Home
|
ข่าว

“พริษฐ์” อภิปรายแก้ รธน. ซัดยังพายเรือวนอ่าง

Featured Image
“พริษฐ์” อภิปรายแก้ รธน. ซัดยังพายเรือวนอ่าง หาความชัดเจนประชามติไม่ได้ แนะนายกฯย้อนไปดูคำพูดตัวเอง

 

 

นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายทั่วไปตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 ถึงการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่รัฐบาล โดยนายกฯ ระบุว่า จะเสร็จภายใน 18 เดือน แต่ผ่านมา 6 เดือน ยังวนเรือในอ่าง คือ ตั้งคณะกรรมการศึกษาการทำประชามติ ทำไมไม่ให้สภาฯ ตั้งกรรมาธิการวิสามัญขึ้นมาแทน เพราะจะมีตัวแทนสัดส่วนจากพรรคการเมือง แต่การเดินสายทั่วประเทศของคณะกรรมการฯที่รัฐบาลตั้งขึ้น ไม่ตรงตามวัตถุประสงค์ที่ไปเน้นเนื้อหาการแก้ไข ไม่ใช่เรื่องประชามติ และไม่เห็นด้วยกับการตั้งคำถามที่ไปเน้นการแก้ไขหมวด 1 และ หมวด 2

 

นอกจากนี้ ยังมีความไม่ชัดเจน การรัฐบาลจะทำประชามติ 3 ครั้ง แต่พรรคเพื่อไทย กลับยื่นแก้ไขรัฐธรรมนูญ ให้ทำประชามติ 2 ครั้ง และประธานรัฐสภาไม่บรรจุร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ และส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญชี้ขาด ทุกคนรู้ดีว่ารัฐธรรมนูญฉบับใหม่จะมีหน้าตา เนื้อหาสาระเป็นอย่างไร ทุกวันนี้ไม่มีใครมองว่ารัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ประสบความสำเร็จในการแก้รัฐธรรมนูญ 2560 เพราะแก้แค่ระบบการเลือกตั้ง และอีก 10 ปีข้างหน้าก็คงไม่มีใคร มองว่ารัฐบาลเศรษฐาประสบความสำเร็จเช่นกัน

 

หากยังมีปัญหาเช่นเดิมที่จะให้วุฒิสภามีอำนาจล้นฟ้าและการคัดเลือกไม่ได้ยึดโยงกับประชาชน รวมถึงให้ศาลรัฐธรรมนูญขยายขอบเขตอำนาจไปเรื่อยๆ และจะถูกใช้เป็นเครื่องมือทำลายล้างทางการเมืองกับฝ่ายตรงข้ามในการยุบพรรค และเป็นเครื่องมือประหารชีวิตของพรรคการเมืองฝ่ายตรงข้าม พร้อมฝันธงว่า รัฐบาลเศรษฐา ไม่มีทางไว้ใจประชาชน มาร่วมกันออกแบบรัฐธรรมนูญ และจัดทำกติกาสูงสุด ของประเทศตามที่พวกเขามีสิทธิ์ เพราะรัฐบาลเศรษฐาที่ตั้งได้และดำรงอยู่ได้ ก็เพราะเครือข่ายอำนาจเดิม

 

นายพริษฐ์ ยังอ้างคำพูดของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ที่เคยให้สัมภาษณ์ว่า สิ่งแรกที่จะทำเมื่อเข้ารับตำแหน่ง คือ การแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่ตอนนี้ผ่านมาเกือบครึ่งทางแล้ว ก็ชัดเจนแล้วว่าคำพูดนั้นเป็นเพียงลมปากของนายกรัฐมนตรีที่เชื่อถือไม่ได้

 

ทั้งนี้ วงการทหารเขาว่ากันไว้ ว่าความไวเป็นของปีศาจ แต่ตั้งแต่นายกฯ ทำดีล ที่ต่างชาติเรียกว่า เป็นดีลปีศาจ แล้วไปตั้งรัฐบาลกับพรรคการเมืองที่เชื่อมโยงกับคณะรัฐประหาร เราก็แทบจะเห็นว่าความว่องไวและความกระตือรือร้นของนายกฯ ในการแก้รัฐธรรมนูญ ดูจะระเหยหายไปหมด

 

นายพริษฐ์ กล่าวอีกว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญกลายเป็นตลก 6 ฉาก กับการใช้เวลา 6 เดือน เกรงว่าความล่าช้าจะทำให้ไม่มีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ทันการเลือกตั้งครั้งหน้า และไม่มีใครรู้ว่ารัฐธรรมนูญฉบับใหม่จะหน้าตาเป็นอย่างไร เกรงว่าจะเป็นรัฐธรรมนูญที่ซุ่มออก ลดทอนอำนาจประชาชน คือ มี สสร.สูตรผสม สูตรกินรวบกรรมาธิการยกร่างฯ และด่านทางผ่านวุฒิสภา

 

รัฐบาลชอบกล่าวหาว่าพวกตน และพรรคก้าวไกลเป็นพวกที่ชอบเอาความคิดของตัวเองเป็นใหญ่ เพียงเพราะเราเชื่อในอำนาจของประชาชน แต่หากคำทำนายของตนเองเป็นจริง คิดว่ารัฐบาล ที่เอาความคิดของตัวเองเป็นใหญ่กว่าความคิดของประชาชน เพราะหากสุดท้ายถ้าไม่ยอมปล่อยให้ประชาชนออกแบบเนื้อหารัฐธรรมนูญฉบับใหม่เอง แต่ไปพยายามคิดค้นผลิตนวัตกรรมที่จะเข้าควบคุมเนื้อหารัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่จะเข้ามาล็อคสเป็ครัฐธรรมนูญ แบบนี้เค้าไม่เรียกว่าประชาธิปไตยที่เต็มใบ

 

แบบนี้เค้าเรียกว่าประชาธิปไตยที่ต้องขอใบอนุญาต และเป็นใบอนุญาตที่ต้องจ่ายด้วยราคาแพงในอนาคตของประเทศนี้ ตนไม่ปฏิเสธว่าที่ผ่านมาพรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นพรรคต้นสังกัดของนายกรัฐมนตรี เป็นพรรคที่เป็นที่ยอมรับของทุกฝ่ายว่า มีความเชื่อมั่นแน่วแน่ในอำนาจที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน แต่พอเห็นท่าทีของพรรคเพื่อไทย ดูเหมือนกำลังจะออกแบบจัดรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ที่ไปเปิดช่องให้อำนาจที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งเข้ามาแทรกแซง

 

ตนจำเป็นต้องถามนายกรัฐมนตรี ตกลงแล้วรัฐบาลที่นำโดยพรรคเพื่อไทย ยังเชื่อในอำนาจที่มาจากการเลือกตั้งอยู่หรือไม่ หรือพอมาถึงวันนี้ที่พ่ายแพ้การเลือกตั้งครั้งแรก จึงประเมินว่าอาจจะไม่ได้เปรียบในสนามเลือกตั้ง หรือความเชื่อมั่นจากการเลือกตั้งได้กลายเป็นอดีตไปแล้ว รู้ว่าพูดแบบนี้ เดี๋ยวรองนายกรัฐมนตรีก็อาจจะลุกขึ้นมาตอบโต้ว่า ตนเป็นคนมองโลกในแง่ร้าย จินตนาการในเรื่องที่ยังไม่เกิดขึ้น แต่ยืนยันเป็นหน้าที่ของฝ่ายค้าน ที่เวลาตนเห็นเบาะแส หรือคำใบ้ต่างๆ ของสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้น แต่อาจจะเกิดขึ้นจำเป็นต้องตั้งคำถาม

 

เพื่อเตือนสติหวังป้องกันและดักทาง ไม่ให้สิ่งต่างๆเกิดขึ้น ถ้าหากมองว่าตนคิดผิด และมองท่านในแง่ร้ายเกินไป ท่านแค่ลุกขึ้นมาแล้วยืนยัน ว่ารัฐบาลนี้จะสนับสนุน สสร. ที่มาจากการเลือกตั้งทั้งหมด ว่า รัฐบาลนี้จะไม่สนับสนุน สสร. สูตรกินรวบและรัฐบาลชุดนี้จะไม่บังคับ สสร. ที่มาจากการเลือกตั้งทั้งหมด ต้องไม่ไปขอใบอนุญาตจาก สว.ก่อน ถึงจะส่งร่างรัฐธรรมนูญที่จัดทำขึ้นมาไปทำประชามติได้แค่นั้นเอง แต่หากวันนี้ยังไม่พร้อมจะยืนยัน จึงต้องไปคุยกันก่อน แต่ในอนาคตก็เพียงไม่ทำในสิ่งที่ตนสงสัย ไม่เช่นนั้นในอีก 2-3 ปีข้างหน้า ตนอาจจะหน้าแตกก็ได้ ถ้าเปลี่ยนใจไม่ทำเรื่องดังกล่าวแล้ว ความหวังของประชาชนที่อยากเห็นประชาธิปไตยเต็มใบก็จะไม่แตกสลาย ต่อหน้าต่อตาพวกเราทุกคน

 

ขณะเดียวกัน ตนขอสรุปข้อเสนอแนะเรื่องการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่รวดเร็วและไว้ใจประชาชน 4 ข้อ คือ 1.สนับสนุน”คำถามประชามติ” ที่เปิดกว้าง เพิ่มโอกาสที่ประชามติครั้งแรก(หากต้องทำ) จะผ่าน 2. สนับสนุนสภาร่างรัฐธรรมนูญที่มาจากการเลือกตั้ง 100% ไม่เปิดช่องให้อำนาจที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง เข้ามาขี่คอ 3. สนับสนุนการแก้ไขรายมาตราให้เป็นประชาธิปไตยมากขึ้นแบบคู่ขนานกับการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ 4. สนับสนุนให้เร่งพิจารณาแก้ไข พ.ร.บ. ประชามติ (ตอนนี้มี 2 ร่างที่เข้าคิวอยู่ในระเบียบวาระการประชุม)

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube