“จุลพันธ์” หัวหน้าเพื่อไทยคนใหม่ “ประเสริฐ” รีเทิร์น เลขาฯ
เป็นไปตามคาด! มติพรรคเพื่อไทย เลือก “จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์” นั่งหัวหน้าคนใหม่ ได้รับเสียงโหวต 354 คะแนน พร้อมประกาศสู้ศึกเลือกตั้งครั้งหน้า
ยืนยัน เป็นหัวหน้าเพื่อไทย มีอำนาจเต็มในการบริหาร ยอมรับมีการถ่ายเลือด “ตระกูลชินวัตร” เพื่อการเปลี่ยนแปลง ส่วน 3 แคนดิเดตนายกฯ ต้องรอหารือก่อน ขณะ “ประเสริฐ จันทรรวงทอง” กลับมานั่งตำแหน่งเลขาธิการพรรคอีกครั้ง
การประชุมใหญ่วิสามัญประจำปีพรรคเพื่อไทย เพื่อเลือกหัวหน้าพรรค กรรมการบริหารพรรคเพื่อไทยชุดใหม่ และเลือกตั้งคณะกรรมการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้ง สส. พรรคเพื่อไทย ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคเพื่อไทย
โดยพรรคเพื่อไทยได้มีการปรับรูปแบบเป็นการประชุมภายใน ไม่มีการถ่ายทอดภาพและเสียงออกมา โดยหลังกระบวนการเสร็จสิ้น ได้มีการแถลงข่าวให้สื่อมวลชนได้รับทราบ
ทั้งนี้ กรรมการบริหารพรรคชุดใหม่มีทั้งหมด 29 คน โดยสส.พรรคเพื่อไทย ได้ลงมติเลือกหัวหน้าพรรคคนใหม่ คือ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ สส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย โดยมีผู้มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งหมด 369 คน ได้คะแนน 354 คะแนน และมีผู้ไม่ประสงค์ลงคะแนน 15 คน
ส่วนตำแหน่งรองหัวหน้าพรรค คือ นายชูศักดิ์ ศิรินิล, นายสรวงศ์ เทียนทอง, นางมนพร เจริญศรี,นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ, นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล, นายพงศ์กวิน จึงรุ่งเรืองกิจ นายจักรพงษ์ แสงมณี, นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์, นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล, นายเลิศศักดิ์ พัฒนชัยกุล,นายก่อแก้ว พิกุลทอง
ขณะที่ นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ได้รัยเลือกกลับมาเป็นเลขาธิการพรรคเพื่อไทยอีกครั้ง
ขณะเดียวกัน นายจุลพงษ์ ประกาศขอบคุณสมาชิกพรรคที่ไว้วางใจและมอบหมายภารกิจสำคัญให้ตนรับหน้าที่นำพาพรรคเดินหน้าต่อตลอดเวลากว่า 25 ปีที่ทำงานทางการเมืองร่วมกับพรรคเพื่อไทย ตั้งแต่ยุคไทยรักไทย พรรคผ่านทั้งความสำเร็จและอุปสรรคมากมาย
ทั้งการรัฐประหาร การยุบพรรค การตัดสิทธิ์ทางการเมือง และการต่อสู้บนท้องถนน แต่พรรคก็ยังคงยืนหยัดอยู่ได้ เพราะยึดมั่นใน “หัวใจคือประชาชน” ที่เป็นจิตวิญญาณของพรรคมาโดยตลอด
พร้อมกันนี้ ยอมรับว่า เสียงสะท้อนจากสังคมเรียกร้องให้พรรคเพื่อไทย “เปลี่ยน” และตนก็เห็นด้วย เพราะโลกและการเมืองไทยเปลี่ยนไปทุกวัน การยกเครื่องพรรคเพื่อไทยจึงไม่ใช่ทางเลือก แต่เป็น “ความจำเป็น” เพื่อให้พรรคกลับมาแข็งแกร่งและตอบโจทย์ยุคใหม่ได้จริง
เพราะเราผ่านทั้งความสำเร็จและบาดแผล สิ่งเหล่านั้นคือบทเรียนที่ต้องเรียนรู้ เราแบกรับความหวังของประชาชนกว่า 10 ล้านเสียง ที่ยังเชื่อมั่นในพรรคเพื่อไทย นี่คือแรงขับเคลื่อนสำคัญในการเดินหน้าของเรา
นายจุลพันธ์ ยอมรับว่า แม้กรรมการบริหารพรรคชุดนี้จะไม่มีคนในตระกูลชินวัตร แต่ “ชินวัตร” ก็เปรียบเหมือนคุณค่าทางใจ เพราะฉะนั้นอย่าหลอกตัวเองว่าพรรคไม่มีความเกี่ยวข้อง จึงถือเป็นการถ่ายเลือด เพื่อการเปลี่ยนแปลง ส่วน 3 แคนดิเดตนายกฯ ต้องรอหารือก่อน พร้อมยืนยัน ตนเป็นหัวหน้าพรรคที่มีอำนาจเต็มในการบริหารทุกอย่าง
ดังนั้น แม้ภารกิจนำพาพรรคเพื่อไทยกลับสู่การเป็นรัฐบาล จะไม่ใช่เรื่องง่าย แต่เชื่อในพลังของสมาชิกพรรคทุกคน และเชื่อมั่นในแรงสนับสนุนจากประชาชนทั่วประเทศ “เราจะร่วมกันพาพรรคเพื่อไทย กลับมาชนะการเลือกตั้งอีกครั้ง และนำพาประเทศไทยไปสู่อนาคตที่สดใส”
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews





