Home
|
คลิปข่าวทั่วไป

ฝันบ้านหรูพังทลาย เหยื่อแฉพูลวิลล่าภูเก็ต ทิ้งซากบ้าน สูญกว่า 100 ล้าน

วันนี้ มูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม พาผู้เสียหาย 8 ราย เดินทางจากจังหวัดภูเก็ต เข้าร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน กองบัญชาการสอบสวนกลาง หรือ บช.ก. หลังถูกบริษัทรับสร้างบ้านพูลวิลล่าหรูในจังหวัดภูเก็ต หลอกลวง สร้างบ้านไม่แล้วเสร็จ และไม่สามารถโอนกรรมสิทธิ์ได้ตามสัญญา รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 100 ล้านบาท

 

หนึ่งในผู้เสียหาย นายธงชัย ทองจรัญ อายุ 45 ปี เปิดเผยว่า รู้จักโครงการดังกล่าวจากโฆษณาทางสื่อโซเชียลมีเดีย ก่อนตัดสินใจเข้าเยี่ยมชมโครงการ และมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายขาย รวมถึงกรรมการบริษัทเข้ามาพูดคุย จนนำไปสู่การทำสัญญาซื้อขายบ้านมูลค่า 9 ล้านบาท โดยชำระเงินไปแล้วบางส่วน แต่บ้านกลับไม่แล้วเสร็จ

 

ต่อมา บริษัทได้เสนอให้เปลี่ยนไปซื้อบ้านหลังใหม่ในโครงการเดียวกัน มูลค่าเพิ่มเป็น 18 ล้านบาท โดยอ้างว่าจะก่อสร้างให้แล้วเสร็จ แต่สุดท้ายก็ยังไม่สามารถสร้างเสร็จเช่นเดิม อีกทั้งตรวจสอบพบว่าที่ดินดังกล่าวยังติดขายฝาก และไม่สามารถโอนกรรมสิทธิ์ได้ ทั้งที่ผู้เสียหายได้จ่ายเงินไปแล้วกว่า 9 ล้านบาท

 

นายธงชัย ระบุว่า เมื่อทวงถามความคืบหน้า ทางโครงการมักบ่ายเบี่ยง โดยอ้างว่าสามารถไถ่ถอนที่ดินคืนได้ในภายหลัง กระทั่งตนขอยกเลิกสัญญา แต่บริษัทกลับปฏิเสธการคืนเงิน และหลังจากนั้นไม่สามารถติดต่อบริษัทได้อีก ทั้งยังทราบข้อมูลภายหลังว่า กรรมการบริษัทมีความเชื่อมโยงกับนักการเมืองพรรคใหญ่

 

ด้านทนายชาญชัย ฉายบุ ที่ปรึกษามูลนิธิรณรงค์ฯ เปิดเผยว่า ผู้เสียหายในคดีนี้แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม

 

  • กลุ่มแรก คือผู้ซื้อบ้านพูลวิลล่าที่สร้างไม่เสร็จ และไม่สามารถโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินได้

 

  • กลุ่มที่สอง คือผู้ที่ถูกชักชวนให้ย้ายจากโครงการหนึ่งไปอีกโครงการของบริษัทเดียวกัน หลังโครงการแรกมีปัญหา แต่สุดท้ายก็ประสบปัญหาเดิม คือบ้านไม่เสร็จและโอนไม่ได้

 

  • กลุ่มที่สาม เป็นชาวต่างชาติ ซึ่งบริษัททำสัญญาเช่าที่ดินระยะสั้น 2 ปี ก่อนอ้างว่าจะจัดทำสัญญาเช่าระยะยาว 30 ปี ต่อเนื่องรวม 90 ปี แต่ไม่เป็นไปตามข้อตกลง ทั้งที่มีการชำระเงินไปแล้ว

 

ทนายชาญชัย ระบุเพิ่มเติมว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่ากรรมการบริษัทดังกล่าวมีความเชื่อมโยงกับบริษัทอื่นที่เกี่ยวข้องกับทายาทนักการเมือง ทำให้ผู้เสียหายเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงรวมตัวเข้าร้องเรียนต่อ บช.ก. เพื่อให้ตรวจสอบว่าการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน และการนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จสู่ระบบคอมพิวเตอร์หรือไม่

 

ขณะนี้พนักงานสอบสวน บช.ก. อยู่ระหว่างรับเรื่องไว้พิจารณา และจะเรียกผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดเข้าสอบปากคำ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

 

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube