“นายกฯหนู” ย้ำ 4 เงื่อนไขเจรจาเขมร-ไม่ตอบ “เดดไลน์ 10 ตค.”
นายกรัฐมนตรี เตรียมเดินทางเยือน สปป.ลาว วันที่ 16 ต.ค. ก่อนเข้าร่วมประชุมสุดยอดอาเซียน ที่มาเลเซีย ไม่ชัดว่าจะได้พบผู้นำกัมพูชาหรือไม่ ย้ำเงื่อนไข 4 ข้อที่กัมพูชาต้องปฏิบัติก่อนเจรจา ปัดตอบ “เดดไลน์ 10 ต.ค.” ไล่ชาวกัมพูชาออกจากพื้นที่
ย้ำต้องทำตามขั้นตอนกฎหมาย ยืนยันไทยไม่ได้ล่าช้า พร้อมตอบจดหมาย โดนัลด์ ทรัมป์ ที่เสนอตัวเป็นคนกลาง หากกัมพูชาทำตาม 4 ข้อ ไทยพร้อมร่วมเจรจาสันติภาพ
นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่าในวันที่ 16 ตุลาคมนี้ จะเดินทางเยือนสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) เพื่อหารือประเด็นความร่วมมือ ระหว่างสองประเทศ ก่อนจะเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน หรือ ASEAN Summit ที่ ประเทศมาเลเซีย
ส่วนความเป็นไปได้ในการพบผู้นำกัมพูชา นายอนุทิน ระบุว่า ฝ่ายไทยได้แจ้งเงื่อนไขไว้ 4 ข้อ ที่กัมพูชาต้องปฏิบัติให้ได้ก่อนการพูดคุย โดยเฉพาะการถอนอาวุธหนักออกจากพื้นที่ชายแดนและการแก้ปัญหาขบวนการสแกมเมอร์ รวมถึงคนกัมพูชาที่อาศัยอยู่ในไทยอย่างผิดกฎหมาย
สำหรับเรื่อง “เดดไลน์ 10 ตุลาคม” นั้น นายกรัฐมนตรี ชี้แจงว่า ไม่มีคำว่าเดดไลน์ แต่ทุกฝ่ายต้องปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด โดยมอบหมายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้วร่วมกับฝ่ายทหาร ตำรวจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบริหารสถานการณ์
ขณะเดียวกัน นายอนุทิน ตอบโต้คำกล่าวของนายกรัฐมนตรีกัมพูชาที่ระบุว่าไทยดำเนินการล่าช้าในการแก้ปัญหาชายแดน โดยยืนยันว่า ไทยไม่ใช่ผู้รุกราน และเป็นฝ่ายที่ถูกกระทำ
ส่วนกรณีที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ แสดงความจำนงจะเป็นคนกลางช่วยไกล่เกลี่ยข้อพิพาท นายอนุทิน เผยว่า ไทยพร้อมให้ความร่วมมือหากกัมพูชาปฏิบัติตามเงื่อนไขทั้ง 4 ข้อ เพราะถือเป็นเรื่องสำคัญ ต่อความมั่นคงของประเทศ และความปลอดภัยของประชาชน
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงการยกเลิกบันทึกความเข้าใจ MOU 43 และ 44 ว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาของกรรมาธิการทั้งสองสภา โดยขอเวลาให้สถานการณ์คลี่คลายก่อน จึงค่อยดำเนินการในระยะยาวต่อไป
ขณะที่ กองกำลังบูรพา กองทัพภาคที่ 1 ออกหนังสือด่วนมาก เพื่อแจ้งการเข้าดำเนินการเก็บกู้ทุ่นระเบิดในพื้นที่ชายแดนไทย–กัมพูชา บริเวณบ้านหนองจาน ตำบลโนนหมากมุ่น และบ้านหนองหญ้าแก้ว ตำบลโคกสูง จังหวัดสระแก้ว ในวันที่ 10 ตุลาคมนี้ เป็นไปตามข้อตกลงจากการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย–กัมพูชา(GBC) สมัยวิสามัญ ที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 10 กันยายนที่ผ่านมา ณ จังหวัดเกาะกง ประเทศกัมพูชา
ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องให้ร่วมมือกันดำเนินการเก็บกู้ทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรม เพื่อสร้างความปลอดภัยให้กับประชาชนในพื้นที่ และส่งเสริมการพัฒนาทางเศรษฐกิจและสังคมร่วมกัน
กองกำลังบูรพา ยืนยันว่า การปฏิบัติครั้งนี้เป็นไปตามข้อตกลงระหว่างประเทศ และขอความร่วมมือจากทุกฝ่ายเพื่อป้องกันความเข้าใจผิดในการปฏิบัติงาน
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
