เปิดยุทธการ “รถผักลวงโลก” ทลายเครือข่ายม้ง ขนไอซ์ 675 กก.
วันนี้ พล.ต.ท.วัฒนา ยี่จีน ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 พร้อมทีมสืบสวนหลายหน่วยงาน ออกมาเปิดเผยปฏิบัติการไล่ล่าเครือข่ายขนยาเสพติดครั้งสำคัญ ซึ่งเป็นการ “จับระทึกกลางวันแสกๆ” กับรถกระบะซุกไอซ์หนักกว่า 675 กิโลกรัม ที่อำพรางเป็น “รถขนผัก” วิ่งผ่านพื้นที่ภาคกลางอย่างแนบเนียน
ตลอดหลายสัปดาห์ก่อนปฏิบัติการนี้ หน่วยงานความมั่นคงด้านยาเสพติดได้รับข้อมูลว่า เครือข่าย ม้งเชียงราย กำลังเร่งขยายเส้นทางลำเลียงข้ามภาค เพื่อผลักดันไอซ์ล็อตใหญ่ลงสู่พื้นที่ภาคกลาง เตรียมกระจายต่อสู่ตลาดภาคตะวันออก และอาจเชื่อมโยงไปยังภาคใต้ ตำรวจภูธรภาค 1 จึงร่วมกำลังกับตำรวจภูธรภาค 5 และ ป.ป.ส. สร้างแผนปฏิบัติการที่ต้องอาศัยทั้งความแม่นยำและความลึกลับ
ข้อมูลที่ได้รับระบุว่า ขบวนการใช้รถสำรวจเส้นทางถึง 3 คัน ทั้งรถจักรยานยนต์และรถยนต์เพื่อเปิด-ปิดหน้า–ท้ายขบวน เปลี่ยนเส้นทางหลายจุดเพื่อหลบกล้องวงจรปิดและด่านตรวจ ก่อนทั้งหมด จะมาสิ้นสุดที่สถานีบริการน้ำมันในอำเภอพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรี ซึ่งถูกใช้เป็น “จุดพัก” สำหรับส่งต่อยาเข้าสู่เครือข่ายค้าส่งรายใหญ่ในภาคกลาง
ทันทีที่รถกระบะเสริมคอกคันต้องสงสัยเลี้ยวเข้าไปยังปั๊มตามข้อมูลที่เฝ้าติดตาม เจ้าหน้าที่ซุ่มอยู่รอบพื้นที่ก็แสดงตัวเข้าตรวจค้นอย่างรวดเร็ว ภาพที่ปรากฏภายในกระบะทำให้ทุกคนต้องอึ้ง—มีการซุกซ่อนกระสอบ 34 กระสอบ อัดแน่นด้วยไอซ์เกรดส่งออก น้ำหนักรวม 675 กิโลกรัม หากเล็ดรอดไปได้เพียงบางส่วน ก็อาจสร้างความเสียหายให้สังคมไทยมหาศาล
การตรวจค้นยังนำไปสู่การยึดรถยนต์อีกหนึ่งคันที่ใช้เป็น “รถนำขบวน” ซึ่งคนร้ายจอดทิ้งไว้ขณะไหวตัวทันแล้วหลบหนี ทำให้แนวทางสืบสวนมีภาพเครือข่ายที่ชัดเจนมากขึ้น
ผู้ถูกจับกุมคือ นายณัฎฐกร ชาวม้งผู้ครองตำแหน่ง “ฟันเฟืองปลายทาง” ของขบวนการ เขายอมรับว่าเพิ่งทำงานนี้เป็นครั้งแรก และเพียงได้รับ “ค่าน้ำมัน” 8,000 บาทเท่านั้น โดยยังไม่ได้มีการตกลง ค่าจ้างจริง เนื่องจากมีการประสานงานผ่านคนกลางหลายทอด—สะท้อนรูปแบบการแบ่งงานอย่างซับซ้อนเพื่อกันตัวบงการไม่ให้ถูกตามรอยได้ง่าย
ตำรวจเชื่อว่าขบวนการนี้มีเครือข่ายกระจายทั้งในภาคเหนือ ภาคกลาง และพื้นที่ชายแดน โดยใช้แรงงานผู้มีรายได้น้อยเข้ามาทำหน้าที่เสี่ยงแทนตัวการใหญ่ ซึ่งมักหลบอยู่หลังฉากและติดต่อผ่านช่องทางโซเชียลหรือแอปเข้ารหัส
พล.ต.ท.วัฒนา ยี่จีน ระบุว่า การจับกุมครั้งนี้เป็นเพียง “ยอดภูเขาน้ำแข็ง” ของขบวนการขนยาเสพติดข้ามภาค โดยขณะนี้ตำรวจกำลังเร่งตรวจสอบแหล่งพักยาและเส้นทางการเงินที่เกี่ยวข้อง รวมถึงตรวจสอบความเชื่อมโยง กับขบวนการค้ายาระดับภูมิภาคที่อาจใช้ประเทศไทยเป็นเส้นทางผ่าน
มีรายงานว่ารถกระบะที่ใช้ขนไอซ์อาจผ่านการดัดแปลงหลายส่วน ทั้งเสริมคอกบังตา และทำช่องลับตามสไตล์เครือข่ายขนยายุคใหม่ที่พัฒนาเทคนิคหลบหนีการตรวจค้นอย่างต่อเนื่อง เจ้าหน้าที่เตรียมประสานผู้เชี่ยวชาญ ตรวจสอบทางนิติวิทยาศาสตร์ เพื่อเก็บหลักฐานเชื่อมโยงไปยังผู้บงการ
ปฏิบัติการนี้สะท้อนให้เห็นว่า เครือข่ายค้ายาเสพติดกำลังใช้ เส้นทางการค้า–การเกษตร เป็นเกราะกำบัง ทำให้การตรวจค้นยากขึ้น เพราะต้องคำนึงถึงผู้ประกอบการจริงที่สัญจรทุกวัน ขณะเดียวกันการขนยาในปริมาณใหญ่ ระดับเกือบ 700 กก. บ่งบอกว่า ขบวนการกำลังเร่งผลักดันสินค้าเข้าพื้นที่เมืองอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นสัญญาณเตือนภัยสำคัญต่อสังคมไทย
ตำรวจภาค 1 ยืนยันว่าจะใช้ข้อมูลจากครั้งนี้ขยายผลแบบ “ถอนรากถอนโคน” เป้าหมายไม่ใช่เพียงคนขับหรือผู้ดูเส้นทาง แต่ต้องไปถึงกลุ่มสั่งการและผู้ลงทุนเบื้องหลัง เพื่อไม่ให้ประเทศไทยกลายเป็นทางผ่านของสารเสพติดระดับภูมิภาค
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews





