ศึก “ไทย-กัมพูชา” รอบใหม่ กองทัพปกป้องอธิปไตยเต็มกำลัง
สถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา กลับมาตึงเครียดอีกครั้ง หลังเกิดการยิงปะทะบริเวณ “ภูผาเหล็ก–พลาญหินแปดก้อน” จังหวัดศรีสะเกษ ก่อนจะหยุดยิง และมีประกาศอพยพประชาชนชายแดน 4 จังหวัด เมื่อวันที่ 7 ธ.ค.ที่ผ่านมา
กระทั่งความขัดแย้งขยายวงตลอดคืน สู่พื้นที่ช่องอานม้า–ช่องบก จังหวัดอุบลราชธานี และมีการปะทะระลอกใหม่ ในช่วงเช้าตรู่ของวันที่ 8 ธ.ค. กัมพูชายิง BM21 ลงพื้นที่บ้านเรือนประชาชน อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ และลามไปจนถึง กองทัพภาค 1 สั่งอพยพประชาชนชายแดนจังหวัดสระแก้ว จนนายกฯอนุทิน ชาญวีรกุล ยกเลิกภาระกิจเดินทางลงพื้นที่ชายแดน ให้กำลังใจประชาชน เปลี่ยนเป็นเรียกประชุมฝ่ายความมั่นคง ที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อรับมือสถานการณ์
ลำดับเหตุการณ์ปะทะระลอกใหม่ มีดังนี้ เริ่มปะทะในวันที่ 7 ธ.ค. เวลา 14.15 น. หน่วย พัน.ร.13 เผชิญการยิงจากฝ่ายกัมพูชาในพื้นที่ภูผาเหล็ก–พลาญหินแปดก้อน ทหารไทยตอบโต้ตามกฎการใช้กำลัง มีทหารไทยบาดเจ็บ 2 นาย ก่อนที่เสียงปืนจะเบาลง ในช่วง 15.45 น. แต่แม่ทัพภาคที่ 2 สั่งยกระดับความพร้อมเต็มกำลัง
ต่อมา เวลา 17.00 น. ประกาศอพยพชาวบ้านใน 4 จังหวัดชายแดน ประกอบด้วย ศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ อุบลราชธานี เข้าศูนย์พักพิงชั่วคราว พร้อมเตือนหลีกเลี่ยงพื้นที่ใกล้เขตแดน หลังมีรายงานพบการขนย้ายจรวดหลายลำกล้อง RM-70 ใกล้แนวชายแดน
เวลา 17.15 น. พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมว.กลาโหม ไฟเขียวตอบโต้ได้ทันที ตามกฎการใช้กำลัง จากนั้นโฆษกของ 2 ฝ่าย ตอบโต้กันด้วยข้อมูลข่าวสารกล่าวหาอีกฝ่ายเป็นผู้เริ่มยิงก่อน เหตุการณ์ตึงเครียดตลอดทั้งคืน
เข้าสู่ วันที่ 8 ธ.ค.ความขัดแย้งขยายวงกว้างจากจุดเดิมในศรีสะเกษ ไปยังช่องอานม้า–ช่องบก จ.อุบลราชธานี เวลา 03.00 น. กองทัพภาค 2 พบฝ่ายกัมพูชากำหนดเป้าหมายอาวุธยิงสนับสนุนไปยังสนามบินบุรีรัมย์ และโรงพยาบาลปราสาท
ต่อมา 05.00 น. ช่องอานม้า เกิดปะทะระลอกแรก กัมพูชาใช้ปืนเล็ก และอาวุธวิถีโค้งยิงใส่ ทหารไทยยิงป้องกันตัวตามกฎการปะทะ เป็นเวลานาน ต่อมาช่วง 06.00 น. พบกองกำลังกัมพูชาประมาณ 50 นาย เคลื่อนขึ้นเนิน 677 ใกล้พรมแดน ยิงปืนครกใส่ฐานไทยหลายแห่ง ทหารไทยตอบโต้ตามสถานการณ์
เวลา 07.00 น. ที่ช่องบกทหารไทยเสียชีวิต 1 นาย และบาดเจ็บ 4 นาย กองทัพบกยืนยันใช้ F-16 ตอบโต้เป้าหมายทางทหารของกัมพูชา อย่างน้อย 3 จุด บริเวณ ช่องอานม้า ปราสาทคนา และ เสาวิทยุ พื้นที่ใกล้ปราสาทพระวิหาร กองทัพอากาศ ยืนยันปฏิบัติการยึดหลักสากลล็อคเป้าพื้นที่ทางการทหารเท่านั้น
กระทรวงศึกษาธิการสั่งปิดสถานศึกษา 641 แห่ง เพื่อความปลอดภัย กระทั่งเวลา เวลา 08.30น. มีการยืนยัน ทหารกัมพูชา ยิงระเบิด BM21 ลงพื้นที่บ้านเรือนประชาชน ที่บ้านสายโท 10 อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์
เวลา 09.20 น. กองทัพภาคที่ 2 รายงานว่า เป้าหมายกระเช้าเนิน 350 ทางด้านทิศตะวันตก ปราสาทตาควาย ระยะ 300 เมตร ถูกทำลายเรียบร้อย กองทัพจะปกป้องประชาชนและอธิปไตยเต็มกำลัง ต่อมา 09.28 น. พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากแนวชายแดน ทหารไทยเสียชีวิตเพิ่มอีก 1 นาย รวมเสียชีวิต 2 นาย บาดเจ็บ 8 นาย
เหตุการณ์ปะทะชายแดนไทย-กัมพูชาในวันนี้ ถือว่ามีความรุนแรง และตึงเครียดที่สุด นับจากเหตุการณ์ สู้รบ 5 วัน เมื่อวันที่ 24-28 ก.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งมีการใช้ทั้งอาวุธหนัก รถถัง และจรวดหลายลำกล้อง จนนำไปสู่ความสูญเสียของทั้ง 2 ฝ่าย และมีการเจรจาหยุดยิง มีการลงนามข้อลงสันติภาพ แต่สัญญาถูกระงับ และยกเลิกไปหลังทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิดอีกครั้ง และเกิดการปะทะรอบใหม่
ทั้งนี้ กองทัพภาคที่ 2 ขอความร่วมมือประชาชน งดถ่ายภาพ และงดเผยแพร่ข้อมูลยุทธการ พิกัด GPS แผนการปฏิบัติ หรือภาพการเคลื่อนย้ายกำลังพล ลงในสื่อโซเชียลมีเดียเด็ดขาด แม้ข้อมูลบางอย่างอาจดูไม่สำคัญ แต่เมื่อนำมารวมกันอาจทำให้ฝ่ายตรงข้ามวิเคราะห์เป้าหมายได้
ซึ่งจะส่งผลกระทบโดยตรงต่อความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่และชาวบ้านในพื้นที่ กองทัพยืนยันพร้อมปกป้องอธิปไตยเต็มกำลัง โดยย้ำว่า ใช้อาวุธตอบโต้เป็นไปตามแผนเผชิญเหตุเฉพาะพื้นที่ตามกฎการใช้กำลัง และมุ่งโจมตีพื้นที่เป้าหมาย ที่มีเจตนาคุกคาม หรือกระทำต่อฝ่ายไทย …
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews





