“เท้ง” การันตีสมัยนี้ไม่มีทางร่วม รบ.แน่นอน
“เท้ง” การันตีสมัยนี้ไม่มีทางร่วม รบ.แน่นอน หากสมการการเมืองเปลี่ยน มั่นใจ เพื่อนร่วมอุดมการณ์ ปชน. ไม่มีใครย้ายค่าย บอกต้องคว้าตั๋วใบแรก ชนะเลือกตั้งปี 70 รับพูดน้อยมีภรรยาเป็นที่ปรึกษาชีวิต
นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ร่วมบรรยายในหัวข้อ “การเมืองไทย ในทรรศนะ เท้ง-ณัฐพงษ์” กับหนุ่มเมืองจันท์ โดยวันนี้เป็นการพูดคุยหัวข้อการขับเคลื่อนงานทางการเมือง โดยเฉพาะที่มีการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล รวมถึงการขับเคลื่อนงานทางการเมืองของพรรคประชาชน
นายณัฐพงษ์ กล่าวถึง ความคืบหน้าในการเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญที่สะดุดลง ว่า มีการข่มขู่ว่าหากเดินหน้าลงมติ จะมีการยื่นร้องส่งศาลรัฐธรรมนูญ
พร้อมยังกล่าวกระบวนการคัดเลือก สว.ที่เป็นประเด็นอยู่ในขณะนี้ ว่า ตนเชื่อว่าเป็นไปตามหลักฐานที่ปรากฎว่ากระบวนการเลือก สว. ครั้งนี้ไม่โปร่งใส ส่วนการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่กำลังจะถึง พรรคประชาชนได้รับข้อมูลจากคนในพรรคร่วมรัฐบาล แต่ขอไม่เปิดเผยชื่อหรือรายละเอียด เนื่องจากเป็นการคุ้มครองบุคคลที่ออกมาให้ข้อมูลด้วย ซึ่งการอภิปรายในครั้งนี้ จะเน้นไปที่ความไม่โปร่งใส ในการบริหารราชการแผ่นดิน และรอยร้าวของคนในพรรคร่วมรัฐบาลที่ไม่สามารถผลักดันนโยบายที่แถลงต่อรัฐสภาได้
ส่วนกรณี 44 สส. ถูกยื่นตรวจสอบจริยธรรม นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า หยักไหล่ แล้วเดินหน้าทำงานฝ่ายนิติบัญญัติต่อไป เชื่อว่าทุกคนไม่มีข้อกังวลใจว่าจะหลุดจากตำแหน่งหรือไม่ เพราะหากมีความกังวล การเดินหน้างานในสภาผู้แทนราษฎรจะหยุดชะงักลง ตนย้ำทุกการกระทำและการแสดงออกสะท้อนให้เห็นว่าไม่ได้กังวลใจในส่วนนี้ และไม่อยากให้มองว่าเป็นเรื่องปกติที่ใครจะต้องโดน
นายณัฐพงษ์ ยังชี้แจงกรณีที่คนคิดว่าพรรคมีนโยบายที่เปลี่ยนไป ว่า เป็นการปรับวิธีการสื่อสารเกี่ยวกับนโยบายของพรรค ซึ่งไม่ได้หมายความว่าจะสูญเสียหลักการ หรือทำให้หลักการน้อยลง แต่ยอมรับว่าที่ผ่านมาต้องทำการบ้านหนักเรื่องการสื่อสารกับฝ่ายเห็นต่าง
ช่วงหนึ่ง นายณัฐพงษ์ ได้ตอบคำถามเรื่องการเตรียมความพร้อมในการเลือกตั้งผู้ว่า กทม. ว่า ในวันอังคาร ที่ 25 ก.พ.นี้ พรรคประชาชนจะเปิดแคมเปญรับสมัคร สก. เปิดสนามเลือกตั้ง กทม. ส่วนบุคคลที่จะส่งชิงเก้าอี้ผู้ว่า กทม. อยู่ระหว่างการเจรจาพูดคุย โดยเชื่อว่าจุดแข็งของพรรคประชาชนมี สส.ในสภา ทำให้ผลักดันวาระต่างๆได้
นายณัฐพงษ์ ยังวิเคราะห์จุดแข็งของนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่า กทม. ว่ามีความตั้งใจทำงาน แต่สิ่งที่ยังเป็นจุดอ่อนคือการแก้ไขปัญหาฝุ่น PM2.5 ที่นายชัชชาติระบุว่าไม่มีอำนาจ
พร้อมกันนี้ ยังกล่าวก้วยว่า ถ้าพรรคประชาชนยังตั้งใจทำงาน ในการเลือกตั้งปี 2570 เชื่อว่าชนะการเลือกตั้งได้ ถ้าชนะเลือกตั้งมาแล้ว ส่วนกลุ่มชนชั้นนำจะยอมให้เป็นรัฐบาลหรือไม่ ตนไม่สามารถตอบได้ แต่หน้าที่ขณะนี้คือเดินหน้าต่ออย่างเต็มที่ จะต้องชนะการเลือกตั้ง เพื่อนำใบอนุญาตใบที่ 1 ในการเป็นรัฐบาลให้ได้ก่อน
ซึ่งในสมัยนี้ตนยืนยันว่าจะไม่เข้าร่วมรัฐบาลอย่างแน่นอน หากสมการการเมืองเปลี่ยน ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นในการจัดตั้งรัฐบาลที่ผ่านมาเป็นสิ่งที่ทำให้ประเทศเสียเวลาไปเยอะ โดยเฉพาะการสลับขั้วการเมืองไปมา แต่สิ่งที่จะทำให้ผลักดันนโยบายเชิงโครงสร้างอย่างแรก หนีไม่พ้นการได้เสียงจากประชาชน เพื่อทำให้มีพลังมากพอที่จะผลักดันวาระต่างๆได้ ดังนั้นในสภาสมัยนี้ไม่มีวันไปร่วมรัฐบาลแน่นอน และมั่นใจว่าเพื่อนที่ร่วมเดินทางมาไม่มีใครย้ายค่าย ตอนที่ยุบพรรคอนาอนาคตใหม่มาก้าวไกล ทุกคนมาด้วยกัน
นายณัฐพงษ์ กล่าวถึง การจับขั้วทางการเมืองในการเลือกตั้งครั้งหน้าว่าอยู่ที่พรรคภูมิใจไทยออกมาประกาศจุดยืนตัวเองอย่างไร รวมถึงจุดยืนแต่ละพรรคการเมือง พร้อมยกตัวอย่างว่าหากจำเป็นต้องจับมือกับพรรคร่วม ต้องลงนาม MOU การแก้ไขรัฐธรรมนูญต้องอยู่ในวาระที่ตกลงร่วมกัน
ช่วงท้าย นายณัฐพงษ์ ได้เปิดใจถึงเรื่องส่วนตัวแบบไม่เคยพูดที่ไหน ยอมรับว่าเป็นคนพูดน้อย เซฟโซนที่สุดคืออยู่บ้าน กับครอบครัว กับภรรยา อยู่เฉยๆ ถ้าอยู่เฉยๆ แล้วไม่ได้พูดอะไร ขอให้รู้ไว้ว่าเป็นการสื่อสารรูปแบบหนึ่ง ตอนที่มีชื่อเสนอเป็นหัวหน้าพรรค ก็ปรึกษาภรรยา ภรรยาก็บอกว่าทำได้ วันหนึ่งถ้าไม่รับอาจจะเสียใจหรือไม่
นายณัฐพงษ์ ยังกล่าวว่า ตนและภรรยายังไม่อยากมีลูก เพราะคุยกับภรรยาแล้วว่ามีแล้ว ในสังคมของเรา ถือว่ามีแล้วลำบาก ไม่ใช่เพราะฐานะเราไม่สามารถมีได้ แต่ไม่อยากส่งลูกไปเรียนพิเศษ อยากให้ใช้ชีวิตธรรมดา เพราะเราเองก็เรียนโรงเรียนรัฐบาล อยากให้มีสังคมตามความเป็นอยู่ที่แท้จริง
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews





