DE ลุยสงครามไซเบอร์ จับตา Simbox ตรวจสอบนักการเมืองพัวพันสแกม
วันนี้ ที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ บรรยากาศการประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ครั้งที่ 7/2568 เพื่อหาทาง “ปิดช่องโหว่” ของอาชญากรรมไซเบอร์ที่กำลังระบาดทั่วประเทศ
การประชุมครั้งนี้ถือเป็นครั้งสำคัญ เพราะเน้นไปที่การจัดการ “Simbox” อุปกรณ์ที่มักถูกขบวนการสแกมเมอร์ใช้เปลี่ยนสัญญาณโทรศัพท์เป็นช่องทางโทรหลอกเหยื่อ โดยกระทรวงดีอีเอสได้ประสานข้อมูลกับกรมศุลกากร เพื่อตรวจสอบเส้นทางการนำเข้า
ทั้งแบบสำเร็จรูปและแยกชิ้นส่วน พร้อมเสนอให้ออก ประกาศกระทรวงควบคุมการนำเข้า-จำหน่าย Simbox อย่างเข้มงวด ให้ต้องได้รับอนุญาตจากรัฐเท่านั้น
นอกจาก “เครื่องมือ” แล้ว รัฐยังเร่งจัดการที่ “ต้นทาง” คือระบบลงทะเบียนซิมการ์ด โดยเตรียมนำเทคโนโลยี Liveness Detection และระบบสแกนม่านตา มาใช้ยืนยันตัวตน เพื่อแก้ปัญหาซิมสวมรอย และป้องกันซิมจากมิจฉาชีพ ซึ่งถือเป็นการอุด “รูรั่วใหญ่” ของระบบเดิม
ขณะเดียวกัน ดีอีเอสยังได้ประสาน กว่า 60,000 ตู้ขายซิมทั่วประเทศ ให้ระงับการลงทะเบียนซิมที่หน้าตู้ชั่วคราว โดยให้ลูกค้านำซิมไปลงทะเบียนที่ศูนย์บริการแทน พร้อมกำหนดให้ผู้ขายต้องรายงานข้อมูลการขายและพื้นที่จำหน่ายให้ตำรวจทราบ เพื่อให้สามารถติดตามได้ หากซิมนั้นถูกนำไปใช้ในคดีอาชญากรรม
ด้าน พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เผยว่า แม้มาตรการเชิงรุกของตำรวจไซเบอร์เริ่มเห็นผล จำนวนคดีหลอกลวงออนไลน์เริ่มลดลง แต่ยังอยู่ในระดับสูง เฉลี่ยวันละ 1,000 เคส โดยกว่า 600 เคสเป็นการหลอกผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงข้อกล่าวหาที่ว่าตำรวจไม่ร่วมมือกับธนาคารและ กสทช. นายไชยชนกตอบชัดว่า “วันนี้ทุกหน่วยร่วมมือกันเต็มที่” พร้อมยืนยันให้ประชาชนดูจากผลงาน ไม่ใช่เสียงวิจารณ์ในอดีต
แต่ประเด็นที่ทำให้ห้องประชุมจับตา คือ นายไชยชนกยอมรับว่า ได้รับข้อมูลจาก นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ เกี่ยวกับรายชื่อนักการเมืองกว่า 7 คน ที่อาจพัวพันกับขบวนการสแกมเมอร์ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบอย่างละเอียด ร่วมกับตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
“หากใครมีข้อมูลเพิ่มเติม ส่งมาได้เลย ผมพร้อมเร่งตรวจสอบและดำเนินคดีโดยไม่ละเว้น
การประชุมในวันนี้จึงไม่ใช่เพียงแค่การหาชรือเชิงเทคนิค แต่คือ “จุดเริ่มต้นของสงครามครั้งใหม่” ระหว่างรัฐไทยกับอาชญากรรมไซเบอร์ ที่ทุกหน่วยงานต้องจับมือกันอย่างแน่นแฟ้น เพื่อปกป้องประชาชนจากภัยหลอกลวงออนไลน์ที่ซับซ้อนและเปลี่ยนรูปแบบอยู่ตลอดเวลา และถ้าทุกอย่างเป็นไปตามแผน… ปี 2569 อาจเป็นปีที่ “ประเทศไทยเอาชนะสแกมเมอร์” ได้อย่างแท้จริง.
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews





