อดีต ผบ.ฯ เรือนจำกรุงเทพ ถูกให้ออกจากราชการปมเอื้อจีนเทา
พล.ต.ท.รุทธพล เนาวรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยความคืบหน้าคดี “ห้อง VIP เอื้อผู้ต้องขังจีนเทา” ซึ่งกลายเป็นปฏิบัติการสะเทือนระบบราชทัณฑ์ และทำให้เกิดการตรวจสอบครั้งใหญ่ที่สุดในรอบหลายปี
คดีนี้เริ่มต้นจาก “ความอึดอัด” ภายในเรือนจำ เมื่อเจ้าหน้าที่บางรายทนไม่ไหวกับพฤติกรรมของผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ จนข้อมูลถูกส่งต่อถึงอธิบดีกรมราชทัณฑ์คนใหม่ ก่อนขยายผลกลายเป็นปฏิบัติการบุกตรวจเมื่อไม่นานมานี้
จากข้อมูลล่าสุด พล.ต.ท.รุทธพล ยืนยันว่า “นายมานพ ชมชื่น” อดีต ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ และ “นายไตรพล สีเขียวแก่” เลขานุการ ผบ.เรือนจำ ถูกให้ออกจากราชการแล้ว ส่วนเจ้าหน้าที่อีก 19 คน ยังอยู่ระหว่างการสอบสวนโดยคณะกรรมการร่วมของกระทรวงยุติธรรมและ DSI ห้อง VIP ดังกล่าวถูกดัดแปลงตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2568
โดยอ้างว่าเป็น “ห้องรับรองผู้มาติดต่อราชการ” แต่การใช้งานจริงกลับถูกตั้งข้อสงสัยว่าเป็นการอำนวยความสะดวกให้ผู้ต้องขังรายสำคัญ โดยเฉพาะกลุ่มผู้ต้องขังชาวจีนที่ถูกระบุว่าเป็นผู้มีอิทธิพลในคดียาเสพติดและเครือข่ายเทา
ในวันตรวจค้น แม้ ผบ.เรือนจำ จะมีการ “ถ่วงเวลา” ประมาณ 20 นาที แต่เจ้าหน้าที่ก็ยังพบพยานหลักฐานจำนวนมาก ถูกนำออกมาจากห้องดังกล่าวได้ทันเวลา ก่อนที่ห้องจะถูก “ปิดตาย” ทันที
เมื่อวานนี้ เจ้าหน้าที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ร่วมกับ DSI เข้าเก็บหลักฐานในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ และจากรายงานล่าสุด มีการพบหลักฐานเพิ่มเติมจำนวนมากถึงขั้นต้องลำเลียงออกด้วยรถของหน่วยงาน
ที่น่าสนใจคือ รถของนิติวิทยาศาสตร์ยังปรากฏที่หน้าเรือนจำคลองเปรมอีกแห่งหนึ่ง ทำให้สังคมตั้งคำถามว่าคดีนี้อาจโยงขยายไปมากกว่าแค่เรือนจำเดียว รัฐมนตรีฯ ระบุว่า “ยังไม่ทราบ ต้องรอรายงาน แต่จะตรวจเส้นทางการเงินอย่างละเอียด และไม่ใช่แค่เส้นทางการเงินเท่านั้น”
แหล่งข่าวภายในเผยว่า สิ่งที่น่ากังวลคือ “จำนวนเงินหมุนเวียน” ที่อาจเกี่ยวข้องกับการอำนวยความสะดวกภายในเรือนจำ แต่เจ้าหน้าที่ไม่สามารถเปิดเผยยอดได้เพราะกระทบต่อสำนวนคดี
แหล่งข่าวภายในเผยว่า สิ่งที่น่ากังวลคือ “จำนวนเงินหมุนเวียน” ที่อาจเกี่ยวข้องกับการอำนวยความสะดวกภายในเรือนจำ แต่เจ้าหน้าที่ไม่สามารถเปิดเผยยอดได้เพราะกระทบต่อสำนวนคดี
หนึ่งในข้อพิรุธสำคัญ คือ การเบิกตัวผู้ต้องขังออกจากแดนควรมี “พัศดีเวร” เป็นผู้ลงนาม แต่ชื่อของพัศดีเวรกลับไม่อยู่ในรายชื่อ 19 เจ้าหน้าที่ที่ถูกโยกย้าย พล.ต.ท.รุทธพลชี้ชัดว่า
ประเด็นนี้กำลังอยู่ระหว่างรวบรวมเอกสารย้อนหลัง ซึ่งอาจเป็นจุดที่ขยายผลถึงผู้มีอำนาจระดับสูงมากกว่าที่คาด
รัฐมนตรีฯ เผยว่า มีการสั่งตรวจสอบย้อนหลังไปยังเรือนจำเก่าของอดีต ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ที่จังหวัดสมุทรปราการ รวมถึงเรือนจำอื่น ๆ ที่เคยมีส่วนเกี่ยวข้อง เพื่อหาพฤติกรรมลักษณะเดียวกัน แต่ยังไม่พบสิ่งผิดปกติในขณะนี้
คดีนี้ยังกระทบถึง “การเยี่ยมวันอาทิตย์” ซึ่ง พล.ต.ท.รุทธพลยืนยันว่าเป็นสิ่งที่ “ไม่ถูกต้อง” และแม้จะได้รับอนุญาตให้เยี่ยมได้ ก็ไม่มีสิทธิ์นำบุคคลเข้าสู่พื้นที่ห้อง VIP ที่กำลังเป็นข่าวอีกหนึ่งประเด็นใหญ่คือการรีโนเวทห้อง VIP ซึ่งยังไม่ชัดเจนว่าใช้งบของรัฐหรือเงินนอกระบบ ขณะนี้คณะกรรมการกำลังตรวจละเอียดทั้งเอกสารจัดซื้อจัดจ้าง และวัตถุประสงค์การใช้งานจริง
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews





