fbpx
Home
|
คลิปข่าวทั่วไป

1 เดือนพบโอไมครอน..กร่อนศรัทธาบิ๊กตู่-หมอหนู

1 เดือนพบโอไมครอน..กร่อนศรัทธาบิ๊กตู่-หมอหนู

 

แพทย์หญิงสุมณี วัชรสินธุ์ ผอ.สำนักสื่อสารความเสี่ยงฯกรมควบคุมโรค กล่าวว่า สถานการณ์การติดเชื้อตามสายพันธุ์การระบาดในประเทศไทยซึ่งการรายงานจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ที่มีการสุ่มตรวจสายพันธุ์เมื่อวันที่ 1 พ.ย.64-4 ม.ค.65 พบว่าเป็นสายพันธุ์เดลต้าอยู่ที่ 78.91%และเป็นสายพันธุ์โอไมครอนเพิ่มขึ้นเป็น 20.92% ซึ่งหากเป็นผู้ป่วยจะอยู่ที่ 2,338 ราย

 

ขณะนี้สายพันธุ์โอไมครอนได้แพร่กระจายไปแล้ว 55 จังหวัดโดยจังหวัดที่มีการติดเชื้อและมีการแพร่ระบาดในจังหวัดพบที่กรุงเทพมหานคร, กาฬสินธุ์, ชลบุรี, ร้อยเอ็ด, ภูเก็ต และสมุทรปราการ แต่จากรายงานที่มีผู้ติดเชื้อโอไมครอน 2,338 ราย 50% เป็นผู้ที่ติดเชื้อซึ่งเดินทางมาจากต่างประเทศ และอีก50% ติดจากผู้ที่มาจากต่างประเทศ ซึ่งเป็นวงที่ 2 โดยคนไข้ที่เข้ามาในระบบการรักษาส่วนใหญ่ยังคงเป็นสายพันธุ์เดลต้า ดังนั้นกลุ่มเสี่ยงหลักของเชื้อ ยังคงเป็นกลุ่มที่ไม่มีภูมิคุ้มกัน หรือไม่เคยได้รับวัคซีน

 

สำหรับคลัสเตอร์ที่กระทรวงสาธารณสุขและศบค.มีความเป็นห่วงมาก คือ คลัสเตอร์ที่มีการแพร่ระบาดในร้านอาหาร โดยร้านอาหารที่เป็นลักษณะกึ่งผับบาร์มีการพบที่จังหวัดเชียงใหม่, พะเยา, ขอนแก่น ชลบุรี, มหาสารคาม, อุดรธานี, อุบลราชธานี และกรุงเทพมหานคร ซึ่งมีการสอบสวนโรคพบว่าเป็นการติดเชื้อในร้านอาหารกึ่งผับ ซึ่งเป็นสถานบันเทิงที่ฝ่าฝืนและเปิดให้บริการ โดยมีความเสี่ยงไม่ได้เปิดให้บริการภายใต้มาตรการ Covid Free Srtting ซึ่งมีการแพร่ระบาดจำนวนมาก มีโอกาสที่จะเป็นต้นเหตุให้แพร่ระบาดลงไปในระดับชุมชนและระดับครอบครัว ซึ่งจะคล้ายกับการระบาดละลอกที่สามของประเทศไทยที่ผ่านมา

 

นอกจากนี้ แพทย์หญิงสุมณี ระบุว่า ช่วงหยุดปีใหม่มีหลายโรงเรียนพบการติดเชื้อ มีการปิดการเรียนการสอนทำให้ต้องเรียนออนไลน์ ซึ่งหลังปีใหม่
จะได้มีการขอให้ทางจังหวัดหรือทางพื้นที่ช่วยพิจารณาปิดหรือเปิดโรงเรียนตามความเหมาะสมและตามสถานการณ์ ทั้งนี้จะมีการประเมินสถานการณ์
หลังมีการชะลอรับนักท่องเที่ยวระบบ Test and Go ซึ่งวันนี้มีการประชุม ศปก.ศบค. และมีการเตรียมสถานการณ์ในช่วงปีใหม่ที่ผ่านมาเข้าที่ประชุม
ศบค.ชุดใหญ่ในวันศุกร์ที่ 7 ม.ค.นี้ โดยมีวาระที่สำคัญเป็นเรื่องการปรับพื้นที่โซนสีตามสถานการณ์ด้วย

 

ล่าสุดสธ. ประกาศยกระดับแจ้งเตือนการแพร่ระบาดโควิด 19 จาก 3 เป็นระดับ 4 ขอปชช. WFH งดเดินทางข้ามจังหวัด จำกัดรวมกลุ่ม จ่อปิดสถานที่เสี่ยงแพร่เชื้อ

นายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เดินทางตรวจเยี่ยมบุคลากรทางการแพทย์ และติดตามสถานการณ์การติดเชื้อโควิด19 ในพื้นที่ จ.ภูเก็ต พร้อมเปิดเผยข้อมูล ว่า กระทรวงสาธารณสุข รายงานสถานการณ์สำคัญโรคติดเชื้อโควิด 19 โดยขณะนี้ประชาชนฉีดวัคซีน เข็มที่ 1 ฉีดไปแล้ว 71.% เข้ม 2 ฉีดไปแล้ว 64% และเข็มที่ 3 ฉีดไปแล้ว 9.8% กระทรวงสาธารณสุข อยากให้ประชาชนฉีดวัคซีนให้ได้มากที่สุด โดยเฉพาะเข็มที่ 3 เพื่อจะให้เกิดภูมิต้านทานในการติดเชื้อ ที่จะเกิดขึ้นในระยะถัดไป

 

ขณะที่วันนี้ ประเทศไทย พบการการติดเชื้อรายใหม่ 5,575 ราย เสียชีวิต 11 ราย ผู้ป่วยหนัก ใส่ท่อช่วยหายใจลดลง โดยตัวเลขการติดเชื้อเพิ่มขึ้น จะเห็นว่า กำลังมีการระบาดเพิ่มขึ้นเข้าสู่อีกระลอกหนึ่ง จะทำให้มีการระบาด และมีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ในระยะนี้สายพันธุ์โอไมครอน ที่เข้ามาในประเทศไทยตั้งแต่ต้นเดือนธันวาคม และเกิดการระบาด โดย สายพันธุ์นี้ ส่วนใหญ่จะไม่รุนแรง เมื่อติดเชื้อมีภูมิสำหรับเดลต้าได้ แต่ก็อยากให้เฝ้าระวังป้องกันให้มาก ไม่อยากให้มีการติดเชื้อ

 

สำหรับการระบาดในครั้งนี้ เป็นไปตามที่กระทรวงสาธารณสุขได้มีการคาดการณ์ไว้ ที่จะมีการระบาดในระดับค่อนข้างรุนแรง จำเป็นต้องมีการควบคุมให้ได้โดยเร็ว เป็นสัญญานให้ประชาชนต้องมีความตื่นตัว ว่าขณะนี้เริ่มมีการระบาดอย่างรวดเร็วขึ้น

 

ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุขเพิ่มระดับการเตือน จากเดิมอยู่ในระดับ 3 ขอแจ้งเตือนเป็นระดับที่ 4 คือ จะมีข้อแนะนำเพิ่มขึ้น มาตรการต่างๆ ก็คงตามมา อาจจะต้องปิดสถานที่เสี่ยงที่ก่อให้เกิดการแพร่เชื้อ หรือ เพิ่มมาตรการต่างๆมากขึ้นให้เกิดความปลอดภัยในสถานที่เสี่ยงนั้นๆ

 

ขอความร่วมมือประชาชน ชะลอการเดินทาง ขอให้ทำงานที่บ้าน หรือ WFH ให้มากที่สุด และหากไม่จำเป็นการเดินทางข้ามจังหวัด อยากให้ชะลอไว้ก่อน เพราะการเคลื่อนย้ายของบุคคล ก่อให้เกิดการแพร่เชื้ออย่างรวดเร็ว รวมทั้งการจำกัดจำนวนการรวมกลุ่มต่างๆ ก็จะต้องมีมาตรการเคร่งครัดมากขึ้น เพื่อไม่ให้มีการแพร่เชื้อ ขอความร่วมมือ ร้านอาหาร ปฏิบัติตามมาตรการ Covid free setting อย่างเคร่งครัด

อย่างไรก็ตาม กระทรวงสาธารณสุข ขอแจ้งเตือนประชาชนว่าขณะนี้ การระบาดรุนแรงมากขึ้น งดเข้าสถานที่เสี่ยง อยากให้ชะลอการเดินทาง จำกัดการรวมกลุ่ม ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโควิด อย่างเคร่งครัด

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebookhttps://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitterhttps://twitter.com/innnews

Youtubehttps://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTokhttps://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account@innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube