ชุมนุมการเมือง5หมื่นกว่าคดีต้องนิรโทษคนส่วนใหญ่-112แค่2.08%
รทสช.ยกตัวเลข 3คดีระหว่างชุมนุมการเมือง คิดเป็น 96.2% หากนิรโทษได้ เท่ากับลดคู่ขัดแย้ง เกือบทั้งหมด ขณะ 112 ที่ถกเถียงมีแค่ส่วนน้อย 2.08%
นายพงศ์พล ยอดเมืองเจริญ รองโฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ในฐานะคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาการตรา พ.ร.บ.นิรโทษกรรม สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงเรื่อง “นิรโทษกรรมอัพเดท” ว่า ตัวเลขไม่หลอกใคร..
จากสัปดาห์ก่อน ที่บอกว่าคณะกรรมาธิการจะตัดสินอย่างตั้งธงอย่างไรว่าจะเลือกนิรโทษกรรม คดีใดบ้าง ต่างพรรคต่างความคิด เถียงกันไม่รู้จบ โดยเฉพาะคดีอย่าง อาญาม.112
ทั้งนี้ นายพงศ์พล ในฐานะโฆษก กมธ. ได้เสนอที่ประชุมให้มีการเริ่มพิจารณาจากตัวเลขข้อมูลจริง เรียงตามรายคดี ซึ่งที่ประชุมมีการตั้งคณะอนุกรรมาธิการเพื่อศึกษาตัวเลขผู้ถูกดำเนินคดีทั้งหมด และสืบเพิ่มข้อมูลอัพเดท
ตามกรอบที่คณะกมธ.ชุดใหญ่วางไว้คือ ตั้งแต่ มค. 2548 – ปัจจุบัน ครอบคลุมทั้ง 4 เหตุการณ์ชุมนุม พันธมิตร/ นปช./ กปปส และกลุ่มเยาวชน
ค้นพบว่า ข้อมูลจากคณะกรรมการสมานฉันท์ปี 66 เลขาธิการสภาฯ รายงานว่า คดีจูงใจทางการเมืองมีทั้งสิ้น (ถึงมีนาคม พศ.2563) จำนวน 57,966 คดี ประกอบด้วย
1) พรก. สถานการณ์ฉุกเฉิน พศ.2548 จำนวน 43,966คดี
2) พรบ. ความสะอาด พศ.2535 จำนวน 8,452คดี
3) อาญา ม.368 ขัดคำสั่งจนท.จำนวน 3,072คดี
4) อาญา ม.215 มั่วสุม จำนวน 336คดี
5) อาญา ม.385 กีดขวางการจราจร จำนวน 260 คดี
6) พรบ. กระจายเสียงและโทรทัศน์ พศ.2551 จำนวน 238คดี
7) อาญา ม.112 หมิ่นสถาบัน จำนวน 1,206คดี
8 ) อาญา ม.116 ยุยงปลุกปั่น จำนวน 150คดี
3 คดี ที่มีการดำเนินคดีมากที่สุด ฝ่าพรก.ฉุกเฉิน + พรบ.ความสะอาด + ขัดคำสั่งจนท. รวมกันมากถึง 55,490 คดี หรือคิดเป็น 96.2%ของทั้งหมด ขณะที่ มาตรา112 มีการดำเนินคดีต่ำมาก คิดเป็น 2.08%จากทั้งหมด
อย่างไรก็ตาม หากร่าง พรบ.นิรโทษกรรม ตั้งใจสร้างความปรองดอง สู่สาธารณะ คือลดคู่ขัดแย้งทางการเมืองให้มากที่สุด การนิรโทษกรรม 3 คดีหลักเกี่ยวกับการชุมนุมเหล่านี้ ซึ่งล้วนเป็นคดีลหุโทษที่ยอมความง่าย เท่ากับแก้ปัญหาลดความขัดแย้ง ไปแล้วเกือบทั้งหมด 96.2% โดยไม่ต้องแตะคดีความ อย่าง ม.116 ปลุกปั่น, ม.112 หมิ่นสถาบัน หรือกระทั่งการผิด พรบ.โบราณสถานเพราะไปพ่นสี ซึ่งเป็นส่วนน้อยมากเมื่อมองจากภาพใหญ่ ที่เมื่อมีการนิรโทษกรรมไปแล้ว อาจก่อความขัดแย้งครั้งใหม่แต่หากต้องการจะทำจริงๆ กระบวนการสารภาพผิด, เยียวยา และลงนามไม่กระทำอีก จะมีบทบาทเป็นกลไกสำคัญ ซึ่งตนจะมานำเสนอต่อไป
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews





