Home
|
คลิปข่าวทั่วไป

“อนุทิน” ยก “กัน จอมพลัง” ตัวอย่างพลังร่วมรักษาชาติ

ในห้วงเวลาที่สถานการณ์ชายแดนไทยกลับมาเป็นประเด็นร้อนอีกครั้ง ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึงความจำเป็นในการใช้งบประมาณด้านความมั่นคง

 

โดยเฉพาะการจัดซื้อยุทโธปกรณ์ของกองทัพ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ออกมาแสดงมุมมองที่ต่างออกไป เขามองว่า นี่คือช่วงเวลาที่ “หัวใจของคนไทยได้พิสูจน์ให้เห็นถึงพลังความร่วมมือของภาคประชาชน ที่ยืนเคียงข้างประเทศชาติอย่างแท้จริง

 

นายอนุทินกล่าวถึงกรณีที่ “กัน จอมพลัง” หรือกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ บุคคลสาธารณะผู้เป็นที่รู้จักจากบทบาทการช่วยเหลือสังคม ได้ออกมาระดมทุนและจัดส่งสิ่งของบรรเทาทุกข์ให้แก่ประชาชนในพื้นที่ชายแดน ซึ่งได้รับผลกระทบจากเหตุปะทะตามแนวชายแดน โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวชัดว่า “นี่คือสิ่งดีที่สะท้อนน้ำใจแบบไทย ๆ” และเป็นสิ่งที่ควรได้รับการสนับสนุน ไม่ใช่การตั้งข้อครหา

 

เขากล่าวว่า งบประมาณของกระทรวงกลาโหม ถือเป็นงบหลักของประเทศที่ต้องใช้เพื่อการเตรียมพร้อมของชาติ แต่ในขณะเดียวกัน ผมก็เห็นว่าการที่ประชาชนลุกขึ้นมาช่วยกัน เป็นอีกพลังหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน เพราะประชาชนคือแนวหน้าในเชิงมนุษยธรรม และเป็นฟันเฟืองสำคัญในการรักษาอธิปไตยของเรา”

 

นายกรัฐมนตรีได้ยกตัวอย่างเหตุการณ์ที่จังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งมีการจัดตั้งศูนย์อพยพเพื่อรองรับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุสู้รบ โดยประชาชนจากหลายจังหวัดต่างช่วยกันระดมสิ่งของ อาหาร น้ำดื่ม และทุนทรัพย์ บางคนเดินทางมาช่วยอาสาด้วยตนเอง

 

ขณะที่ภาคเอกชนบางส่วนก็เข้ามาร่วมสนับสนุนอย่างเต็มกำลัง จนพื้นที่ศูนย์อพยพกลายเป็นภาพของความร่วมมือระหว่างรัฐ ภาคเอกชน และประชาชน ที่สะท้อนหัวใจ “ไม่ทอดทิ้งกัน” อย่างแท้จริง

 

นายอนุทิน ยังระบุเพิ่มเติมว่า รัฐบาลพร้อมเปิดกว้างรับฟังความคิดเห็นจากทุกฝ่าย ทั้งในมิติของการใช้จ่ายงบประมาณและแนวทางเสริมความมั่นคง เขาย้ำว่า “เรามีหน้าที่สร้างความมั่นใจให้ประชาชนว่า ประเทศไทยมีศักยภาพในการดูแลตัวเอง ขณะเดียวกันก็ต้องไม่ลืมว่าพลังของประชาชนคือรากฐานสำคัญที่สุดของความมั่นคง เมื่อคนในชาติเข้มแข็ง ประเทศก็มั่นคง”

 

ด้านแหล่งข่าวจากกองทัพบกเปิดเผยว่า ในหลายพื้นที่ชายแดน ขณะนี้มีประชาชนและเครือข่ายอาสาสมัครเข้ามามีบทบาทในการช่วยประสานงานส่งสิ่งของและข้อมูลกับเจ้าหน้าที่รัฐอย่างต่อเนื่อง ซึ่งช่วยลดภาระและเพิ่มความคล่องตัวให้กับหน่วยงานในพื้นที่ ถือเป็นตัวอย่างของ “การทำงานร่วมกันแบบภาคประชาชน” ที่มีประสิทธิภาพ

 

นอกจากนี้ การที่บุคคลสาธารณะอย่าง “กัน จอมพลัง” เข้ามามีบทบาทช่วยเหลือประชาชนในภาวะวิกฤต ยังสะท้อนถึงพลังของสื่อใหม่ในยุคดิจิทัล ที่สามารถระดมความร่วมมือและกระจายความช่วยเหลือได้อย่างรวดเร็ว ทำให้เสียงของประชาชนในพื้นที่ห่างไกลถูกส่งต่อสู่สังคมวงกว้างได้มากขึ้น

 

ในช่วงท้าย นายอนุทินกล่าวย้ำว่า รัฐบาลไม่ได้มองว่าการเข้ามาช่วยของภาคประชาชนเป็นการทับซ้อนกับภารกิจของรัฐ แต่กลับเห็นว่าเป็น “พลังเสริม” ที่ช่วยเติมเต็มกันและกัน เพราะความมั่นคงไม่ได้หมายถึงเพียงกำลังทหารหรืออาวุธยุทโธปกรณ์เท่านั้น หากแต่หมายถึง ความมั่นคงของหัวใจคนไทย ที่พร้อมยื่นมือช่วยเหลือกันในทุกสถานการณ์

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube