ซีเกมส์ “ห่วย” จะโทษ “รมว.อรรถกร” คนเดียวไม่ได้นะ

กีฬา กับการเมือง มักแยกกันไม่ออกสำหรับบ้านเรา เพราะนักการเมืองหลายคน เป็นนายกสมาคมกีฬา บางคนเป็นบอร์ดคณะกรรมการโอลิมปิก และบางคนเคยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา

 

ดังนั้น การเป็นเจ้าภาพกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ซึ่งจะมีพิธีเปิดอย่างเป็นทางการในวันที่ 9 ธ.ค.นี้ และมีดราม่า เกี่ยวกับความพร้อมในการเป็นเจ้าภาพ การประชาสัมพันธ์ เบี้ยเลี้ยงนักกีฬา รวมถึงข้อผิดพลาดต่างๆ ในระหว่างการแข่งขันกีฬาฟุตบอล ที่เริ่มต้นไปแล้ว ล้วนนำมาซึ่งเสียงวิพากษ์วิจารณ์ ที่มีต่อรัฐบาล ต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

 

แต่ทั้งหมดทั้งมวล จะไปโทษว่าดราม่าที่เกิดขึ้น ความไม่พร้อมต่างๆ เป็นความผิดพลาดของ “รัฐบาลอนุทิน ชาญวีรกุล” โดยรัฐมนตรี “อรรถกร ศิริลัทธยากร” ทั้งหมดคงไม่ได้ หลายคน หลายภาคส่วน ทั้งในอดีต และปัจจุบัน รวมๆ ระยะเวลาน่าจะสัก 2 ปี ต้องร่วมกันรับผิดชอบ

 

ย้อนกลับไป ประเทศไทย ได้รับการยืนยันว่าจะได้เป็นเจ้าภาพ จักการแข่งขันซีเกมส์ ครั้งที่ 33 น่าจะมีการแจ้งล่วงหน้า มาไม่น้อยกว่า 4 ปีแล้ว และผู้แทนประเทศไทย ไปรับธงเจ้าภาพซีเกมส์ ต่อจากกัมพูชา เมื่อวันที่ 17 พ.ค.2566 โดยมี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ในฐานะประธานคณะกรรมการโอลิมปิก เป็นผู้รับมอบ

 

ซึ่งหากย้อนไปตอนนั้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยยวและกีฬา ชื่อ “พิพัฒน์ รัชกิจประการ” จากพรรคภูมิใจไทย และมี ดร.ก้องศักด์ ยอดมณีเป็นผู้ว่าการกีฬาแห่งประเทศไทย แต่หลังจากนั้นไม่นาน “พล.อ.ประวิตร และ พิพัฒน์”ก็พ้นจากตำแหน่ง มีเพียง “ดร.ก้องศักดิ์” ที่ทำงานต่อเนื่องมาถึงปัจจุบัน โดยประธานคณะกรรมการโอลิมปิกคนใหม่ “พิมล ศรีวกรม์” ก็มีความเชื่อมโยงกับฝ่ายการเมืองจากพรรคเพื่อไทย

 

ถัดจาก”พิพัฒน์” ช่วงปลายปี 2566 เรามีเจ้ากระทรวงท่องเที่ยวและกีฬาชื่อ “สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล” จากพรรคเพื่อไทย ทำงาน 7 เดือน ก็ส่งไม้ต่อให้ “เสริมศักดิ์ พงษ์พาณิชย์” จากพรรคเดียวกัน ทำงานอีก 6 เดือน ซึ่งเท่ากับผ่านไป 1 ปี การเตรียมซีเกมส์แทบจะไม่มีการพูดถึงเลย

 

และเมื่อเป็น “สรวงค์ เทียนทอง” จากพรรคเพื่อไทยอีกคน จึงได้เห็นว่ามีการเตรียมงานเรื่องซีเกมส์ ชัดขึ้น เป็นรัฐมนตรีที่รับผิดชอบ ในการเสนองบประมาณเจ้าภาพซีเกมส์ เข้า ครม. เมื่อ 24 มิ.ย.2568 โดยครม.อนุมัติวงเงิน 2,055 ล้าน สำหรับการเป็นเจ้าภาพ และ “สรวงค์” ยืนยันได้จัดสรร วางแผนทุกอย่างไว้ตามไทม์ไลน์แล้ว แต่พอมีการเปลี่ยนแปลง ทางการเมือง ปัญหาที่มี ไม่ได้รับการแก้ไขเท่าที่ควร แต่ก็ไม่สามารถปฏิเสธความรับผิดชอบได้ ในฐานะเคยเป็นรัฐบาลและดูแลกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬามาก่อน

 

ปิดท้าย “รมต.อรรถกร” เข้ามาเพียง 2 เดือนเศษ มีการแก้ปัญหาเรื่องเบี้ยเลี้ยงนักกีฬา และพยายามเตรียมความพร้อมเป็นเจ้าภาพซีเกมส์ มาอย่างต่อเนื่อง แต่ด้วยเวลาที่น้อยนิด และมีปัญหาหลายอย่างให้ต้องแก้ไข ปรับปรุง ก็เป็นไปอย่างที่เห็น อย่างที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ และเมื่อจะถามว่า ความรับผิดชอบจริงๆ

 

ทั้งหมดของการเป็นเจ้าภาพซีเกมส์ ครั้งนี้ ควรตกอยู่ที่ใคร ระหว่างฝ่ายการเมือง คือรัฐมนตรีท่องเที่ยวและกีฬา ทั้ง 4 คน ที่อยู่ในห้วงเวลา 2 ปี นับจากรับธงจัดซีเกมส์มา หรือฝ่ายบริหารกีฬา คือคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย และ การกีฬาแห่งประเทศไทย คำตอบคือทุกคนต้องร่วมกันรับผิดชอบ

 

แต่สิ่งหนึ่งที่ชัดเจนที่สุด และทุกฝ่ายน่าจะเห็นตรงกัน คือ การเตรียม ความพร้อมเป็นเจ้าภาพซีเกมส์ ครั้งนี้ ประเทศไทย ชะล่าใจ หรือประมาทเกินไปหรือไม่ เพราะจากการที่รัฐบาลจะอนุมัติงบประมาณ ก็ปาเข้าไปวันที่ 24 มิ.ย.2568 แล้ว เหลืออีก 5 เดือนกว่าๆ เท่านั้น ซึ่งเวลาอาจจน้อยเกินไปหรือไม่กับการเตรียมความพร้อม จึงทำให้เกิดปัญหาในการเตรียมการ

 

ประกอบกับเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ทำให้เกิดรอยต่อยิ่งขึ้น จนกลายมาเป็นความผิดพลาด ความไม่สมบูรณ์แบบ และกลายเป็นความเสียหายที่ส่งผลกระทบต่อภาพลักษ์ของประเทศไทยเป็นอย่างมาก ดังนั้นเวลาที่เหลือ ทุกฝ่ายควรเร่งมือช่วยกันทำให้การแข่งขันซีเกมส์ครั้งนี้ประทับใจประเทศผู้มาเยือนให้มากที่สุด…

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews