Home
|
คลิปข่าวทั่วไป

เปิดเส้นทางเงินมืด–สิทธิ VIP จีนเทา ราชทัณฑ์เร่งสะสาง

บรรยากาศด้านหน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครเป็นไปอย่างตึงเครียด เมื่อคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงของกรมราชทัณฑ์ เจ้าหน้าที่ดีเอสไอ และสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เดินทางเข้าสอบสวน และตรวจเก็บหลักฐานชุดใหญ่ในกรณี “ห้องลับใต้บันได” ซึ่งถูกตั้งข้อสงสัยว่าเป็นจุดให้บริการพิเศษแก่ผู้ต้องขังกลุ่มจีนเทา จนกลายเป็นคดีอื้อฉาวสะเทือนวงการราชทัณฑ์

 

นายยุทธนา นาคเรืองศรี รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ และโฆษกฯ เปิดเผยว่า ได้ประสานขอเจ้าหน้าที่นิติวิทยาศาสตร์เข้าตรวจเก็บพยานวัตถุและพยานเอกสารภายในห้องลับที่ถูกซีลไว้แล้ว โดยผลตรวจ จะถูกนำเสนอคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง

 

ขณะเดียวกัน พล.ต.ท.รุทธพล เนาวรัตน์ รมว.ยุติธรรม เตรียมแถลงความคืบหน้าในวันที่ 25–26 พ.ย. เกี่ยวกับเจ้าหน้าที่เรือนจำกว่า 20 ราย ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ซึ่งอาจถึงขั้นถูกพักราชการหรือให้ออกจากราชการเป็นการชั่วคราว เนื่องจากหลักฐานเริ่มชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ

 

ด้าน พ.ต.ท.อนุรักษ์ โรจนนิรันดร์กิจ รองอธิบดีดีเอสไอ ระบุว่า ดีเอสไอจะสอบสวนงานด้านเอกสาร การควบคุมผู้ต้องขัง การโอนเงิน การจ่ายเงิน รวมถึงเส้นทางการทำธุรกรรมของเจ้าหน้าที่เรือนจำ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาความเชื่อมโยงกับการเปิด “บริการพิเศษ” ให้ผู้ต้องขังจีนเทา

 

พร้อมเตรียมประสานตรวจสอบประวัติการเดินทางเข้า–ออกนอกประเทศของนายมานพ ชมชื่น ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ นับตั้งแต่รับตำแหน่ง เพื่อดูพฤติการณ์ต้องสงสัยเพิ่มเติมประเด็นเรื่องทรัพย์สินของเจ้าหน้าที่เรือนจำก็อยู่ในการตรวจสอบ

 

โดยหากพบความผิดปกติ ดีเอสไอจะสรุปสำนวนส่ง ป.ป.ช. พิจารณาต่อไป ตามกฎหมายฟอกเงินและมาตรา 157เวลา 09.30–09.35 น. รถของดีเอสไอและรถตู้ของสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ 2 คัน ได้ทยอยเข้าเรือนจำเพื่อเริ่มกระบวนการเก็บพยานวัตถุในคดีสำคัญนี้

 

อีกด้านหนึ่ง นายวิทูรย์ เก่งงาน ทนายของนายวรัตน์พล หรือ “บอสพอล” ผู้ต้องขังคดีดัง ออกมาชี้แจงว่ากระแสข่าวภาพบอสกันต์ในกล้องวงจรปิดและข้อกล่าวหาเรื่องติดสินบนเป็นเท็จ พร้อมยืนยันว่าบอสกันต์และครอบครัว ไม่มีเงินมากพอที่จะซื้อสิทธิพิเศษต่าง ๆ เพราะทรัพย์สินถูก ปปง. อายัดทั้งหมด อีกทั้งระบบเยี่ยมญาติของเรือนจำก็ไม่เปิดให้เยี่ยมวันอาทิตย์ตามที่มีข่าวเผยแพร่

 

ทนายยังตั้งข้อสังเกตว่า ข้อมูลที่แพร่ออกมาอาจเป็นการเบี่ยงประเด็นจากการเอื้อสิทธิพิเศษให้ผู้ต้องขังจีน พร้อมมองว่าปัญหาจำนวนผู้ต้องขังล้นเรือนจำ อาจทำให้เกิด “ช่องทางหาผลประโยชน์” ให้ผู้มีเงินซื้อความสบายภายในเรือนจำได้.

 

ขณะเดียวกัน นายสนธิญา สวัสดี อดีตที่ปรึกษากรรมาธิการกฎหมาย สภาผู้แทนราษฎร ยื่นหนังสือถึง ปปง. ขอให้ยึดอายัดทรัพย์สินของอดีต ผบ.เรือนจำและเจ้าหน้าที่บางราย โดยอ้างว่าการเปิด “คุก VIP” ให้ผู้ต้องขังจีน เข้าพักเป็นความผิดมูลฐานตาม พ.ร.บ. ปปง.

 

พร้อมระบุว่ามีข้อมูลจากแหล่งข่าวภายในว่ามีการจ่ายเงินสดตั้งแต่ 3–15 ล้านบาท และเป็นเงินที่ไปรับจากต่างประเทศเพื่อไม่ทิ้งหลักฐานในระบบการเงินไทย

 

นายสนธิญายังชี้ว่า เรื่องนี้อาจเป็นผลมาจากการ “หักหลังกันเอง” ในขบวนการเอื้อผลประโยชน์ และเชื่อว่าปัญหาน่าจะเริ่มมาตั้งแต่ช่วงกลางเดือนตุลาคมถึงพฤศจิกายนที่ผ่านมา ก่อนจะลุกลามเป็นเหตุอื้อฉาวระดับประเทศสังคมยังคงจับตาว่า คดีนี้จะนำไปสู่การล้างไพ่ระบบเรือนจำไทยหรือไม่

 

เมื่อหลักฐานและคำให้การเริ่มขยายวงกว้าง เชื่อมโยงทั้งเจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติการไปจนถึงผู้บริหารระดับสูง และอาจมีการสั่นคลอนครั้งใหญ่ต่อระบบราชทัณฑ์และความโปร่งใสในกระบวนการยุติธรรมไทยในไม่ช้า

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube