เพื่อไทย ซักฟอก วัดใจ “ภูมิใจไทย-ประชาชน”

พรรคเพื่อไทย ส่งสัญญาณชัดๆ เข้มๆ ไปถึงรัฐบล “อนุทิน ชาญวีรกุล” และพรรคภูมิใจไทยแล้ว ว่าเปิดสมัยประชุมหน้า ในเดือนธันวาคม จะมีการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ พร้อมยังยืนยันด้วยว่า “จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์” ได้ประสานกับทางพรรคประชาชน เรียบร้อยแล้ว

 

ส่วนตัวบุคคล หรือประเด็นที่ซักฟอก แม้จะยังไม่สมบูรIN 100% แต่ตัว “นายกฯอนุทิน” คือเป้าหมาหลักในฐานะผู้นำสูงสุด ที่จะต้องรับผิดชอบในการ[บริหารงานที่ผิดพลาด ล้มเหลวของรัฐบาล ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสแกมเมอร์ ทุนเทา และน้ำท่วม

 

การที่พรรคเพื่อไทย จะยื่นซักฟอก รัฐบาลเสียงข้างข้อยของ”อนุทิน” ที่มี พรรคประชาชน คอยค้ำยัน เพราะมี MOA เป็นตัวผูกมัด และมีเรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญ เป็นตัวประกัน ถือเป็นเกมวัดใจ ที่จะส่งผลต่ออนาคต ทางการเมืองของทั้ง 3 พรรค ในการที่จะไปต่อสู้กันต่อในสนามเลือกตั้ง หากมีการประกาศยุบสภา ตามกำหนด 31 มกราคม 2569 หรือ ก่อนหน้านั้นเป็นอย่างมาก เพราะหากเพื่อไทยยื่น อภิปรายชัดเจน หลักฐานเป็นที่ประจักษ์

 

แต่พรรคประชาชน ยังอุ้มรัฐบาล เพราะยึด MOA ทั้งสีน้ำเงิน และส้ม ก็จะเสียรังวัด เสียมวลชน แต่หาก ส้มเลือกที่จะไม่อุ้ม ไปหนุนเพื่อไทย ก็จะถูกมองเสียสัตย์ไม่รักษาสัญญา ดังนั้น พรรคประชาชน มีแต่เสียกับเสีย ในกรณี ปล่อยให้เพื่อไทย ยื่นซักฟอก

 

ส่วนภูมิใจไทย ทางเลือกมีไม่มาก จะรักษาสัญญา หรือจะเบี้ยว MOA ก็คงไม่ต่างกันมาก เพราะเวลานี้ สะสมกำลัง เตรียมพร้อมลงสนามเลือกตั้ง น่าจะมีความพร้อมที่สุดแล้ว และ”อนุทิน” ก็เคยส่งสัญญาณ ว่าจะไม่ยอมให้ใครมาด่าฟรี

 

หากว่ากันตามหลักการ กลไกของสภา รัฐบาลเสียงข้างน้อยของ”อนุทิน” มีเสียงในสภา ประมาณ 150-160 เสียงเท่านั้น ไม่สามารถที่จะต่อสู้ในการโหวต ลงมติไม่ไว้วางใจได้เลย หากมีการยื่นซักฟอกจริงๆ ไม่ว่า เพื่อไทย ที่มีเหลือประมาณ 120-130 เสียง เป็นฝ่ายยื่น ตามที่ส่งสัญญาณมา หรือพรรคประชาชน ที่มี 141 เสียง เป็นฝ่ายยื่น ตามที่ สส.บางคนประกาศเงื่อนไขเอาไว้ รัฐบาลของ “นายกฯหนู” ไปต่อไม่ได้แน่นอน แต่ขอย้ำนั่นคือกรณียื่นซักฟอกจริงๆ ไม่ใช่แค่ขู่ แล้วซูเอี๋ย ตีกินกันทางการเมือง

 

แต่หากมองไปที่ MOA ระหว่าง พรรคส้ม กับ สีน้ำเงินนั้น เรื่องสำคัญ ที่ 2 ฝ่ายผูกมัดกันไว้ คือ แก้ไข รัฐธรรมนูญ และ การยุบสภา ใน 4 เดือน ซึ่ง “รัฐบาลนายกฯหนู” ก็ทำได้ตามข้อตกลงมาตลอด แก้ไขรัฐธรรมนูญ เดินหน้าตามขั้นตอนของสภา และเนื้อหาหลายอย่างก็เป็นไปตามที่พรรคประชาชนต้องการ

 

ส่วนเรื่องยุบสภา ก็ประกาศไทม์ไลน์มาแล้ว ไม่ขัดกับ MOA เลย พรรคประชาชน ไม่น่าจะมีเหตุและผล เพียงพอที่จะฉีก MOA แม้ว่าการบริหารราชการแผ่นดิน จะมีเรื่อง “สแกมเมอร์โยงทุนเทา” ที่มีความเกี่ยวข้องกับบุคคลในรัฐบาล ซึ่งมาจากพรรคร่วม ที่อาจจะมีน้ำหนัก ในการที่จะไม่ไว้วางใจรัฐบาลสีน้ำเงิน หากเพื่อไทยเป็นฝ่ายยื่นญัตติ เพราะ สส.พรรคส้ม ติดตามเรื่องนี้มาอย่างใกล้ชิด

 

ท่าทีของ”ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ” ผู้นำพรรคส้ม ยังคงแบ่งรับแบ้งสู้ ว่าจะร่วมซักฟอก กับพรรคเพื่อไทย หรือไม่ มีการตั้งเงื่อนไขง่ายๆให้รัฐบาล ต้องเปิดสภาสมัยวิสามัญเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ
ให้เดินหน้ามากยิ่งขึ้น หากไม่เปิด ก็จะยื่นญัตติไม่ไว้วางใจ ซึ่งสอดรับท่าทีของรัฐบาล

 

โดย”ภราดร ปริศนานันทกุล” ผู้ประสานงานระว่างรัฐบาลกับสภา ก็ยืนยันชัดเจนว่าพร้อมที่จะเปิดวิสามัญได้ ทำให้เงื่อนไขของพรรคประชาชน ไม่น่าจะมีผลต่อรัฐบาล ส่วนบทสรุปว่า ก่อนที่นายกฯอนุทิน จะยุบสภา ตามไทม์ไลน์ จะมีการ ยื่นซักฟอก หรือไม่ เป็นการวัดใจ พรรคเพื่อไทย มากกว่า

 

เพราะการที่ ประกาศตัวเป็นฝ่ายค้านตัวจริง จะทำอะไรได้จริงจังมากน้อยเพียงใด ล้มรัฐบาลได้ หรือไม่ได้ ไม่น่าจะมีผลมากนัก แต่น่าจะมีผลต่อการพลิกเกม ฟื้นคะแนนนิยมของตัวเอง หรือเปิดแผลคู่ต่อสู้ ทั้งส้ม และน้ำเงิน ก่อนไปสู้กันใหม่ในศึกเลือกตั้งในอนาคตมากกว่า..

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews