ตามหานักการเมือง ช. เอี่ยวแก๊งสแกมเมอร์เขมร
หลังจากเพจเฟซบุ๊กดัง อย่างเพจ “ท่านเปา” ได้โพสต์ข้อความ ในเชิงตั้งคำถาม ว่า มีนักการเมืองอักษรย่อ “ช” อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับเครือข่ายแก๊งสแกมเมอร์
รวมทั้ง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ออกมาเน้นย้ำข้อมูลเกี่ยวกับนักการเมือง ช. คนดังกล่าว ว่าเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการสแกมเมอร์กัมพูชา รับเงินจากสแกมเมอร์วันละเกือบ 10 ล้านบาท พร้อมเตือนให้เลิกยุ่งเกี่ยวและรับผลประโยชน์ จากกลุ่มแก๊งสแกมเมอร์เหล่านี้ ทำให้เกิดความสนใจในสังคมขึ้นมาทันที ว่า นักการเมือง ช. คนนี้ เป็นใคร
ล่าสุด นายไชยชนก ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวยืนยันว่า ตนเองไม่แน่ใจว่า นักการเมือง ช. ที่มีการพูดถึงกันอยู่ในขณะนี้ เป็นใคร แต่ไม่น่าใช่ “ไชยชนก” อย่างแน่นอน อย่างไรก็ตาม ตอนนี้อยู่ในกระบวนการการตรวจสอบ
ซึ่งตามที่นายกรัฐมนตรีได้บอกไว้ว่าให้ดำเนินการเต็มที่ “ต่อให้เป็นนายอนุทิน ก็ต้องจับ” ตนจึงเชื่อว่าจะส่งผลให้เจ้าหน้าที่กล้าจะดำเนินงานในทุกรูปแบบ
พร้อมย้ำว่า ส่วนตัวไม่กังวลว่า จะถูกร้องเรียน เพราะหากมีจริงก็สมควรต้องถูกร้องและดำเนินคดีอย่างเต็มที่ โดยตอนที่ตนเดินทางไปลงนามในอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการต่อต้านอาชญากรรมไซเบอร์ ที่กรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม ตนก็ได้ประกาศออกไปในเวทีโลกว่า เราจะดำเนินการตามกฎหมายในเรื่องนี้อย่างเคร่งครัด
โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่รัฐ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดังนั้นจะต้องรวมถึงฝ่ายการเมืองด้วย แต่ส่วนที่กังวลคือจะสามารถเข้าไปถึงต้นตอและเจอทั้งหมดได้หรือไม่ แต่เรื่องนี้ไม่ว่าจะอยู่ฝ่ายการเมืองหรือฝ่ายอื่นก็เป็นเรื่องที่ต้องกังวลอยู่แล้ว
ส่วนเรื่องนี้จะถูกนำไปร้องเรียน และจำเป็นต้องมีการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดใหม่นั้น นายไชยชนก ระบุว่า ตนไม่แน่ใจว่าจะต้องปรับ ครม. ชุดใหม่หรือไม่ แต่หากต้องรีเซ็ตก็ต้องรีเซ็ต เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ใหญ่กว่าเราทุกคน ใหญ่กว่า ครม. และใหญ่กว่ารัฐบาล เพราะเป็นวาระแห่งชาติ
ซึ่งเราได้รับรายงานมาเสี้ยวเดียว จากความเสียหายจริง และยังมีประชาชนอีกเยอะที่ไม่ได้รายงานมา เพราะไม่รู้ว่าถูกโกง หรือรู้แล้วแต่ยอมรับชะตากรรม เพราะเชื่อว่าไม่สามารถจะต่อสู้ได้
ฉะนั้นความเสียหายจริงน่าจะมากกว่านี้เยอะ ถ้าเราสามารถหยุดเรื่องนี้ได้ เศรษฐกิจประเทศจะเป็นอย่างไร พร้อมกล่าวทิ้งท้ายว่า “เรื่องนี้มันใหญ่กว่าเราทุกคน ใหญ่กว่ารัฐบาล”
ทั้งนี้ ต้องจับตาดูว่า จากข้อมูลที่มีการเปิดเผย เกี่ยวกับนักการเมือง ช. เข้าไปเกี่ยวข้องกับแก๊งแสกมเมอร์ นั้น รัฐบาลจะมีท่าที ในการดำเนินการตรวจสอบ อย่างไรให้มีความโปร่งใส เพราะนายกรัฐมนตรี ยกเรื่องการปราบปราม แก๊งคอลเซ็นเตอร์ สแกมเมอร์ ให้เป็นวาระแห่งชาติ
เพราะสังคมยังคงเฝ้าติดตามการทำงานของรัฐบาล อย่างต่อเนื่องเช่นเดียวกับพรรคฝ่ายค้านอย่างพรรคประชาชน
นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร รองหัวหน้าพรรคประชาชน และ สส. บัญชีรายชื่อของพรรค ยืนยันพรรคประชาชนติดตามการทำงานของรัฐบาลและตรวจสอบอย่างเต็มที่ ล่าสุดกรณีสแกมเมอร์ และอาชญากรรมข้ามชาติ แก๊งค์หลอกลวงออนไลน์อยู่ในเป้าการจับตาอย่างใกล้ชิด
โดยยอมรับว่าเปิดรัฐสภาในสมัยประชุมหน้ ามีโอกาสอภิปรายไม่ไว้วางใจ ยืนยันที่จะใช้กลไก สส. และกลไกของกรรมมาธิการในการผลักดันเรื่องที่รัฐบาลควรดำเนินการให้ดำเนินการอย่างจริงจังมากขึ้น
โดยเฉพาะ ทั่วโลกและประชาชนให้ความสนใจการปราบปราม เครือข่ายแสกมเมอร์ การหลอกลวงออนไลน์ ที่ไม่ใช่ฉ้อโกง การฟอกเงินแต่เป็นการส่วนรวมของความชั่วร้ายของโลกพัวพันไปถึงการค้ามนุษย์และการกักกันใช้แรงงาน หรือการค้ามนุษย์ ที่เอาเหยื่อมาหลอกเหยื่อประเทศของตนเอง มองว่าเป็นการสร้างความเสียหาย มหาศาลให้ระดับโลกไม่ใช่วาระของประเทศ
แต่เป็นวาระของโลก ที่นายรังสิมันต์ โรม และตนเองจะมีการตรวจสอบเรื่องนี้ พยายามผลักดันให้รัฐบาลดำเนินการอย่างจริงจัง
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews





