ปีใหม่ยังต้องเฝ้าระวังชายแดน หยุดยิงพ้น72ชม.ไว้ใจเขมรไม่ได้
ปีใหม่สำหรับประชาชนทั่วไป อาจเป็นช่วงเวลาแห่งการเริ่มต้น แต่สำหรับพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ยังคงเป็นช่วงเวลาที่ต้องคงความระมัดระวังสูงสุด แม้จะผ่านพ้นข้อตกลงหยุดยิง 72 ชั่วโมง ที่ทั้งสองฝ่ายยืนยันเจตนาร่วมกัน เพื่อลดความตึงเครียดและเปิดทางสู่สันติภาพ ผ่านกลไกการเจรจาในระดับทวิภาคีและระดับทหาร
แต่สถานการณ์ในพื้นที่ยังคงต้องจับตาอย่างใกล้ชิด หลังตรวจพบอากาศยานไร้คนขับหรือโดรนจากฝั่งกัมพูชา บินรุกล้ำอธิปไตยของไทย ในหลายจุดตามแนวชายแดน โดยเฉพาะพื้นที่อ่อนไหวที่เคยเกิดเหตุปะทะมาก่อน แต่ฝ่ายกัมพูชาโดยพลโท มาลี โซเจียตา โฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชา รีบออกแถลงการณ์ตอบโต้กองทัพไทยที่ตรวจพบโดรนมากกว่า 250 ลำ ทันที ว่า ข้อกล่าวหานี้ไม่มีมูลความจริงและไม่ถูกต้อง และขอปฏิเสธอย่างสิ้นเชิง
แม้การกระทำดังกล่าวยังไม่ถึงขั้นการใช้กำลังทางทหาร แต่ฝ่ายความมั่นคงมองว่าเป็นพฤติกรรมที่ บั่นทอนบรรยากาศความไว้วางใจ และอาจส่งผลกระทบต่อกระบวนการสร้างสันติภาพที่พยายามเดินหน้า และไม่เคยไว้ใใจกัมพูชา เพราะละเมิดข้อตกลงอยู่เป็นประจำ
โดยในช่วงเทศกาลปีใหม่ ที่ประชาชนที่อพยพหนีถัยสู้รบ จะกลับเข้าบ้าน และกลับภูมิลำเนา นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้เรียกพลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และนายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้วรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อติดตามสถานการณ์ภายหลังครบกำหนดหยุดยิง 72 ชั่วโมง ตามถ้อยแถลงของ GBC
และได้สั่งการให้เฝ้าระวังพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ไม่ให้มีการละเมิดข้อตกลง ในช่วงวันหยุดปีใหม่เพื่อสร้างความสบายใจให้กับประชาชน และยืนยันว่า รัฐบาลจะดูแลความปลอดภัยของประชาชนอย่างดีที่สุด
นายสีหศักดิ์ ได้พูดถึงข้อตกลงหยุดยิง ว่าไทยอยากให้เป็นการหยุดยิงที่ยั่งยืน และนำมาสู่การสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างกัน แต่ก็ต้องดูว่าความสัมพันธ์ระหว่างไทย-กัมพูชา จะเดินต่อไปอย่างไรเพราะช่วงนี้เพิ่งตกลงกัน ยังมีความเปราะบางอยู่ ดังนั้น ก็ควรหลีกเลี่ยงเหตุการณ์ที่จะทำให้เกิดความเข้าใจผิด หรือบั่นทอนการหยุดยิง ทั้งการปล่อยโดรน การใช้คำพูดยั่วยุ หรือ การออกถ้อยแถลงระดับผู้นำต่างๆ ซึ่งต้องระมัดระวังและต้องมีการตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน
โดยยกตัวอย่างกรณีที่ ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ออกมาพูดว่าการหยุดยิงนั้น ไม่ได้หมายความว่าฝ่ายกัมพูชาแพ้ เรื่องนี้ก็อาจทำให้เกิดความเข้าใจผิดได้เพราะหากตั้งคำถามแบบนี้ เราก็ต้องถามกลับไปว่าใครเป็นฝ่ายขอหยุดยิง ซึ่งคิดว่าเราควรก้าวข้ามตรงนั้น และมาทำให้การหยุดยิงมีความยั่งยืน และสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างกัน พร้อมย้ำว่าต้องเคารพและรักษาคำพูดที่คุยกันไว้
ในขณะที่กองทัพ ย้ำชัดเจน การหยุดยิงไม่กระทบต่อสิทธิอธิปไตย หรือจุดยืนของประเทศไทยในประเด็นเขตแดน และไม่ถือเป็นการยอมรับการเปลี่ยนแปลงข้อเท็จจริงใดๆ ในพื้นที่ โดยรัฐบาลและกองทัพไทยยังคงตรึงกำลัง เฝ้าระวัง และติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมดำเนินการตามกรอบกฎหมายระหว่างประเทศ และกลไกที่ตกลงร่วมกัน หากมีการละเมิดข้อตกลงหยุดยิง หรือการกระทำที่กระทบต่อความมั่นคงของประเทศ
และขอให้ประชาชนเข้าใจ การหยุดยิงและการลดระดับความตึงเครียดตามถ้อยแถลงร่วม ไม่ได้หมายถึงการหยุดเตรียมพร้อมตามหลักสากล ทุกกองทัพในโลก ยังคงรักษาความพร้อมอย่างเหมาะสมเพื่อป้องกันไม่ให้ประเทศตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ หากมีการละเมิดข้อตกลง หรือสถานการณ์เปลี่ยนแปลง พร้อมย้ำว่า ความกลัวและความแตกแยก คือ เป้าหมายของสงครามข้อมูลข่าวสาร ซึ่งไม่ใช่ผลประโยชน์ของประเทศไทย..
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews





