สรุปดราม่า #แบนEveandboy แฟนคลับจ่ายเป็นล้านแต่ได้สิทธิไม่เท่าคนดัง
กลายเป็นดราม่าในโลกออนไลน์สุดๆเมื่อ EVEANDBOY ร้านเครื่องสำอางขวัญใจผู้หญิง ประกาศจัดงานแฟนมีตระหว่างศิลปินดังอย่าง มาร์คต้วน หรือ มาร์คgot7 กับเหล่าแฟนๆอากาเซ่ เพื่อโปรโมตร้านแต่สุดท้ายกลับทำให้บรรดาแฟนคลับโห่ใส่ไปตามๆกัน เพราะภายในงานมีการเปลี่ยนแปลงชื่อไปเป็นงานอื่น ไม่นัดล่วงหน้า แถมยังได้รับการจัดการไม่ดี
ทั้งๆที่แฟนคลับบางคนยอมจ่ายเงินหลักล้านบาทเพื่อร่วมงาน แต่กลับได้สิทธิพิเศษน้อยกว่าอินฟลูเอ็นเซอร์คนดัง จนเกิดเป็น #แบนEveandboy พุ่งติดเทรนด์ทวิตเตอร์ หลายวันที่ผ่านมา
เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร วันนี้สรุปมาให้ฟังแล้ว
จุดเริ่มต้นแฟนมีต EVEANDBOY X MARK TUAN

เริ่มต้นเมื่อช่วงวันที่ 22 มีนาคม 2566 ที่ผ่านมา เมื่อทางเพจ Eveandboy ได้ประกาศข่าวดีถึงแฟนคลับของ มาร์คต้วน 1 ในสมาชิกวง Got7 วงเดียวกับแจ็คสันหวังและแบมแบม
โดยตอนแรกจัดในชื่อโปรเจ็ค EVEANDBOY X MARK TUAN (FAN MEETING) และจะทำการคัดเลือกแฟนคลับผู้โชคดีทั้งหมด 4,150 เข้าร่วมงาน จากการซื้อสินค้ากับ eveandboy
แบ่งออกเป็น ผู้เข้าร่วม 50 คนแรกที่มียอดการซื้อสูงสุด หรือ Top Spender จะได้เข้าร่วมงานอัตโนมัติรวมทั้งได้รับสิทธิถ่ายรูปกับมาร์คบนเวที
อีก 4,000 คน มากจากการซื้อซื้อสินค้ากล่องสุ่มเครื่องสำอางในราคาในราคา 5,000 บาท จำนวน 2 กล่องขึ้นไปและที่เหลืออีก 100 คนที่เหลือจะเป็นผู้โชคดีได้จากการสุ่มเข้าร่วมงาน
ส่งผลให้งานแฟนมีตของมาร์คต้วนกับ eveandboy ได้รับความนิยม พร้อมกับถูกพูดถึงหลังเพจ eveandboy ประกาศจนไปถึงวันงาน
ซึ่งก่อนถึงวันงานนั้นเอง ทางเพจก็ได้มีการแจ้งชื่อ Top spender 50 คน โดายรายชื่ออันดับ 1 มียอดซื้อสินค้าไปหลักล้านกกว่าบาท แถมอันดับรองๆลงมาก็ซื้อกันมากกว่า 8 แสนบาทเลยทีเดียว
แสดงให้เห็นว่าการจัดงานครั้งนี้ น่าจะมีทิศทางไปในทางที่ดี จากความสนใจของเหล่าแฟนๆที่ยอมทุ่มเทให้กับศิลปินมากขนาดนี้

รวมความผิดพลาดงานแฟนมีตหลอกแฟนคลับ
แต่ไปๆมาๆ ก็กลับกลายเป็นเรื่องน่าเศร้าจนได้ เมื่องานแบรนด์แฟนมีตศิลปินได้กลายเป็นงานรวมเซเล็ปไปจนได้ เปลี่ยนฉากเหล่า top spender ให้กลายเป็นตัวประกอบงานนี้ไปแบบน้ำตาปริบๆ
เพราะในวันงานจริงผู้โชคดีทั้งหมดได้รับแจ้งผ่าน SMS ให้มาที่จุดรวมตัวในเวลา 17.00 น. โดยที่ไม่มีการแจ้งแฟนคลับแฟนคลับล่วงหน้าให้ได้เตรียมตัวเลย มิหนำซ้ำยังเจอกับเซอร์ไพรส์แย่ๆมากมาย แบ่งออกเป็น 3 ข้อ ดังนี้
- การเปลี่ยนชื่องานโดยไม่แจ้ง
เดิมทีในตอนแรกมีการประกาศทางเพจว่าเป็นงาน EVEANDBOY X MARK TUAN (FAN MEETING) ที่หลายๆคนนึกกันว่าจะเป็นงานพบปะพูดคุยระหว่างศิลปินและแฟนคลับเท่านั้น
แต่พอไปถึง ชื่องานจริงๆกลับเป็น “EVEANDBOY Best Selling Award 2022 X MARK TUAN” คล้ายงานฉลองยอดขายของบริษัทมากกว่า เพียงแต่ มาร์คต้วน มาเป็นแขกพิเศษเท่านั้น มีสื่อมาทำนักข่าวมากมายแล้วลงข่าวเป็นงานประกาศรางวัล ไม่เหมือนกับที่บอกกับแฟนคลับในตอนแรก
จนคับคล้ายคับคลาว่างาน eveandboy ครั้งนี้สามารถเข้าข่ายหลวงลวงผู้บริโภคได้เลยหรือเปล่า? เพราะเอาจริงๆ ถ้าต้องจ่ายเงินหลักแสน หลักล้าน มางานประกาศรางวัล แฟนๆบางส่วนก็คงไม่ได้ทุ่มทั้งเงินและเวลามากขนาดนี้
- การเปลี่ยนผังที่นั่ง
เรื่องของผังที่นั่งในงานได้มีการเปลี่ยนแปลงจาก วันประกาศวันแรก โดยในตอนแรกบอกว่าแฟนๆที่ซื่อกล่องสุ่มจะได้นั่งที่นั่งโซนด้านหน้าใกล้เวที
แต่ในวันจริง ภายในงานได้มีการเชิญอินฟลูเอ็นเซอร์ และคนดังจาก TikTok มากมายกว่า 50 คนมานั่งร่วมงานและให้นั่งติดเวที โดยไม่มีการแจ้งล้วงหน้า ส่วนแฟนๆที่จ่ายเงินเข้างานกลับถูกดันให้ไปอยู่โซนด้านหลังถัดออกมาแทน
- จ่ายเป็นล้านแต่ได้สิทธิไม่เท่าอินฟลูฯ
ระหว่างการดำนเนินงาน แม้ก่อนหน้านี้ทางเพจเคยประกาศว่า ผู้โชคดี Top spender จะได้สิทธิในการถ่ายรูปใกล้กับมาร์คแบบใกล้ชิด
แต่ในวันจริงกับได้ถ่ายจากห่างๆเท่านั้น หรือตอนถ่ายรูปร่วมกับอินฟลูในงาน Top spender ก็ถูกบังคับให้นั่งคุกเข่าอยู่ข้างหน้าแทน
ในงานได้ประกาศว่าจะมีการสุ่มผู้โชคดีมาถ่ายรูปกับมาร์คด้วยเช่นกัน แต่พอเหตุการณ์นั้นจริงๆ กลับ ให้กล้องจับหน้าแฟนคลับผู้โชคดี แล้วให้มาร์คถ่ายกับหน้าจอแทน
ยิ่งไปกว่านั้น แฟนๆยังพบภายหลังว่าเซ็ต THE BOX FAN หรือ เซ็ตกล่องสุ่มที่ซื้อกันมามูลค่ากล่อง 5,000 บาท สินค้าข้างในเป็นเพียงสินค้าทั่วไปแถมสินค้าบางตัวยังแปะป้ายไว้ว่า not for sale อีก ขณะที่อินฟลูเอ็นเซอร์ที่ได้รับกลุ่มสุ่มฟรีๆ กลับได้สินค้าราคาแพงหรือสินค้าหายากไปแทน



สรุปแล้วจากเสียงตอบรับของเหล่าอากาเซ่ ก็พอให้เห็นการจัดงานภายในเป็นไปอย่างแย่มาก ทั้งการไม่นัดล่วงหน้ากับแฟนคลับ เปลี่ยนชื่อและจุดประสงค์ของงานให้กลายเป็นงานฉลองยอดขายของบริษัท แถมยังไม่ให้เกียรติแฟนคลับที่ยอมจ่ายเงินแพงๆเข้ามา
ยังไม่นับสภาพจิตใจของศิลปิน ที่เหล่าแฟนๆหลายคนจับสังเกตุหน้าของ มาร์ค ต้วน เองก็ไม่โอเคกับเหตุการณ์นี้ด้วยเหมือนกัน ทั้งตอนอยู่บนเวที หรือตอนถ่ายรูปรวมกับคนดัง
แถมยังปล่อยให้แฟนคลับวิ่งตามรถที่ศิลปินนั่ง โดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของทั้งแฟนคลับและศิลปินด้วย
จนท้ายที่สุดก็เกิดเป็น #แบนEveandboy ขึ้นมาบนโซเชียลติดชาร์ตคำยอดนิยมตลอดหลายวันเพื่อเรียกร้องให้มีคนออกมาขอโทษกับเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นนี้
EVEANDBOY ขอโทษแฟนคลับ
จนเมื่อวันที่ 20 พ.ค. 2566 เฟซบุ๊ก Eveandboy ได้โพสต์ข้อความขอโทษเรื่องดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อย
โดยระบุว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นผู้จัดงานได้ตระหนักถึงปัญหาและประเด็นต่างๆ ที่เกิดขึ้น และมิได้นิ่งนอนใจแต่อย่างใด พร้อมกับชี้แจงปัญหาเบื้องต้น เป็นข้อๆ ดังนี้

- กรณีการถ่ายภาพเพื่อการประชาสัมพันธ์งานทาง EVEANDBOY ได้เรียนเชิญสื่อมวลชน, ดารา, เซเลบริตี้ และอินฟลูเอนเซอร์ เข้าร่วมการถ่ายภาพเพื่อส่งข่าวประชาสัมพันธ์การจัดงานดังกล่าว โดยจะเป็นลักษณะการถ่ายภาพ หน้าแบ็กดรอป เพื่อลงสื่อหนังสือพิมพ์ นิตยสาร และสื่อต่างๆ และเพื่อความรวดเร็วในการถ่ายภาพ ทาง EVEANDBOY จึงจัดการถ่ายภาพเป็นลักษณะกลุ่ม โดยภายในงานไม่ได้อนุญาตให้มีสื่อมวลชน, ดารา, เซเลบริตี้ และอินฟลูเอนเซอร์ที่ถ่ายภาพกับโกลบอลแอมบาสเดอร์เป็นการส่วนตัว
- กรณีความบกพร่องของระบบการจัดงานและกิจกรรมบนเวที ซึ่งสร้างความไม่สะดวกสบายอันก่อให้เกิดความไม่พึงพอใจ แก่แฟนคลับ ผู้ร่วมงานทุกท่าน และทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ผู้จัดงานยินดีน้อมรับทุกความเห็น และจะนำไปปรับปรุงแก้ไขสำหรับการจัดกิจกรรมในครั้งต่อๆ ไป
ผู้จัดงานกราบขออภัยอย่างสูงสุดแก่แฟนคลับ ผู้ร่วมงานทุกท่าน และทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง และจะนำบทเรียนการจัดงาน EVEANDBOY x MARK TUAN FAN MEETING ครั้งนี้ เป็นแนวทางปรับปรุงในการทำงานต่อไป และจะระมัดระวังพร้อมป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นอีกจึงขอกราบเรียนมาด้วยความเคารพ
พร้อมกับในแฮชแท็กดังกล่าว มี top spender หลายรายแจ้งว่า ทางฝั่งบริษัทได้ทำการส่งดอกไม้มาขอโทษเป็นการส่วนตัวเรียบร้อยแล้ว ซึ่งก็ดูท่าจะไม่มีประโยชน์เท่าไหร่นัก
เนื่องจากในแฮชแท็กก็ยังคุกรุ่น และหวังให้บริษัทจ่ายเงินทดแทนเหตุการณ์ สมกับที่แฟนๆจ่ายเงินเข้างานอยู่ดี
อัปเดตล่าสุด และเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคมนี้เอง ทางทวิตเตอร์ของ สภาองค์กรของผู้บริโภค ได้เขียนแนะนำกรณีผู้บริโภคจ่ายเงินซื้อบัตรเข้างานเพราะเข้าใจว่าเป็นแฟนมีต แต่ภายหลังผู้จัดปรับเปลี่ยนรูปแบบงาน ว่าอาจเข้าข่ายผิดสัญญาได้
พร้อมกับชี้แนะให้ผู้บริโภคสามารถยื่นร้องเรียนออนไลน์กับหน่วยงานของรัฐได้เช่นกัน รวมถึงมีการจุด #Eveandboyต้องรับผิดชอบ เรียกร้องให้ออกมาเทคแอคชั่นจริงจังมากกว่านี้

ติดตามดราม่าร้อน ประเด็นดังต่อได้ที่ สำนักข่าวไอ.เอ็น.เอ็น.
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews





