Home
|
คลิปข่าวทั่วไป

ผู้เสียหาย ร้อง ปคบ. คอนโดไม่ตรงปก ส่อฉ้อโกงประชาชน

วันนี้ ที่ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี อดีตรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ พากลุ่มผู้เสียหายกว่า 30 ราย ซึ่งเป็นผู้ซื้ออาคารชุดโครงการคอนโดมิเนียมตัวย่อ “G.”

 

รวม 5 โครงการ ในพื้นที่ย่านรัชดา–ลาดพร้าว เข้าร้องทุกข์ต่อ พลตำรวจตรีคงกฤช เลิศสิทธิกุล ผู้บังคับการกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค หรือ ผบก.ปคบ. เพื่อแจ้งความและขอให้ตั้งคณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริง หลังพบพฤติการณ์ที่อาจเข้าข่ายความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน

 

นายอรรถวิชช์ เปิดเผยว่า โครงการคอนโดมิเนียมดังกล่าวเริ่มเปิดขายตั้งแต่ปี 2563 จนถึงปัจจุบัน โดยมีผู้เสียหายจำนวนมากทยอยร้องเรียนว่า บางโครงการแม้ก่อสร้างแล้วเสร็จ แต่กลับไม่ได้คุณภาพ ไม่ตรงตามแบบที่โฆษณาไว้ พบปัญหาน้ำท่วมบริเวณชั้น 1 ส่งผลให้ระบบไฟฟ้าเสียหายทั้งอาคาร ผู้พักอาศัยต้องอพยพออกจากอาคารโดยไม่ได้รับการเยียวยา

 

ขณะที่ผู้ซื้อบางรายซึ่โอนกรรมสิทธิ์เรียบร้อยแล้ว กลับไม่สามารถเข้าอยู่อาศัยได้ เนื่องจากถูกล็อกห้อง และไม่ได้รับกุญแจจากโครงการ

 

นอกจากนี้ ยังพบว่าบางโครงการได้รับเงินสินเชื่อส่วนต่างจากธนาคาร สำหรับใช้ในการตกแต่งห้องชุด แต่กลับไม่โอนคืนให้กับผู้ซื้อ ตามข้อตกลงในสัญญา อีกทั้งยังมีข้อสงสัยเกี่ยวกับกระบวนการปล่อยสินเชื่อ โดยเชื่อว่าอาจมีเจ้าหน้าที่ธนาคารบางรายรู้เห็นเป็นใจ ในการอนุมัติวงเงินกู้เกินกว่ามูลค่าที่แท้จริงของคอนโดมิเนียม ส่งผลให้ผู้ซื้อได้รับความเสียหายเป็นวงกว้าง

 

สำหรับอีก 3 โครงการ ที่เริ่มเปิดขายในช่วงปี 2564 ถึง 2566 ผู้เสียหายระบุว่า ได้ผ่อนชำระเงินดาวน์กับบริษัทเจ้าของโครงการโดยตรง เป็นระยะเวลานานกว่า 2 ปี จนครบตามยอดที่กำหนด แต่โครงการกลับยังไม่แล้วเสร็จ บางแห่งยังไม่มีความคืบหน้าในการก่อสร้าง

 

และบางโครงการยังไม่ได้เริ่มก่อสร้างแม้แต่ขั้นตอนพื้นฐาน ทำให้ผู้ซื้อไม่สามารถดำเนินการขอสินเชื่อกับสถาบันการเงินได้ และจำเป็นต้องยกเลิกสัญญาซื้อขาย

 

กลุ่มผู้เสียหายเปิดเผยว่า การผ่อนดาวน์กับโครงการต้องชำระเดือนละ 5,900 บาท เป็นระยะเวลา 24 เดือน รวมเป็นเงินกว่า 160,000 บาท แต่เมื่อไปตรวจสอบพื้นที่จริง กลับพบเพียงเสาเข็ม ขณะที่เจ้าหน้าที่ โครงการมักบ่ายเบี่ยงข้อซักถาม

 

โดยอ้างว่าช่างไม่อยู่ วัสดุก่อสร้างยังไม่เข้า และยืนยันว่าโครงการจะแล้วเสร็จตามกำหนด เนื่องจากใช้เทคโนโลยีก่อสร้างรูปแบบใหม่ ซึ่งสามารถก่อสร้างได้อย่างรวดเร็ว ทำให้ผู้ซื้อหลงเชื่อและรอคอยต่อไป

 

อย่างไรก็ตาม เมื่อครบกำหนดผ่อนดาวน์ โครงการกลับไม่มีความคืบหน้า ส่งผลให้ผู้ซื้อไม่สามารถขอสินเชื่อกับธนาคารได้ และต้องยื่นเรื่องขอยกเลิกสัญญา แต่กลับไม่ได้รับการคืนเงินดาวน์หรือการเยียวยาใด ๆ จากบริษัทเจ้าของโครงการ

 

ขณะเดียวกัน บริษัทยังมีการเปิดขายโครงการคอนโดมิเนียมแห่งใหม่อย่างต่อเนื่อง สร้างความกังวลให้กับผู้เสียหายว่าพฤติการณ์ดังกล่าวอาจเป็นการหมุนเงินจากโครงการหนึ่งไปยังอีกโครงการหนึ่ง

นอกจากนี้ ยังพบความผิดปกติในการรับชำระเงินดาวน์ โดยผู้เสียหายบางรายโอนเงินให้โครงการในย่านรัชดาภิเษก ซอย 7 แต่ชื่อบัญชีธนาคารที่ใช้รับเงิน กลับเป็นของโครงการในซอยลาดพร้าว 18 ซึ่งแม้จะอยู่ในเครือเดียวกัน แต่ถือเป็นคนละโครงการ

 

อีกทั้งเจ้าของโครงการยังมีการอ้างชื่อดีเจชื่อดังว่าเป็นผู้ซื้อโครงการ เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ และจูงใจให้ประชาชนตัดสินใจซื้อ ก่อนที่ภายหลังดีเจรายดังกล่าวจะออกมาชี้แจงว่า ไม่ได้ซื้อคอนโดมิเนียมแห่งนี้ แต่อยู่ในซอยเดียวกันเท่านั้น

 

ก่อนหน้านี้ กลุ่มผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้ที่สถานีตำรวจนครบาลสุทธิสาร เมื่อวันที่ 11 ธันวาคมที่ผ่านมา และเคยรวมตัวเข้าร้องเรียนต่อสำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค หรือ สคบ. แล้ว แต่ยังไม่ได้รับการแก้ไข อย่างเป็นรูปธรรม

 

ล่าสุดจึงเดินทางมาแจ้งความกับพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค เพื่อให้ดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้อง หากพบว่าเข้าข่ายความผิดอาญาฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชน

 

ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจรับเรื่องไว้แล้ว และอยู่ระหว่างเตรียมลงพื้นที่ตรวจสอบโครงการทั้งหมด พร้อมรวบรวมพยานหลักฐาน เอกสารสัญญา และเส้นทางการเงิน เพื่อพิจารณาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube