Home
|
ภูมิภาค

คืบระเบิดวังน้ำเขียว EOD พบอีก3ลูกยังไม่ระเบิด

Featured Image
คืบเหตุระเบิดวังน้ำเขียว โคราช ชุดเก็บกู้ระเบิด EOD พบระเบิดอีก 3 ลูก 3 ชนิดที่ยังไม่ระเบิด เร่งกันชาวบ้านออกห่างที่เกิดเหตุ

หลังเกิดระเบิดขึ้นที่บ้านเลขที่ 130 บ้านโนนศรีทอง หมู่ที่ 14 ต.อุดมทรัพย์ อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา เบื้องต้นมีผู้เสียชีวิตคาที่เกิดเหตุ 1 ราย คือนางสมใจ พนมใหญ่ อายุ 61 ปี ภรรยาของนายกิติศักดิ์ พนมใหญ่อายุ 66 ปี ถูกสะเก็ดระเบิดที่ศีรษะและตามร่างกายนอนเสียชีวิตเลือดนองพื้น และมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสอีก 4 ราย คือนายกิติศักดิ์ พนมใหญ่ อายุ 66 ปี สามีผู้ตายและเป็นคนขับรถกระบะมารับซื้อของเก่า ,

 

 

 

นางสาวกำไล ศาลเป็น อายุ 50 ปี , นายธาราพงษ์ อิงปัญจกาญจน์ อายุ 61 ปี และนางเครือวัลย์ สิงห์งอน อายุ 52 ปี เจ้าของบ้านที่เกิดเหตุ โดยผู้บาดเจ็บทุกรายถูกสะเก็ดระเบิดตามร่างกายบาดเจ็บสาหัสเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยฮุก 31 โคราช จุดอุดมทรัพย์ ได้ปฐมพยาบาลเบื้องต้น แล้วรีบนำส่ง รพ.วังน้ำเขียว และรพ.ปักธงชัย ซึ่งนายธรรมทัศน์ ทองสำโรง นายอำเภอวังน้ำเขียว พร้อมด้วย พล.ต.ต.ไพโรจน์ ขุนหมื่น ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา ได้รุดมาตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมอำนวยการสั่งการเก็บกู้ระเบิดและให้ความช่วยเหลือแล้ว

 

 

 

จากการสอบสวนเบื้องต้น นายกิติศักดิ์ พนมใหญ่ ได้ขับรถกระบะ พานางสมใจ พนมใหญ่ ภรรยา (ผู้ตาย) เป็นคนอำเภอประคำ จังหวัดบุรีรัมย์ ออกตระเวนรับซื้อของเก่าไปขายต่อ เมื่อมาถึงบ้านของนางเครือวัลย์ฯที่เกิดเหตุ ได้จอดรถเพื่อรับซื้อของเก่า โดยนางเครือวัลย์ฯ ได้นำของเก่าที่เก็บมาจากภูลำไย ซึ่งเป็นสนามฝึกรบทางยุทธวิธีของกองทัพภาคที่ 2 ออกมาขาย

 

 

 

โดยขณะที่กำลังคัดแยกของเก่าเพื่อชั่งกิโล ก็ได้เกิดเสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหว เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตทันทีคือนางสมใจฯ ภรรยานายกิติศักดิ์ฯ และมีผู้บาดเจ็บอีก 4 ราย ดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.อุดมทรัพย์ ฝ่ายปกครอง อ.วังน้ำเขียว ได้แจ้งให้ชุด EOD จากกองทัพภาคที่ 2 เข้ามาเก็บกู้ระเบิดไม่ทราบชนิดอีก 4 ลูก ประกอบด้วย M 79 , ระเบิดปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยาน และ ระเบิด RPG พร้อมกับกันพื้นที่ออกห่างจากบ้านหลังเกิดเหตุ ประมาณ 100 เมตร ไม่ให้ผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าใกล้บริเวณดังกล่าวทันที

 

 

 

ซึ่งยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัดว่าในบ้านหลังที่เกิดเหตุนั้นจะมีวัตถุระเบิดหลงเหลืออยู่อีกมากน้อยเพียงใดจากการสอบสวน ทราบสาเหตุของการระเบิด ว่า ขณะที่นางสมใจฯ ผู้ตายได้เอาลูกระเบิด M79 ใส่ถุงปุ๋ยเพื่อชั่งน้ำหนักที่ตราชั่ง โดยหันด้านหัวลูกระเบิดลง ทันใดนั้นได้เกิดเหตุระเบิดขึ้น เสียงดังสนั่นหวั่นไหวเป็นเหตุให้ผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์กระเด็นไปคนละทิศละทางตามแรงระเบิด และนางสมใจฯ คนชั่ง ถูกแรงระเบิดเสียชีวิตทันที และมีผู้บาดเจ็บสาหัสอีก 4 ราย ดังกล่าว

 

 

 

โดยนางนิตยา ร้อยกิ่ง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 14 บ้านโนนศรีทอง เปิดเผยว่า “มี 2 ครัวเรือนที่จะออกไปเก็บของป่า และหาผักหวาน พอเก็บมาได้ก็จะโทร.เรียกพ่อค้ารับซื้อของเก่า ให้มารับซื้อสินค้าซึ่งมีร้านอยู่ห่างจากหมู่บ้านประมาณ 3-4 กิโลเมตร ซึ่งตนคิดว่า ชาวบ้านที่เก็บหัวระเบิดมา น่าจะรู้ว่าเป็นวัตถุระเบิด แต่คงคิดว่าเป็นระเบิดเก่าที่แตก และไม่ทำงานแล้ว จึงเก็บกลับมา เพราะไปเก็บ

 

 

หลังจากทหารซ้อมรบกันเสร็จแล้ว ซึ่งภูลำไยห่างจากหมู่บ้านประมาณ 3 กิโลเมตร และเคยเกิดเหตุในลักษณะนี้กับชาวบ้านหมู่บ้านอื่น เพิ่งจะเคยเกิดเหตุกับชาวบ้านบ้านโนนศรีทอง เป็นครั้งแรกซึ่งทุกครั้งที่มีการซ้อมรบ ใช้กระสุนจริง ตนจะแจ้งเตือนชาวบ้านทุกครั้ง ตาวบ้านบางรายก็ดื้อ คิดว่า ไม่น่าจะเป็นอะไร จึงเข้าไปหาเก็บเศษวัตถุที่ถูกทำลายจากแรงระเบิดแล้ว แต่ตนคิดว่าไม่คุ้มเลย ที่พากันไปเสี่ยงแบบนี้

 

 

 

ด้านนางบุญเลี้ยง ทิมราช อายุ 73 ปี อยู่บ้านเลขที่ 11 บ้านโนนศรีทอง หมู่ 14 ตำบลอุดมทรัพย์ อำเภอวังน้ำเขียวจังหวัดนครราชสีมา เป็นแม่ของนางสาวกำไล ศาลเป็น ผู้ได้รับบาดเจ็บ เล่าว่า”ลูกออกไปเก็บผักหวานกับชาวบ้านทั้งในหมู่บ้านโนนศรีทอง และจากหมู่บ้านอื่นๆ ไปกันเป็นร้อยคน ตนจะเตือนลูกทุกครั้งที่ออกไปหาของป่าและเศษโลหะบนภูลำไย

 

 

 

ให้ดูดีดี ซึ่งแต่ละครั้งจะเก็บเศษโลหะชิ้นน้อยๆ กลับมา จะมีทั้งทองเหลืองและเศษเหล็ก จะใช้เหล็กดูดตรวจหาโลหะ ลูกสาวเล่าว่าจะขายได้ราคาดี เมื่อเช้าตนไปเสียค่าไฟ จึงไม่ได้เดินไปดูตอนที่พ่อค้ามารับซื้อของเก่า คาคว่า คนที่เสียชีวิต น่าจะจับวัตถุระเบิดขึ้นมาดูเพื่อจะแยกประเภทและนำไปชั่งน้ำหนัก พอมาเกิดเหตุระเบิดแบบนี้ ตนรู้สึกกลัวอย่างมาก

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube