fbpx
Home
|
บันเทิงไทย

“เก๋ ชลดา” รับทราบข้อหาบุกรุก

Featured Image
“เก๋ ชลดา” รับทราบข้อหาบุกรุก หลังถูก เจ้าของสุนัข 44 ตัว แจ้งความ – จ่อฟ้องกลับ ทารุณสัตว์

นางสาวชลดา เมฆราตรี หรือ เก๋ ชลดา พิธีกร นางแบบ ในฐานะประธานมูลนิธิเดอะวอยซ์ เสียงจากเรา พร้อมด้วย นายพีระบุญ เจริญวัย หรือ ปุ๋ม ประธานองค์กรสวัสดิภาพสัตว์ The Hope Thailand และ นายนิติธร แก้วโต หรือ ทนายเจมส์ เข้าพบพนักงานสอบสวน สน.นิมิตรใหม่ เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา ร่วมกันบุกรุกในเวลากลางวัน จากกรณีที่ เข้าช่วยเหลือ สุนัข 44 ตัว ที่บ้านหลังหนึ่ง ภายในซอยนิมิตรใหม่ 40 เขตคลองสามวา เมื่อวันที่ 3 พ.ค. ที่ผ่านมา หลังจากนั้น ได้ถูกนายอรรถพล ซึ่งเป็นเจ้าของสุนัขและเจ้าของบ้าน แจ้งความดำเนินคดี ฐานบุกรุก

เก๋ ชลดา ยืนยันว่า ก่อนเกิดเหตุ ตนเองและเจ้าหน้าที่จากมูลนิธิฯ ได้มีการหารือกับเจ้าของบ้านหลังดังกล่าว ว่าจะมีการนำสุนัขออกไปดูแลทั้งหมด หลังจากได้รับการร้องเรียน จากชาวบ้านละแวกใกล้เคียง รวมทั้งได้ลงพื้นที่ตรวจสอบสภาพความเป็นอยู่ และอาการของสุนัข ก็พบว่า อยู่ในอาการน่าเป็นห่วง

จากนั้น ในวันที่ 3 พ.ค. ก็ได้ร่วมกับมูลนิธิฯ เจ้าหน้าที่กรมปศุสัตว์ และสัตวแพทย์ เข้าช่วยเหลือ โดยเจ้าของบ้าน ยังมาเปิดประตูให้ และอยู่กันบริเวณโรงจอดรถเท่านั้น ไม่ได้เข้าไปในตัวบ้าน ซึ่งทางเจ้าของบ้าน ยืนยันมาโดยตลอดว่าสามารถดูแลสุนัขทั้งหมดได้ ส่วนการที่คุณลุงเจ้าของบ้าน มาแจ้งความในภายหลัง ก็รู้สึกแปลกใจเนื่องจากก่อนและหลังเกิดเหตุ ได้มีการเจรจาและพูดคุยกันเป็นที่เข้าใจกันดีแต่กลับมาแจ้งความ ทั้งที่ตนเองมีเจตนาดี ในวันนี้จึงรวบรวมหลักฐานที่จะดำเนินการแจ้งความกลับ นายอรรถพล ตามพระราชบัญญัติป้องกันการทารุณกรรมและการจัดสวัสดิภาพสัตว์ พ.ศ.2557

เก๋ ชลดา ยังบอกอีกว่า ขณะนี้ สุนัข ทั้ง 44 ตัว ทางมูลนิธิ รับมาดูแล 36 ตัว มีบ้านแล้ว 32 ตัว อยู่ระหว่างการปรับสภาพจิตใจ 4 ตัว ส่วนอีก 8 ตัว ยังอยู่กับนายอรรถพล เจ้าของบ้าน

สำหรับคดีดังกล่าว ยังมีนายพีระบุญ เจริญวัย หรือ ปุ๋ม เข้ารับทราบข้อกล่าวหาตามหมายเรียก ในฐานความผิดเดียวกันกับเก๋ ชลดา เนื่องจากในวันเกิดเหตุ ได้เดินทางไปยังบ้านหลังดังกล่าวด้วย

พ.ต.อ. รัฐศักดิ์ รักสลาม รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 3 กล่าวว่า คดีดังกล่าว ต้องดูที่เจตนา แต่เบื้องต้น ก็ทราบว่า ทั้ง 2 ฝ่ายมีเจตนาดีด้วยกันทั้งคู่ ในการที่จะช่วยเหลือสัตว์ ส่วนปัญหาในเรื่องของการบุกรุก ก็ต้องไปดูในเรื่องของข้อกฎหมาย ว่าเจตนาเป็นเช่นไร ซึ่งการดำเนินการ ทางตำรวจจะให้ความเป็นธรรม กับทั้ง 2 ฝ่าย ทำด้วยความโปร่งใส ไม่หวั่นว่าหากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะฟ้องกลับตำรวจ ก็เป็นสิทธิ์เนื่องจากตำรวจต้องทำไปตามหน้าที่ หากมีพยานหลักฐานชัดเจน ก็จะดำเนินการสั่งฟ้องไปยังพนักงานอัยการ แต่หากพยานหลักฐานไม่ครบถ้วน ก็สั่งไม่ฟ้อง ถือว่าเป็นการทำหน้าที่ให้ดีที่สุด

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube