ยังไม่ฟันธง! ยกเลิก MOU 43,44 ลงนามสันติภาพ คือจุดเริ่มต้นที่ดี
วันนี้กรรมาธิการศึกษาข้อดีข้อเสียยกเลิก MOU43-44 เพื่อแก้ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ของวุฒิสภา ยังไม่ฟันธงว่า ควรยกเลิกหรือไม่ ต้องรับฟังข้อมูลที่รอบด้าน ซึ่งข้อมูลจะเป็นประโยชน์ให้รัฐบาลตัดสินใจ
พร้อมมองว่า การลงนามปฏิญญาสันติภาพ ที่มาเลเซีย ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของทั้ง 2 ประเทศ โดยเชื่อว่า กัมพูชาไม่กล้าละเมิด เพราะมีประเทศมหาอำนาจ และ 11 ชาติอาเซียนเป็นสักขีพยาน
โดยความเคลื่อนไหวที่รัฐสภาวันนี้ มีการประชุมวุฒิสภา ซึ่งมีวาระพิจารณารายงานความคืบหน้าของคณะกรรมาธิการ พิจารณาศึกษาข้อดีข้อเสียการยกเลิก MOU 43-44 เพื่อแก้ไขปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา วุฒิสภา
จากนั้น นายนพดล อินนา สมาชิกวุฒิสภา ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ เปิดเผยความคืบหน้าว่า ขณะนี้ที่ประชุมยังไม่ได้ข้อสรุปว่าจะคงไว้หรือยกเลิก MOU ทั้งสองฉบับ เนื่องจากข้อมูลที่เกี่ยวข้องยังไม่ครบถ้วน
พร้อมย้ำว่า การตัดสินใจในเรื่องนี้ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ รอบด้าน เพราะทุกทางเลือกจะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ จึงต้องอาศัยข้อมูลที่เป็นข้อเท็จจริงและหลักวิทยาศาสตร์ ไม่ใช่ใช้อารมณ์ หรือความรู้สึกมาเป็นตัวตัดสินพร้อมระบุว่า หากจะคงอยู่ ปรับปรุง หรือยกเลิกจะต้องมีเหตุผลและแนวทางที่ชัดเจนให้รัฐบาลดำเนินการต่อได้ โดยเฉพาะในกรณีที่มีการยกเลิก ต้องไม่ขัดต่อกฎหมายระหว่างประเทศ
ส่วนกรอบเวลาการศึกษาขยายออกไปอีก 90 วัน หากเสร็จก่อนก็จะรายงานต่อวุฒิสภาทันที และระหว่างนี้ คณะกรรมาธิการจะเร่งเผยแพร่ข้อมูลให้ประชาชนเข้าใจ ทั้งข้อดีและข้อเสียของ MOU ทั้งสองฉบับ เพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจในอนาคต
สำหรับบรรยากาศในระดับภูมิภาคนายนพดล กล่าวถึงการลงนาม “ปฏิญญาสันติภาพไทย–กัมพูชา” ที่ประเทศมาเลเซีย เมื่อวานนี้ว่าถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการสร้างสันติภาพและเชื่อว่ากัมพูชาจะละเมิดข้อตกลงได้ยากขึ้นเพราะมีประเทศมหาอำนาจและอาเซียนกว่า 11 ประเทศร่วมเป็นสักขีพยาน
นายนพดล ยังมองว่า การลงนามปฏิญญาครั้งนี้ เป็นการตอกย้ำภาพลักษณ์ของไทยในเวทีโลกว่า ไทยยึดมั่นในแนวทางสันติ ไม่ต้องการความขัดแย้ง แม้ปฏิญญาจะไม่เกี่ยวข้องกับการทำประชามติ เรื่อง MOU โดยตรง แต่ถือเป็นสัญญาณที่ดีของความร่วมมือระหว่างสองประเทศ
ด้านพล.อ.สวัสดิ์ ทัศนา สมาชิกวุฒิสภา ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการทหารและความมั่นคงของรัฐ วุฒิสภา กล่าวถึงกรณี ฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ถ่ายทอดสดการย้ายยุทโธปกรณ์ และอาวุธหนักบางส่วน ของกองทัพกัมพูชา ว่า
ถ้าเป็นการถอนจริง ก็เป็นเรื่องที่ดี โดยเฉพาะตามแนวชายแดน เพื่อให้เกิดความสงบเรียบร้อย แต่ต้องไม่ไว้วางใจกัมพูชา เพราะต้องตรวจสอบให้ชัดเจน ทั้งนี้ กัมพูชาต้องทำตามข้อตกลง
ให้ครบทุกข้อ ไทยจึงจะปล่อย 18 เชลยศึก และที่สำคัญ กัมพูชาต้องทำด้วยความจริงใจและเกิดขึ้นจริงก่อน พร้อมมั่นใจว่าทหารในพื้นที่ ที่ดูแลอยู่ น่าจะไม่เสียเปรียบ
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
