ผบช.น.แถลงจับ มือยิงหนุ่มดับคาทางด่วน เชื่อมีเจตนายิง–หลบหนีข้ามจังหวัด
วันนี้ พลตำรวจโท สยาม บุญสม ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พร้อมทีมสืบสวน แถลงผลการจับกุม นายสงกานต์ พานภู่ ผู้ต้องหาก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงชายเสียชีวิตบนทางด่วน ก่อนหลบหนีข้ามหลายจังหวัด และถูกจับกุมได้เมื่อวานนี้
พลตำรวจโท สยาม เปิดเผยลำดับเหตุการณ์ว่า ก่อนเกิดเหตุ ผู้ต้องหาเดินทางไปดื่มสังสรรค์กับเพื่อนรวม 4 คน ในพื้นที่บางใหญ่ จังหวัดนนทบุรี ก่อนถูกภรรยาโทรตามให้กลับบ้าน เวลาประมาณตีสอง ผู้ต้องหาขับรถส่งเพื่อนในย่านบางใหญ่และงามวงศ์วาน ก่อนขึ้นทางด่วนจากถนนงามวงศ์วาน
เมื่อใกล้ด่านเก็บเงินประชาชื่น ผู้ต้องหาได้พบกับรถของผู้ตาย และเกิดการขับปาดหน้ากัน เนื่องจากผู้ต้องหาไม่ชำนาญเส้นทางและเปลี่ยนช่องทางกระทันหัน ก่อนเข้าช่องเก็บเงินใกล้กัน หลังผ่านด่าน รถทั้งสองคันลดกระจกและมีปากเสียงโต้เถียงกัน
จากนั้น ผู้ต้องหาได้ใช้อาวุธปืนที่พกมาในรถ ใช้มือซ้ายจับพวงมาลัย มือขวายิงปืนผ่านกระจกฝั่งตนเองไปยังรถคู่กรณี รวม 3 นัด กระสุนเข้าร่างผู้ตาย 2 นัดจนเสียชีวิต และอีก 1 นัดถูกรถคันอื่นได้รับความเสียหาย ก่อนที่ผู้ต้องหาจะขับรถหลบหนีทันที
ผู้ต้องหาขับรถลงทางด่วนพหลโยธิน เข้าไปเปลี่ยนป้ายทะเบียนในซอยแห่งหนึ่ง ก่อนหลบหนีไปยังจังหวัดนครปฐม จอดรถทิ้งไว้ที่โรงแรม และนำอาวุธปืน ซองปืน และปลอกกระสุนไปทิ้งถังขยะ จากนั้นเรียกรถแท็กซี่หลบหนีไปหลายจังหวัด ทั้งปทุมธานี ระยอง ก่อนเปลี่ยนใจมุ่งหน้าไปจังหวัดตราด และข้ามไปยังเกาะช้าง โดยประสานให้ภรรยาและบุตรไปพบกันที่ท่าเรือ
ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประสานตำรวจท้องที่เข้าติดตาม จนสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาได้บริเวณสะพานคึกฤทธิ์ หลังการจับกุม ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ยิง แต่ยืนยันว่าไม่ได้ตั้งใจ เป็นเพียงอารมณ์ชั่ววูบจากการขับรถปาดหน้า
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่เชื่อว่าผู้ต้องหามีเจตนายิง จากพฤติการณ์การยิงถึง 3 นัด และหลักฐานพยานแวดล้อม รวมถึงทักษะการใช้อาวุธปืน ซึ่งพบว่าผู้ต้องหาเคยฝึกยิงปืนเป็นประจำในจังหวัดชลบุรี และจากการจำลองเหตุการณ์พบว่าสามารถกระทำได้จริง โดยขณะก่อเหตุมีผู้ต้องหาอยู่เพียงคนเดียวในรถ
สำหรับอาวุธปืน อยู่ระหว่างตรวจสอบ เบื้องต้นพบว่ามีการจดทะเบียนถูกต้อง แต่ผู้ครอบครองตามทะเบียนเสียชีวิตไปแล้วกว่า 4 ปี ส่วนกรณีป้ายทะเบียนสำรองอีก 1 ป้าย ผู้ต้องหาอ้างว่าใช้หลบเลี่ยงไฟแนนซ์ แต่ตำรวจเชื่อว่าเตรียมไว้เพื่อหลบหนี เนื่องจากผู้ต้องหาเคยมีคดีพยายามฆ่าเมื่อปี 2567 ในจังหวัดชลบุรี
ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อคำอ้างที่ว่าหลงทางจนไปจอดรถทิ้งไว้ที่จังหวัดนครปฐม แต่เชื่อว่าเป็นความตั้งใจเพื่อเพิ่มความยากในการติดตามตัว พร้อมอยู่ระหว่างพิจารณาดำเนินคดีกับผู้ที่ให้การช่วยเหลือในการหลบหนี
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
