นายกฯ-กองทัพ ขอประชาชนเชื่อมั่น ลั่นพร้อมรบหากเขมรเบี้ยว
นายกฯ ขอประชาชนมั่นใจกองทัพหลังทหารไทยขนอาวุธชายแดนไทย-กัมพูชา กลับลพบุรี เชื่อผู้บัญชาการทหารสูงสุดและผู้บัญชาการทหารบก รู้ว่าต้องปกป้องประเทศอย่างไร หากกัมพูชา ไม่ทำตามข้อตก หรือฉีกสัญญา ไทยพร้อมดำเนินตามความเหมาะสม ด้านโฆษกฝ่ายความมั่น ยืนยันเราไม่ได้มีการถอนกำลังคนหรือขีดความสามารถในการป้องกันประเทศ
หลังจากเริ่มแผนปฏิบัติการ (Action plan) ปรับกำลังและถอนอาวุธหนัก ตามผลการประชุม GBC สมัยพิเศษ ครั้งที่ 2 ทั้งสองฝ่ายเห็นชอบ ในให้วันที่ 1 พ.ย.ที่ผ่านมา โดยปรับอาวุธ ประเภทจรวดหลายลำกล้อง ออกจากพื้นที่ชายแดน ไทย-กัมพูชา ทำให้ประชาชนเกิดความไม่สบายใจ
และเป็นกังวลว่าหากกัมพูชาไม่ปฏิบัติตามข้อตกลงจะทำให้เคลื่อนย้ายยุทโธปกรณ์กลับไม่ทัน ทางนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า พลเอกอุกฤษณ์ บุญตานนท์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และพลเอกพนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก รู้ว่าเขาต้องปกป้องประเทศอย่างไร พร้อมขอให้ประชาชนเชื่อมั่นในกองทัพ
ส่วนที่มีกระแสข่าวว่าทางกัมพูชาได้ขนอาวุธหนักกลับมาในพื้นที่ชายแดนนั้น นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า ขณะนี้ต่างฝ่ายต่างถอยออกไป และไม่ทราบว่าข่าวนี้มาจากไหน เพราะข้อตกลงที่ทำไว้คือ ต่างคนต่างถอนอาวุธ ถ้าเข้ามาคือการฉีกข้อตกลง และจะถือว่าไม่มีข้อตกลง และสามารถทำตามที่เราเห็นว่าเหมาะสม
ด้านฝ่ายความมั่นคง พลเรือตรี สุรสันต์ คงสิริ โฆษกกระทรวงกลาโหม ได้แถลงยืนยันกรณีที่ประชาชนมีความกังกลเรื่องการถอนอาวุธออกจากพื้นที่ ว่า เป็นแค่การถอนอาวุธหนักเท่านั้น โดยกองกำลังป้องกันชายแดน ยังมีการวางกำลังอยู่ในเช่นเดิม ไม่มีการถอนกำลังแต่อย่างใด
โดยกำลังพลที่ปฏิบัติหน้าที่ตามแนวชายแดนยังคงปฏิบัติหน้าที่เช่นเดิม ดังนั้น ขอให้ประชาชนมั่นใจ เรายังคงปกป้องอธิปไตยของประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง โดยไม่ได้มีการถอนกำลังคนหรือขีดความสามารถใดๆ
ขณะที่ พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ชี้แจงว่า แม้เราจะถอนอาวุธหนัก ประเภทระยะยิงไกล ออกมาก่อน เนื่องจากเกิดผลกระทบต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน โดยมีการ ประสานกับในพื้นที่อย่างใกล้ชิดอยู่แล้ว ซึ่งชาวบ้านก็รู้จึงเชื่อว่าจะ ไม่ตื่นตระหนกในการเคลื่อนย้ายยุทธโธปกรณ์และมีความเชื่อมั่นเพราะเจ้าหน้าที่ไม่ได้ไปไหน
มีการเปลี่ยนแค่หน่วยที่ อยู่ระยะหลังจากหน้าแนวชายแดนเท่านั้นซึ่งไม่กระทบอะไร แต่ยืนยันว่า หากเกิดปัญหาทางกัมพูชา ไม่ทำตามสัญญาเรื่องข้อตกลง กองทัพบก จะสามารถ เคลื่อนย้ายอาวุธกลับเข้าพื้นที่ได้ทัน
ส่วนกรณีมีกระแสข่าวฝ่ายกัมพูชาขัดขวางไม่ให้ AOT เข้าสังเกตการณ์เก็บกู้ทุ่นระเบิดที่ช่องสายตะกู จ.บุรีรัมย์ ว่า จากการตรวจสอบศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติหรือ TMAC ได้เดินหน้าปฏิบัติตามแผน แม้ฝ่ายกัมพูชายังอยู่ระหว่างรอคำสั่งจากหน่วยเหนือ
พลตรีวินธัย ยังตอบถึงกรณีที่กัมพูชา พยายามกดดันให้มีการปล่อยตัว ทหาร ทั้ง 18 คน ว่า เงื่อนไขยังไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม ตาม 4 ข้อที่ให้ไว้ หากมีการแสดงออกถึงความตั้งใจ ความจริงใจ ทำให้ระดับของการเป็นปฏิปักษ์ต่อกันลดลงก็ถือว่าเข้าเงื่อนไข สามารถทำได้
และช่วงนี้อยู่ระหว่างการพิจารณา ส่วนที่มีข่าวว่าจะคืนเชลยศึกทั้ง 18 คน ในสัปดาห์หน้า เป็นเรื่องจริงหรือไม่ พลตรีวินธัย ระบุว่า ต้องติดตามกันต่อไป
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews





