์ตร้า เพื่อเพิ่มช่องทางการจำหน่ายให้เกษตรกรโดยตรง
ในส่วนการเจรจา FTA ได้เร่งเดินหน้าโครงการเจรจา FTA กับสหภาพยุโรป เกาหลีใต้ และอาเซียน-แคนาดา โดยตั้งเป้าสรุปให้แล้วเสร็จภายในปีนี้ ซึ่งจะทำให้ไทยมีความตกลงทางการค้ากับกว่า 50 ประเทศทั่วโลกและเสริมแต้มต่อให้ผู้ส่งออกและนักลงทุนไทยขยายตลาดใหม่ๆ ได้เพิ่มขึ้น
สำหรับผลสำเร็จของ FTA เริ่มเห็นเป็นรูปธรรมต่อเนื่อง โดยในเดือนมีนาคม 2568 การส่งออกของไทยขยายตัวถึง 17.8% คิดเป็นมูลค่า 29,548.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นตัวเลขสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ดันยอดส่งออกไตรมาสแรกโต 15.2% รวมมูลค่า 81,532.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จะเห็นได้ว่า การสรุปและลงนามข้อตกลง FTA กับสมาคมการค้าเสรีแห่งยุโรป (EFTA) ที่มีประเทศมีกำลังซื้อสูงอย่างสวิตเซอร์แลนด์ นอร์เวย์ ไอซ์แลนด์ และลิกเตนสไตน์
เมื่อเดือนมกราคม 2568 มีความสำคัญมาก เป็นสัญญาณเชิงบวกต่อการโอกาสทางการค้าระหว่างกันในอนาคตนายพิชัย ยังกล่าวถึงโครงการ Thai SELECT ว่า ขณะนี้ได้ยกระดับปรับโฉมใหม่เพื่อก้าวสู่ Global Brand โดยใช้ ‘ดาวเกียรติยศรูปดอกกล้วยไม้’ เป็นสัญลักษณ์ พร้อมแบ่งร้าน ออกเป็น 4 ระดับ ได้แก่ Thai SELECT 1 ดาว, 2 ดาว, 3 ดาว และ Thai SELECT Casual ครอบคลุมตั้งแต่ร้านเล็กราคาย่อมเยาไปจนถึงร้านหรูระดับพรีเมียม เพื่อเพิ่มการรับรอง ร้านอาหารไทยในต่างประเทศและเชื่อมโยงการใช้วัตถุดิบส่งตรงจากไทย ลดต้นทุนและสนับสนุนการส่งออกสินค้าเกษตรเพิ่มขึ้น
ขณะเดียวกัน กระทรวงพาณิชย์ยังเดินหน้าป้องกันการสวมสิทธิ์สินค้าไทยส่งออก โดยอยู่ระหว่างรวบรวมรายชื่อบริษัทต่างชาติที่ใช้ไทยเป็นฐานหลีกเลี่ยงภาษี และตรวจสอบ 65 กลุ่มสินค้าเสี่ยงพร้อมร่วมมือกับศุลกากรสหรัฐฯ อย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ยังเข้มงวดการแก้ปัญหาสินค้าต่างประเทศที่ฝ่าฝืนกฎหมายในไทย โดยในช่วง 8 เดือนที่ผ่านมา ดำเนินคดีไปแล้วกว่า 32,394 คดี มูลค่าความเสียหาย 1,454 ล้านบาท และจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มสินค้านำเข้าต่ำกว่า 1,500 บาทได้รวม 1,796 ล้านบาท รวมถึงสั่งถอดสินค้าผิดกฎหมายออกจากแพลตฟอร์มออนไลน์แล้ว 9,043 รายการ
ในส่วนการปราบนอมินี ได้ดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดต่อเนื่อง โดยผลการดำเนินการในช่วงตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2567 – 31 มีนาคม 2568 ได้ดำเนินการกับผู้กระทำความผิด 852 ราย และมูลค่าความเสียหายรวม 15,188 ล้านบาท พร้อมกำหนดแผนการตรวจสอบนอมินี ประจำปี 2568 ซึ่งจะมีนิติบุคคลเป้าหมายที่ต้องตรวจสอบรวม 46,918 ราย
“ขอเรียนว่า กระทรวงพาณิชย์ขับเคลื่อนทุกภารกิจเต็มที่ จากข้อสั่งการของท่านนายกรัฐมนตรี ทั้งเรื่องการระบายผลไม้ การใช้ประโยชน์จาก FTA ฉบับต่างๆ การปรับโฉมร้าน Thai Select ไปจนถึง การแก้ไขปัญหาการสวมสิทธิ์สินค้า และการปราบนอมินี ผมขอให้ทุกหน่วยงานเร่งเดินหน้าเต็มที่ เพื่อประโยชน์ของพี่น้องคนไทยทุกคน” นายพิชัยกล่าว
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews





