ประชาธิปัตย์ ไม่ร่วม กล้าธรรม…ภูมิใจไทย ไม่จับมือ ประชาชน …เพื่อไทยยิ้มเลย

 

เสียงปี่กลองการเมืองรัวดังขึ้นต่อเนื่อง ก่อนจะมีการเปิดรับสมัคร สส.อย่างเป็นทางการ ทั้งแบบแบ่งเขต และบัญชีรายชื่อ 27-31 ธ.ค.นี้ แต่จากเวทีดีเบตประชันวิสัยทัศน์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีนัดแรก ของทีวีช่องดัง “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” ผู้นำพรรคประชาธิปัตย์ ที่กระแสดีวันดีคืน ประกาศไม่ร่วมรัฐบาลกับพรรคกล้าธรรมกลางเวที สร้างปรากฏการณ์ใหม่ทางการเมือง แสดงจุดยืนที่ชัดเจนให้ประชาชนเห็นตั้งแต่ต้น

 

แม้จะถูกวิพากษ์วิจารณอย่างหนัก และมีการบิดเบือนว่าจะจับมือกับพรรคส้ม หรือพรรคแดง แต่ “อภิสิทธ์” และทีงานพรรคฟ้า ก็ชี้แจงย้ำว่า ไม่ได้จะเป็นฝ่ายค้าน และไม่ได้จะจับมือส้ม เพราะประชาธิปัตย์ ไม่แก้ 112

 

ส่วน”ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ” หัวหน้าพรรคประชาชน ที่ประกาศสู้กับทุนเทาตั้งแต่ต้น ยังไม่กล้าเอ๋ยชื่อพรรคออกมา ต้องรอจนถึงตอนเช้า จึงประกาศว่าไม่จับมือ “กล้าธรรม”ด้วย จนสร้างแรงกระเพื่อม สร้างกระแสในโซเชียล ทำแกนนำ “กล้าธรรม” นิ่งอยู่ไม่ไหว ต้องออกมาตอบโต้ “อภิสิทธิ์” อย่างรุนแรง ไล่จากโฆษกพรรค กล่าวหาว่าสร้างความขัดแย้ง

 

ส่วน”นอ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ”ประธานยุทธศาสตร์ ก็ขุดวลีเก่า”ดีแต่พูด”มาสวนกลับ ขณะที่ “ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า” ผู้นำตัวจริงกล้าธรรม ก็ปรามาส”ประชาธิปัตย์” ว่ามี สส.ให้ได้ 25 คนก่อนแล้วค่อยมาพูด

 

จากนั้นดีกรีการเมืองก็เข้มข้นยิ่งขึ้นไปอีก เมื่อ “ณัฐพงษ์” ส่งสัญญาณอีกครั้ง ว่า”พูดแบบตรงไปตรงมา ไม่อ้อมค้อม การเลือกตั้งครั้งนี้ คือการแข่งระหว่างพรรคประชาชน กับ ภูมิใจไทย ถ้าพรรคภูมิใจไทยชนะ พรรคประชาชน จะเป็นฝ่ายค้าน แต่ถ้าพรรคประชาชนชนะ ไม่มีสมการจับมือกับภูมิใจไทยแน่นอน

 

จากนั้น “อนุทิน ชาญวีรกุล”รักษาการนายกฯ ที่ได้ตำแหน่งมาจากการอุ้มสมของพรรคประชาชน ผู้นำพรรคภูมิใจไทย ก็ออกมาแสดงจุดยืนบ้าง ไม่จับมือพรรคส้ม จัดตั้งรัฐบาลเด็ดขาด เพราะยังมีนโยบายแก้ไขกฎหมายอาญา มาตรา 112 ดังนั้น สมการขั้นต้น น้ำเงิน ไม่จับมือส้ม พรรคที่เหลือก็รอลุ้นกันไป

 

จากจุดยืนที่แสดงออกมา ตั้งแต่ก่อนวันสมัครรับเลือกตั้ง ประชาธิปัตย์ ไม่ร่วมงาน กล้าธรรม ทุกประตู มีฟ้า ต้องไม่มีเทา และจากจุดยืนของ “ณัฐพงษ์ และ อนุทิน” ที่ต่างฝ่ายจะไม่จับมือกัน ทำให้เวลานี้ “ประชาชน-ภูมิใจไทย” มีเงื่อนไขที่จะกลายเป็นเส้นขนานกันหลังเลือกตั้งแล้ว 1 คู่

 

ในขณะที่ เงื่อนไขของประชาธิปัตย์ ไม่ร่วมรัฐบาลไม่ว่าพรรคไหนเป็นแนนำถ้ามีกล้าธรรม ก็อาจทำให้ “อนุทิน” และพรรคภูมิใจไทย ที่หมายมั่นจะอยู่ต่ออีก 4 ปี ไม่สบายใจนัก ในกรณีที่จำเป็นต้องเอาเสียงของทั้ง 2 พรรคเพื่อจัดตั้งรัฐบาล

 

เพราะอย่างที่รู้กัน “อภิสิทธิ์” คำไหนคำนั้น ยอมหักไม่ยอมงอ และที่สำคัญที่สุด “อภิสิทธิ์” นำประชาธิปัตย์ครั้งนี้ ไม่เหมือนปี 2562 มีทีมเป็นของตัวเอง ไม่เหมือนเก่าที่หัวไปทาง หางไปอีกทาง ส่วน”อนุทิน” จะหนักใจแค่ไหน คงต้องรอดูผลการเลือกตั้งอีกครั้ง

 

ขยับมาที่พรรคแดง เพื่อไทย ถูกมองว่าน่าจะเป็นอันดับ 3 แน่นอนแล้วในการเลือกตั้งครั้งนี้ และหากไม่มีอะไรผิดพลาด ก็น่าจะมีแต้มต่อที่สูงมาก ในการต่อรองกับ พรรคส้ม และพรรคน้ำเงิน พอสมควร
ในการจัดตั้งรัฐบาล ดังนั้น เงื่อนไข ที่มีการตั้งออกมาในเวลานี้จากพรรคฟ้า พรรคส้ม พรรคน้ำเงิน ยังไม่มีพรรคไหน คว่ำบาตร เพื่อไทยโดยตรง

 

ก็คงทำให้ “จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์” หัวหน้าพรรค และ “อ.เชน” ยศชนันท์ วงศ์สวัสดิ์ แคนดิเดตสายตรงจากครอบครัวใหญ่”ชินวัตร” น่าจะยังพอยิ้มได้ เพราะ ยังสามารถเดินเกมเลือกตั้งได้ตามแผนของตัวเอง และอาจหาจุดเปลี่ยน พลิกกลับมาเป็นต่อได้ หากส้ม กับน้ำเงิน สู้กันหนัก ประกอบกับกระแสของฟ้า ที่ดูแรงขึ้น ก็อาจทำให้สมการ การเมืองในอนาคตเปลี่ยนไป แบบคาดเดาไม่ได้ เหมือนปี 2566 อีกครั้งก็เป็นได้….

 

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews