กกต.เตือนพรรคไหน เตรียมเลือกตั้ง ทำผิดระวังโทษหนัก
กกต.เข้ม! เตือนทุกพรรคเลือกตั้งรอบใหม่ต้องโปร่งใส ผิดกฎเสี่ยงโทษหนักถึงยุบพรรค
จากการที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง มีหนังสือกำชับไปยังพรรคการเมืองต่างๆ ปฏิบัติตามข้อกฏหมายอย่างเคร่งครัด ในการเตรียมความพร้อมเข้าสู่การเลือกตั้ง ที่จะมีขึ้นในต้นปีหน้า ตามที่ “นายกฯอนุทิน ชาญวีรกุล”ประกาศไทม์ไลน์ ยุบสภาเอาไว้นั้น พร้อมกับขู่ พรรคไหนทำผิดระวังโทษหนัก ทั้งโทษปรับ จำคุก และเพิกถอนสิทธิ แสดงว่า พบอะไรที่เป็นพิรุธ หรือ พรรคไหน มีการกระทำการที่หมิ่นเหม่ สุ่มเสี่ยง และต้องการเตือนพรรคไหนเป็นพิเศษหรือไม่
ก่อนหน้านี้ มีการตั้งข้อสังเกตุ กล่าวหา เกี่ยวกับเรื่องจำนวน และการรับสมัครสมาชิกของพรรคกล้าธรรม กระทั่งมีการตอบโต้กลับไปยังพรรคประชาชนว่า มีการใช้เงินของผู้ช่วย สส.จ่ายเป็นค่าสมัคร ของสมาชิกพรรค และกลายเป็นคดี มีการร้องให้ กกต.ตรวจสอบและดำเนินการตามกฏหมาย โทษหนักถึงขั้นยุบพรรค ซึ่งไม่รู้ว่า คำเตือนดังกล่าว จะเป็นการส่งสัญญาณไปยังทั้ง 2 พรรค หรือเป็นการเตือนให้ทุกพรรคต้องอยู่ในกรอบทั่วไป เหมือนครั้งก่อนๆ
ประเด็นหลักที่ กกต.กำชับไว้ มี 5 เรื่องสำคัญ ประกอบด้วย
1.การหาสมาชิกพรรคการเมือง ต้องให้เป็นไปตามกฎหมายพรรคการเมืองและข้อบังคับของพรรคการเมืองอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะห้ามมิให้ พรรคการเมือง หรือผู้ใด ให้ เสนอให้ หรือสัญญาว่าจะให้เงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใด ไม่ว่าโดยทางตรงหรือโดยทางอ้อม หากพรรคการเมืองใดกระทำการดังกล่าว จะเป็นเหตุให้พรรคการเมืองนั้นถูกยุบได้ นายทะเบียน สมาชิกจัดทำทะเบียนสมาชิกอันเป็นเท็จ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
และให้ศาลเพิกถอน สิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นมีกำหนด 5 ปี
2.การจัดตั้งสาขาพรรคการเมือง และการแต่งตั้งตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัด ต้องแจ้งการจัดตั้งสาขาพรรคการเมือง และการแต่งตั้งตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัด แก่นายทะเบียนพรรคการเมืองทราบภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด หากไม่ปฏิบัติ ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 50,000 บาท และปรับอีกวันละ 1,000 บาท ตลอดระยะเวลา ที่ยังมิได้ปฏิบัติให้ถูกต้อง
3.การสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หรือไไพรมารีโหวต ต้องเป็นไปตามมาตรา 49 มาตรา 50 และมาตรา 51 พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560 และที่แก้ไขเพิ่มเติม และประกาศคณะกรรมการการเลือกตั้ง ไม่ปฏิบัติตาม ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน และปรับไม่เกิน 10,000 บาท และให้ศาล สั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งเป็นเวลา 5 ปี และหัวหน้าพรรคการเมืองผู้ใดออกหนังสือรับรอง ผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรอันเป็นเท็จ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งมีกำหนด 5 ปี
4.การกำหนดนโยบายของพรรคการเมืองที่ใช้ในการประกาศโฆษณา พรรคต้องดำเนินการ ตามมาตรา 57 พ.ร.ป.ว่าด้วย พรรคการเมือง พ.ศ.2560 และที่แก้ไขเพิ่มเติม หากไม่ปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎหมาย ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 500,000 บาท และปรับอีกวันละ 10,000 บาท ตลอดระยะเวลาที่ยังมิได้ปฏิบัติให้ถูกต้อง
5.การควบคุมและกำกับดูแลสมาชิกพรรคการเมือง คณะกรรมการบริหารพรรค และกรรมการบริหารพรรค ต้องเป็นไปตามมาตรา 22 พ.ร.ป.รัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มิให้กระการใดๆ ที่อาจทำให้การเลือกตั้ง มิได้เป็นไปโดยสุจริต หรือเที่ยงธรรม ไม่ชอบด้วยกฎหมาย อันเป็นการฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ และกฎหมาย หากคณะกรรมการบริหารพรรคการเมืองไม่ปฏิบัติตามบทบัญญัติดังกล่าว จะเป็นเหตุให้คณะกรรมการบริหารพรรคการเมืองนั้น พ้นจากตำแหน่งทั้งคณะ และห้ามมิให้กรรมการบริหารพรรค การเมืองซึ่งพ้นจากตำแหน่งเพราะเหตุดังกล่าว ดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมืองจนกว่าจะพ้นเวลา 20 ปี
หลังจากนี้ ทุกพรรคการเมือง คงต้อง ระมัดระวัง และเข้มงวดเป็นพิเศษ ในการเตรียมพร้อมเลือกตั้ง ต้องไม่พลาด ตกม้าตายไปก่อน เพราะ กกต. ได้ส่งสัญญาณเตือนมาแล้ว ว่าการเลือกตั้งครั้งหน้า ต้องสุจริต โปร่งใส และยุติธรรม
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews





