วิบากกรรม “พรรคส้ม” เงินผู้ช่วย สส. ส่อบานปลาย

ก่อนหน้านี้ บรรดา สส.ดาวรุ่งไฟแรง และแกนนำพรรคประชาชน ต่างขุดคุ้ย แฉข้อมูล ส่อทุจิต หรือความผิดของฝ่ายตรงข้าม สร้างคะแนนนิยมให้พรรคได้ไม่น้อย

 

แต่ล่าสุด “วงล้อแห่งกรรม” กำลังย้อนคืน เมื่อ”ไผ่ ลิคก์” สส.กำแพงเพชร และเลขาธิการพรรคกล้าธรรม ออกมาแฉว่า “เอาเงินผู้ช่วย สส. ไปสมัครสมาชิกพรรคการเมืองผิดนะครับ แล้วเอาแค่ชื่อมาเป็นผู้ช่วย สส. และไม่ให้ทำงานเรียกบัญชีม้านะครับ”

 

ก่อนจะแฉต่อว่า “พรรคประชาชน นำเด็ก ม.6 มาเป็นผู้ช่วย สส. รับเงินเดือนจากภาษีประชาชน” กลายเป็นประเด็นร้อน และอาจกลายเป็นปัญหาใหญ่ของพรรคส้ม ที่กำลังเดินหน้าเตรียมความพร้อมเข้าสู่สนามเลือกตั้ง เพื่อผลักดัน “ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ” เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 33

 

เท่านั้นยังไม่พอ “สส.ไผ่”ยังโพสต์ภาพเอกสารที่ “ทันกวินท์ รัฐวัฒก์อังกูร”ยื่นต่อนายทะเบียนพรรคการเมือง ขอให้อายัดบัญชี “พรรคประชาชน”และดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดตามพระราชบัญญัติป้องกัน และปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 โดยผู้ร้อง ได้ขอให้ยื่นศาลรัฐธรรมนูญเพื่อสั่งยุบพรรคประชาชน ด้วยฐานความผิด ตามกฏหมายพรรคการเมือง มาตรา 92

 

“ศรายุทธ์ ใจหลัก” เลขาธิการพรรคประชาชน เป็นคนแรกที่ออกมาชี้แจงในประเด็นเงินเดือนผู้ช่วย สส.จ่ายค่าสมัครสมาชิกพรรค ตามติดมาด้วย”วิโรจน์ ลักขณาอดิศร” สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรค ยืนยันว่าพรรคไม่มีนโยบายเช่นนั้น แต่ถ้าเป็นความบกพร่องส่วนบุคคล พรรคก็ต้องรับไว้แก้ไข

 

ก่อนที่ “รังสิมันต์ โรม” สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคอีกคน ก็ได้ยืนยันซ้ำอีกเสียง ว่าพรรไม่เคยสั่งให้ใคร นำเงินเดือนผู้ช่วย สส.ไปจ่ายค่าสมัครสมาชิก พร้อมแสดงความคิดเห็นว่า หากมีปัญหา ก็ควรว่ากันไปเป็นรายกรณี พร้อมตั้งข้อสังเกตุการกระทไของ “สส.ไผ่” เป็นการดิสเครดิต เพื่อเบี่ยงประเด็นการตรวจสอบทุนเทา

 

เกี่ยวกับประเด็นดังกล่าว กกต. ก็ออกมาเด้งรับทันที “แสวง บุญมี” เลขาธิการ กกต.ระบุว่า กกต. อยู่ระหว่างการตรวจสอบกรณีที่มีการกล่าวหาว่า มีการหักเงินเดือนผู้ช่วย สส. เพื่อนำไปจ่ายเป็นค่าสมาชิกพรรค โดยย้ำเกี่ยวกับเรื่องข้อกฏหมายว่า “การจ่ายเงินเพื่อสมัครสมาชิกพรรคโดยมิชอบ เป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย และการกระทำดังกล่าวอาจเป็นการ เบี่ยงเบนประเด็นจากเรื่องผลประโยชน์ของชาติ”

 

“สมชัย ศรีสุทธยากร” อดีตกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ว่า เป็นข้อๆ ว่า “เงินสมัครสมาชิกพรรค คนของพรรคออกให้ แทนประชาชนได้หรือไม่ คำตอบ คือ ไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นค่าสมาชิกรายปี ๆ ละ 20 บาท หรือตลอดชีพ 200 บาท เพราะถือเป็นการเสนอให้เงิน เพื่อจูงใจให้เป็นสมาชิกพรรค แม้ 20 บาท ก็ผิดพ.ร.ป.พรรคการเมือง

 

พร้อมอธิบายต่อว่า “เงินเดือนผู้ช่วย สส. บริจาคให้พรรคหมด ทำได้หรือไม่” คำตอบ คือ ทำได้ แต่ต้องเป็นช่องทางที่เปิดเผย และแสดงในบัญชีการเงินของพรรคในรายการเงินบริจาค ที่รายงานต่อ กกต. ทุกเดือนด้วย หากบริจาคแต่ไม่ปรากฏในบัญชี ก็ถือว่าพรรคมีความผิด

 

ก่อนทิ้งท้ายว่า ทั้งสองกรณีหากมีความผิด มีบทลงโทษ คือ เป็นความผิดทางอาญา ที่ กกต. สามารถเอาผิดต่อผู้เกี่ยวข้องได้ แต่ไม่ถึงขนาดยุบพรรค ยกเว้นกรณีการบริจาคมีการพิสูจน์ว่า เงินที่บริจาค เป็นเงินที่ได้มาโดยรู้ หรือสมควรจะรู้ว่าได้มาโดยมิชอบด้วยกฎหมาย

 

ดังนั้นจะเห็นได้ว่า กรณีของพรรคประชาชน ที่กำลังเตรียมเข้าสู่สังเวียนเลือกตั้ง ในต้นปีหน้า โดยมีเป้าหมาย กวาด 250 สส. กำลังเผชิญกับข้อกล่าวหาที่ค่อนข้างหนักหนาพอสมควร มีคนร้องให้ยุบพรรค ส่วนขั้นตอน จะเกิดขึ้นรวดเร็วมากน้อยเพียงใด เป็นเรื่องของกระบวนการ มีความพยายามผูกโยงว่า คดี”ฮั้ว สว.” ที่เกี่ยวข้อกับพรรคน้ำเงิน อะไรก็ช้าไปหมด แต่กับคดีของส้ม จะรวดเร็วปานสายฟ้าฟาดไปถึงไหน ….

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews